วันนี้ (20 ก.พ. 67) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงผลการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ วันที่ 82 โดยเมื่อเวลา 15.00 น. สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้รายงานผลการลงทะเบียน พบว่า มีประชาชนลงทะเบียนแล้ว 144,937 ราย มูลหนี้รวม 10,394.416 ล้านบาท เป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 120,785 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 24,152 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 115,699 ราย มีพื้นที่/จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับแรก ดังนี้ 1. กรุงเทพมหานคร ยังคงมีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 11,186 ราย เจ้าหนี้ 8,380 ราย มูลหนี้ 928.508 ล้านบาท 2. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 5,843 ราย เจ้าหนี้ 5,525 ราย มูลหนี้ 400.532 ล้านบาท 3. จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน 5,368 ราย เจ้าหนี้ 4,357 ราย มูลหนี้ 354.127 ล้านบาท 4. จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 5,016 ราย เจ้าหนี้ 4,140 ราย มูลหนี้ 434.579 ล้านบาท 5. จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ลงทะเบียน 3,982 ราย เจ้าหนี้ 2,901 ราย มูลหนี้ 369.299 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1. จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน 240 ราย เจ้าหนี้ 241 ราย มูลหนี้ 14.605 ล้านบาท 2. จังหวัดระนอง มีผู้ลงทะเบียน 343 ราย เจ้าหนี้ 263 ราย มูลหนี้ 23.868 ล้านบาท 3. จังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน 385 ราย เจ้าหนี้ 300 ราย มูลหนี้ 15.008 ล้านบาท 4. จังหวัดตราด มีผู้ลงทะเบียน 463 ราย เจ้าหนี้ 340 ราย มูลหนี้ 20.462 ล้านบาท และ 5. จังหวัดสิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน 466 ราย เจ้าหนี้ 378 ราย มูลหนี้ 26.442 ล้านบาท
“สำหรับข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบทั่วประเทศพบว่า มีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 25,214 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 15,648 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนการไกล่เกลี่ย 2,292.648 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 1,568 ล้านบาท มูลหนี้ลดลง 724.585 ล้านบาท และจังหวัดที่สามารถนำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุดยังคงเป็นจังหวัดนครสวรรค์เช่นเดิม โดยมีลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย 3,276 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 426 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 276.995 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 44.555 ล้านบาท ทำให้มูลหนี้ของพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์ลดลง 232.439 ล้านบาท สำหรับกรณีที่ไม่ได้รับความร่วมมือกระทั่งไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้ เจ้าหนี้และลูกหนี้ได้มีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ ดำเนินการแล้ว 282 คดี ใน 36 จังหวัด” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างเต็มที และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ประชาชนที่ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ ฝ่ายปกครองจะเชิญทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยประนีประนอม แต่หากการไกล่เกลี่ยไม่เป็นผลก็ต้องใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าไปแก้ปัญหาต่อไป นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกอำเภอดำเนินการจัดกิจกรรม “ตลาดนัดแก้หนี้” อย่างน้อยเดือนละ 4 ครั้ง หนุนเสริมเพิ่มเติมจากตลาดนัดแก้หนี้ระดับจังหวัดที่มีการจัดเดือนละ 1 ครั้ง โดยบูรณาการกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถาบันการเงิน เพื่อนำเข้าสู่หนี้ในระบบควบคู่กับการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน
“ในส่วนของการนำเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ปัจจุบันมีประชาชนที่มาลงทะเบียนหนี้นอกระบบที่เป็นลูกหนี้ และที่ไม่สามารถให้ข้อมูลเจ้าหนี้นอกระบบได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้การติดต่อเชิญมาไกล่เกลี่ยเพิ่มเติมได้ยาก ซึ่งเราได้มีการประชุมปรึกษาหารือพบว่าทั้งหมดที่ไม่สามารถให้ข้อมูลเจ้าหนี้นอกระบบได้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกมืออาชีพพวกปล่อยเงินกู้นอกระบบมืออาชีพ มีลูกน้องที่เป็นเรียกว่าแก๊งหมวกกันน็อค ไปปล่อยเงินกู้ตามตลาดตามชุมชน ทำให้ชาวบ้านทราบเฉพาะเพียงชื่อเล่นของเจ้าหนี้ ซึ่งใช้วิธีการทวงหนี้แบบเดินเก็บตามตลาดหรือในที่ที่ลูกหนี้ทำมาหากินอยู่ ในส่วนนี้กระทรวงมหาดไทยจะจัดส่งข้อมูลรายละเอียด อาทิ รายชื่อ และสถานที่ที่คนกลุ่มนี้ไปปล่อยกู้ ซึ่งทั้งหมดเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะไม่มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการปล่อยกู้ ยิ่งไปกว่านั้นยังเก็บดอกเบี้ยที่เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด รวมถึงได้ส่งข้อมูลการทวงหนี้แบบใช้ความรุนแรงหรือข่มขู่คุกคาม ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการต่อไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวส่งท้ายว่า ขณะนี้ยังเหลือเวลาอีก 9 วันที่พี่น้องประชาชนยังคงสามารถลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเราจะรับลงทะเบียนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ ทั้งการเดินทางไปขอคำปรึกษาและลงทะเบียน ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด (ห้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด) ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง (ห้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ) สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตของกรุงเทพมหานคร ตลอดจนพื้นที่การจัดมหกรรมตลาดนัดแก้หนี้ระดับจังหวัด และตลาดนัดแก้หนี้อำเภอ หรือสามารถลงทะเบียนทางระบบออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง
#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 285/2567 วันที่ 20 ก.พ. 2567