วันนี้ (12 เม.ย. 67) นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมได้ขับเคลื่อนการยกระดับ “กล้วย” สู่ความยั่งยืน ให้แก่ครัวเรือนสมาชิก โคก หนอง นา ผู้ประกอบการ OTOP และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง โดยตนพร้อมด้วยพัฒนาการจังหวัดนครพนม ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน ผู้อำนวยการกลุ่มงานประสานและสนับสนุนการบริหารงานพัฒนาชุมชน พัฒนาการอำเภอเมืองนครพนม และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนมและอำเภอ ได้ส่งมอบหน่อกล้วยตานีตามแนวทางส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน คนนครพนม “จากใบตองกล้วยธรรมดา สู่ มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ” ต้นเงิน (ATM) ข้างบ้าน ต้นบำนาญในสวน ให้แก่ผู้แทนครัวเรือนโคก หนอง นา ผู้แทนครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง และประชาชนผู้สนใจ ในเฟสที่ 1 ณ แปลงปลูกกล้วยตานี นางใบสวน คำสี หมู่ที่ 7 บ้านกลางน้อย ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม จำนวน 2,980 หน่อ
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล จังหวัดนครพนม จึงได้ให้ความสำคัญในการสนับสนุนการขับเคลื่อนกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายคือ “สร้างรายได้ให้กับชุมชน เพื่อประชาชนมีความสุข” มีการบูรณาการภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคส่วน โดยการพัฒนาศักยภาพกลไกในพื้นที่ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างเครือข่ายกระจายรายได้สู่ชุมชน ให้มีประสิทธิภาพ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้ขยายตัว โดยการส่งเสริมการปลูกกล้วยตานี แก่ครัวเรือนยากจน และครัวเรือน โคก หนอง นา ที่มีความพร้อมและมีศักยภาพเป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต และประชาชนทั่วไปที่สนใจ ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดของการใช้ใบตองกล้วยในการทำกะละแม พานบายศรี และผลิตภัณฑ์จากใบตองกล้วย ของจังหวัดนครพนม
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 จังหวัดนครพนมได้จัดกิจกรรมพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีสมทบกองทุนส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน คนนครพนม “ใบตองกล้วยธรรมดา สู่ มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ” ณ วัดสว่างสุวรรณาราม ตำบลหนองแสง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม เพื่อหารายได้สมทบกองทุนส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน คนนครพนม “ใบตองกล้วยธรรมดา สู่ มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ” และนำไปซื้อพันธุ์กล้วยตานีให้กับครัวเรือนยากจนและครัวเรือนโคก หนอง นา ที่มีความพร้อมและมีศักยภาพเป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต
“ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครพนมจึงได้จัดกิจกรรมขยายผลการส่งมอบและปลูกกล้วยตานีตามแนวทางส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน คนนครพนม “จากใบตองกล้วยธรรมดา สู่ มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ” ต้นเงิน (ATM) ข้างบ้าน ต้นบำนาญในสวน เพื่อสร้างการรับรู้และขยายผล ต่อยอดการดำเนินโครงการฯ โดยมีกิจกรรมมอบหน่อกล้วยตานี แก่ผู้แทนครัวเรือนโคก หนอง นา ผู้แทนครัวเรือนเปราะบาง และประชาชนผู้สนใจ โดยในเฟสที่ 1 มีผู้แทนรับมอบ จำนวน 5 อำเภอ ได้แก่ 1. อำเภอเมืองนครพนม 2. อำเภอธาตุพนม 3. อำเภอเรณูนคร 4. อำเภอนาแก และ 5. อำเภอปลาปาก รวมจำนวนหน่อยกล้วยทั้งสิ้น 2,980 หน่อ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายนำไปปลูกในพื้นที่ และขยายพันธุ์หน่อกล้วยตานี ไว้สำหรับดำเนินโครงการฯ ต่อไป หลังจากนั้น ตนได้มอบเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดให้กับผู้แทนครัวเรือน และได้ตรวจเยี่ยมแปลงปลูกข้าวโพด แปลงปลูกกล้วยตานี และการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ ณ แปลงนางใบสวน คำสี หมู่ที่ 7 บ้านกลางน้อย ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองนครพนม” นายวันชัยฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในเวลาเดียวกัน ตนได้มอบหมายให้ นายรัฐพล นวภัทรเมธากุล ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครอง อำเภอท่าอุเทน พร้อมด้วย ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน พัฒนาการอำเภอท่าอุเทน เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนมและอำเภอท่าอุเทน เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลรามราช อำเภอท่าอุเทน ภาคีเครือข่ายงานพัฒนาชุมชน และประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ร่วมส่งมอบหน่อกล้วยตานี แก่ผู้แทนครัวเรือนโคก หนอง นา ผู้แทนครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง และประชาชนผู้สนใจ ณ แปลงปลูกกล้วยตานี นายสมบูรณ์ เสนาสี บ้านโพนก่อ หมู่ที่ 6 ตำบลรามราช อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม โดยมีผู้แทนรับมอบ จำนวน 2 อำเภอ ได้แก่ 1. อำเภอท่าอุเทน 2. อำเภอโพนสวรรค์ รวมจำนวนหน่อกล้วยทั้งสิ้น 1,320 หน่อ
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอให้พวกเราชาวมหาดไทย ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ของจังหวัดนครพนมและพื้นที่อื่น ๆ ได้ร่วมแรงร่วมใจกันในการเป็น “ราชสีห์ผู้บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน” ด้วยการน้อมนำพระโอวาทขององค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย คือ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ทรงประทานไว้ว่า “ทำงานจนรองเท้าสึกก่อนกางเกงขาด” อันหมายความว่า ต้องหมั่นลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียน ไปสอบถาม ไปพูดคุย ไปติดตามถามไถ่ ไปใช้ชีวิตร่วมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ไม่ใช่นั่งทำงานอยู่บนออฟฟิศเพียงอย่างเดียวจนกางเกงขาด เพราะงานของชาวมหาดไทยส่วนใหญ่ คือ การทำงานคลุกคลีตีโมงกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ลงไปค้นหาปัญหาในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ไม่ใช่นั่งทำงานบนสำนักงานเพื่อรอรับรายงานปัญหา และการลงพื้นที่นั้นก็ขอให้น้อมนำหลักทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาใช้ในการปฏิบัติงาน ด้วยการทำให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมพูดคุยปรึกษาหารือ ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับประโยชน์ อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง เพื่อทำให้จังหวัดนครพนมเป็นพื้นที่แห่งความยั่งยืน เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรม อันจะทำให้เกิดการส่งเสริมเศรษฐกิจภาพรวม ส่งผลให้พี่น้องประชาชนชาวนครพนมได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขอย่างยั่งยืน
#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 637/2567 วันที่ 12 เม.ย. 67