วันนี้ (12 เม.ย. 67) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่คนไทยเราถือว่าเป็นช่วงเทศกาลแห่งความสุขเนื่องในวันปีใหม่ไทย ซึ่งลูกหลานไม่ว่าจะอยู่สารทิศไหนก็จะกลับไปที่ภูมิลำเนา ดังนั้นเรื่องที่สำคัญที่สุด คือ การวางแผนในการเดินทางที่ต้องวางแผนให้ดี เพราะคนจำนวนมากก็จะออกจากกรุงเทพมหานครเพื่อกลับภูมิลำเนา โดยในแง่ความปลอดภัยเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทรวงมหาดไทยในฐานะฝ่ายอำนวยการของคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน ได้มอบแนวทางให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด นายอำเภอในฐานะผู้อำนวยการอำเภอ ได้กำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน และข้าราชการทุกภาคส่วนในพื้นที่ช่วยกันอำนวยความสะดวกอย่างเต็มกำลัง
“ในส่วนที่สำคัญถัดมา คือเรื่องความภาคภูมิใจของพวกเราคนไทยในฐานะผู้สืบสาน รักษา ประเพณีสงกรานต์ให้คงอยู่อย่างยืนยาวนานสืบมา โดยรัฐบาลได้ส่งเสริมในทุกมิติเพื่อให้เทศกาลสงกรานต์เป็นเทศกาลที่สร้างชื่อให้กับประเทศชาติ ภายหลังจาก UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้เทศกาลสงกรานต์เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ด้วยการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนการจัดกิจกรรมทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่าง ๆ ตลอดจนถึงทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งได้ร่วมกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ จัดกิจกรรม ณ สถานที่ต่าง ๆ และในเรื่องการเล่นน้ำสงกรานต์ก็เล่นด้วยความสุภาพ ไม่ใช้เทศกาลแห่งความสุขไปลวนลามทางเพศ หรือมึนเมาสร้างความเดือดร้อนผู้อื่น เพื่อให้ทุกคน ทั้งคนไทยเราและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ใช้ห้วงเวลาแห่งความสุขสร้างความสนุกสนาน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ กล่าวเน้นย้ำว่า นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำไปยังทุกจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันส่งเสริมคุณค่าสารัตถะของวันสงกรานต์ รณรงค์ให้ประชาชนคนไทย “ไม่ลืมแก่นแท้ของวันสงกรานต์” ว่าประการที่ 1 เป็นวันครอบครัวที่สมาชิกในครอบครัวไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลไหนหรือประเทศใดในโลกนี้ก็จะกลับภูมิลำเนาเพื่ออยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ประการที่ 2 เป็นวันแห่งความกตัญญูกตเวทีที่เราจะร่วมกันรำลึกนึกถึงบรรพบุรุษที่เสียชีวิต ด้วยการทำบุญใส่บาตร ถวายสังฆทาน ทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล จากนั้น สรงน้ำพระ ขอพรผู้ใหญ่ อันเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนทุกเพศทุกวัยต้องช่วยกันรักษาประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามนี้
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ในแง่โรงแรมที่พัก ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้ซักซ้อมชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัด/อำเภอ ได้จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วออกตรวจตราความเรียบร้อย รวมทั้งมอบหมายพนักงานฝ่ายปกครองลงพื้นที่ทำความเข้าใจและขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงแรมได้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม เพื่อไม่ให้โรงแรมกลายเป็นสถานที่ที่ทำให้ลูกหลานของเราประพฤติตนในทางที่ไม่เหมาะสม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งได้กำชับผู้จัดงานในพื้นที่ไม่ให้มีการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาเป็นปัจจัยที่ส่งผลเสียให้เกิดการทะเลาะวิวาท ขาดสติ ก่อเหตุความรุนแรง เพื่อให้งานสงกรานต์ของเราเป็นงานแห่งความสุขของทุกคน
“ในนามของกระทรวงมหาดไทยและภาคราชการทุกกระทรวง ทุกกรม เราเต็มใจอย่างเต็มที่ในการที่จะทำให้พี่น้องประชาชนได้กลับไปพักผ่อนกับครอบครัว โดยคนมหาดไทยจะเป็นผู้นำข้าราชการทุกสังกัดในพื้นที่ได้ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว อำนวยการทำให้พี่น้องประชาชนได้เดินทางกลับบ้านในเทศกาลปีใหม่ไทยอย่างมีความสุข ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอไม่มีข้าราชการคนใดลากลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะเป็นหน้าที่ของคนมหาดไทยและครอบครัวที่เราต่างยึดมั่นในอุดมการณ์ ด้วยจิตสำนึกแห่งการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ในการอำนวยการสร้างความสุขให้กับพี่น้องประชาชนในเทศกาลแห่งความสุข เพราะพวกเราถูกบ่มเพาะให้มีจิตวิญญาณของการเป็นผู้รับใช้ประชาชน และในโอกาสนี้ ขออาราธนาสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พี่น้องประชาชนทุกท่านเคารพนับถือได้ดลบันดาลประทานพรให้ทุกท่านมีความสุขและปลอดภัย และได้มีโอกาสอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว ขอให้ได้รับสิ่งที่ดีในช่วงของเทศกาลปีใหม่ไทยโดยถ้วนหน้ากัน และหากต้องการขอรับความช่วยเหลือหรือสอบถามด้านต่าง ๆ สามารถโทรสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 636/2567 วันที่ 12 เม.ย. 2567