วันนี้ (29 มี.ค. 67) เวลา 08.00 น. ที่บริเวณเกาะกลางน้ำ ภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรียุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำหัวหน้าส่วนราชการและภาคีเครือข่าย น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จัดกิจกรรมปลูกผักสวนครัว มอบต้นกล้าและแบ่งปันเมล็ดพันธุ์ผัก ขับเคลื่อนการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยมี พัฒนาการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาคเอกชน ปราชญ์ด้านเกษตร อำเภอบางไทร และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้น้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สู่การปฏิบัติในระดับครัวเรือน พร้อมทั้งน้อมนําแนวพระราชดําริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้านการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว โดยดําเนินงาน 6 กระบวนงาน ได้แก่ 1) ผู้นําต้นแบบตัวอย่างที่เห็นจริง 2) ผู้นําต้องทำก่อน 3) นักพัฒนา 3 ประสาน กลไกการขับเคลื่อน 4) ทุกครัวเรือนคือคลังอาหาร ทุกหมู่บ้านคือศูนย์แบ่งปัน 5) ทักษะชีวิตวิถีใหม่ เยาวชนไทยสร้างอาหารเป็น 6) ถอดรหัสการพัฒนา : ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองในการสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน
นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา น้อมนำพระราชดำริด้านการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ขยายผลทำให้ทุกครัวเรือนมีพืชผักสวนครัวไว้บริโภค ร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอย่างต่อเนื่อง โดยมีกลไกภาคีเครือข่ายเป็นกำลังที่สำคัญ นอกจากนี้ ยังได้นำนโยบายของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยในด้านการดูแลสุขอนามัยเด็กและแม่ ด้วยการส่งเสริมให้เกิดการเลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงเป็ด เพื่อให้เด็กให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน เพราะไข่ขาวจะให้โปรตีนเพื่อซ่อมแซมส่วนของร่างกายที่สึกหรอ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายของเด็กมีพัฒนาการที่ดีทุกเรื่อง ตลอดจนถึงในด้านสิ่งแวดล้อม ต้องทำให้คนในหมู่บ้านเป็นมนุษย์ 3Rs คือ ใช้น้อย (Reduce) ใช้ซ้ำ (Reuse) นำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) รู้จักการคัดแยกขยะ มีการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อให้เกิดจุลินทรีย์ไปเป็นสารบำรุงดินบำรุงพืชผักสวนครัวอีกด้วย
“สิ่งสำคัญที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยามุ่งเน้นในการขับเคลื่อนการดำเนินกิจกรรม คือ กลไก 7 ภาคีเครือข่าย ได้แก่ ภาคราชการ ภาคผู้นำศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และภาคสื่อสารมวลชน และหลักการทรงงาน 4 ด้าน คือ ร่วมพูดคุย ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับประโยชน์ มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคีเครือข่ายภาคผู้นำศาสนา ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีวัดในบวรพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก และได้รับเมตตาจากคณะสงฆ์เป็นผู้นำร่วมกับฝ่ายปกครองในการเสริมสร้างสิ่งที่ดีของชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยการรณรงค์ให้มีการปลูกผักสวนครัวทุกครัวเรือน เน้นการพึ่งตนเองและความสามัคคีของคนในชุมชน พร้อมทั้งต่อยอดและขยายผลอย่างต่อเนื่องให้เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยในปี 2567 ได้มีการต่อยอดเป้าหมายการดำเนินการครัวเรือนปลูกผักสวนครัวอย่างน้อย 10 ชนิด ให้เต็มพื้นที่ครบทุกครัวเรือน ตามข้อมูลมาตรฐาน ThaiQM ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งมีการรณรงค์ส่งเสริมการดำเนินกิจกรรม “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ให้เต็มพื้นที่ 16 อำเภอ” นายนิวัฒน์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 531/2567 วันที่ 29 มี.ค. 2567
