วันนี้ (12 เม.ย. 67) เวลา 14.00 น ที่องค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษา และมอบเครื่องแบบนักเรียนชุดลูกเสือ ชุดเนตรนารี โรงเรียนองค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ (เจ้าคุณเชิดอุปถัมภ์) และมอบข้าวสารให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการในพื้นที่ตำบลรางจรเข้ โดยได้รับเมตตาจากพระพรหมวชิรมุนี (เชิด จิตฺตคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดสุทัศเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โอกาสนี้ นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาจารย์ประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายณรงค์วิทย์ พบพาน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ นางอมรรัตน์ กรึงไกร นายอำเภอเสนา นายแพทย์ธัชชัย บำรุงสงฆ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสนา หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และภาคีเครือข่ายร่วมพิธีโดยมี ดร.พงศกร มงคลหมู่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ ผู้บริหาร สมาชิกสภา พนักงาน เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนชาวตำบลรางจรเข้ จำนวนกว่า 300 คน ให้การต้อนรับและร่วมพิธี
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้ากราบสักการะพระพรหมวชิรมุนี ประธานฝ่ายสงฆ์ จากนั้น เป็นประธานมอบชุดนักเรียนให้กับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็กเนอสเซอรี่ จำนวน 8 คน เด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ จำนวน 60 คน และมอบชุดลูกเสือสำรองให้กับนักเรียน ระดับชั้น ป.1 จำนวน 29 ชุด ชุดลูกเสือเนตรนารีให้กับนักเรียน ระดับชั้น ป.4 จำนวน 23 ชุด มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนที่มีจิตกุศลจะเข้าพิธีบรรพชาสามเณร วัดเจ้าเจ็ดใน จำนวน 6 คน ศูนย์ปฏิบัติธรรมพระพิมลภาวนาพิธาน ตำบลสามกอ จำนวน 10 ทุน ทุนการศึกษาให้กับนักเรียนโรงเรียนองค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ (เจ้าคุณเชิดอุปถัมภ์) ระดับชั้นอนุบาล 1 จำนวน 20 คน ระดับชั้น ป.1 จำนวน 29 คน ระดับชั้น ป.2 จำนวน 20 คน และมอบข้าวสารให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการตำบลรางจรเข้
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย มีความปลาบปลื้มใจที่ได้เห็นพระเดชพระคุณพระพรหมวชิรมุนี ผู้อุปถัมภ์ช่วยเหลือให้ลูก ๆ หลาน ๆ และพี่น้องประชาชนในเขตตำบลรางจรเข้ และตำบลอื่น ๆ ในพื้นที่อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตลอดจนทุกจังหวัดทั่วประเทศ ได้มีสิ่งที่ดีงามของชีวิต ซึ่งการที่พระเดชพระคุณเมตตาอุปถัมภ์สนับสนุนช่วยเหลือนายกองค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ให้สามารถบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลดีมากนั้น เป็นการช่วยเหลือบุคคลที่เป็นคนดีของประเทศชาติ ผู้เป็นที่ภาคภูมิใจของพวกเราชาวกระทรวงมหาดไทยที่มีนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดีเยี่ยม และมีความมุ่งมั่นตั้งอกตั้งใจในการทำงาน จนได้รับการสนับสนุนและความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนเป็นเวลายาวนาน สะท้อนให้เห็นว่าพี่น้องประชาชนเห็นคุณค่าในการทำหน้าที่อย่างดี เป็นการส่งเสริมให้คนดีได้มีโอกาสบริหารราชการแผ่นดิน ได้มีโอกาสปกครองดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน สมดังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2512 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ ความสำคัญตอนหนึ่งว่า “…ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คน ทุกคนเป็นดีได้ทั้งหมด การทำให้ บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ ทุกคนเป็นคนดี หาก แต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้ มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้…“ สะท้อนผ่านผลการทำงานขององค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ อาทิ รางวัลชนะเลิศองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประเภทดีเลิศอันดับ 1 ของประเทศ รางวัลผู้บริหารดีเด่นด้านการจัดการศึกษาจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รางวัลศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยด้านสุขภาพ (4D) คะแนนสูงสุดของจังหวัด รางวัลชุมชนดีเด่นในการดำเนินงานตามแนวคิด CBTx & Harm reduction
“องค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ เป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นแรกจาก 7,849 แห่ง ที่แก้ปัญหาการเผาตอซังข้าวจนทำให้ตำบลรางจรเข้เป็น “ชุมชนปลอดเผาตอซัง 100%” ด้วยการนำตอซังไปอัดเป็นฟางข้าว แล้วเชื่อมโยงการตลาดขายต่อให้กับภาคเอกชนนำไปเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล ผลิตกระดาษ และอาหารสัตว์ นอกจากนี้ ยังพัฒนางานตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งเรื่องการศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยโรงเรียน อบต.รางจรเข้ มีสระว่ายน้ำสำหรับการเรียนวิชาว่ายน้ำด้วย แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเอาใจใส่และพุ่งเป้าพัฒนาอย่างเต็มกำลังความสามารถ” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอถวายกำลังใจแด่พระเดชพระคุณพระพรหมวชิรมุนี ที่เมตตาอนุเคราะห์อุปถัมภ์ทำให้ลูกหลานเรามีที่เล่าเรียนศึกษาดี ๆ คือ โรงเรียนองค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ (เจ้าคุณเชิดอุปถัมภ์) และแม้ว่าในเทศกาลปีใหม่ไทยท่านเจ้าคุณจะมีกิจนิมนต์มากอย่างไร ท่านเจ้าคุณก็เมตตาเดินทางมาเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวรางจรเข้ และผู้บริหารในการทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองอย่างสม่ำเสมอ เป็นการแสดงกตเวทิตตาคุณต่อมาตุภูมิแผ่นดินเกิด ดังพุทธศาสนสุภาษิต “นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ กตญฺญู กตเวทิตา ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี” ทั้งยังสอดคล้องกับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน ที่กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมลงนามกับมหาเถรสมาคม อันมีเป้าหมายเพื่อให้พระเถระได้เป็นผู้นำฝ่ายบ้านเมือง อันประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และทีมงานไปสงเคราะห์ญาติโยม ให้ได้มีปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต และส่งผลดีกับสุขภาพจิตของผู้คน คือ ทำให้คนอยู่ในศีลในธรรมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
พระพรหมวชิรมุนี กล่าวสัมโมทนียกถา ความว่า ขออนุโมทนาในน้ำใจของท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้เดินทางมาเป็นประธานฝ่ายฆราวาสในกิจกรรมวันนี้ ทำให้พี่น้องชาวรางจรเข้ ได้รับฟังคำยกย่องว่า ดร.พงศกร มงคลหมู่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ หรือ “นายกฯ ต้น” ของเราเป็นผู้ที่มีผลงานมากมาย ส่งประกวดอะไรแล้วก็ได้รางวัลที่ 1 มาหลายครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องจริง เพราะนายกฯ ต้น พยายามช่วยเหลือสังคมโดยเฉพาะชาวตำบลรางจรเข้และตำบลอื่น ๆ อย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งนี้ อบต.รางจรเข้ จะเจริญได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องญาติโยมทั้งหลาย ซึ่งอาตมภาพในฐานะชาวรางจรเข้ก็ยินดีที่ได้รับอาสาพัฒนาในหลายเรื่องเพื่อชาวรางจรเข้ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ ต่อผู้มีพระคุณของตำบลรางจรเข้
“กิจกรรมการมอบทุนการศึกษา และมอบเครื่องแบบนักเรียนชุดลูกเสือ ชุดเนตรนารี โรงเรียนองค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ (เจ้าคุณเชิดอุปถัมภ์) และมอบข้าวสารให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการในพื้นที่ตำบลรางจรเข้ในวันนี้ เราก็ได้จัดกันมาเป็นประจำทุกปี โดยปัจจัยที่นำมาใช้ในการซื้อของนั้น ได้ขอรับการสนับสนุนจากเงินสาธารณสงเคราะห์วัดสุทัศนเทพวราราม 100,000 บาท เงินจากการรวบรวมของนายก อบต.รางจรเข้ 20,000 บาท และปัจจัยส่วนตน 20,000 บาท นอกจากนี้ ได้รับการสนับสนุนสิ่งของเพิ่มเติมจากคุณอัศวิน – คุณฐาปนี เตชะเจริญวิกุล บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อีกด้วย” พระพรหมวชิรมุนี กล่าวเพิ่มเติม
พระพรหมวชิรมุนี กล่าวต่ออีกว่า เราเป็นคนถิ่นนี้ หากมีอะไรช่วยเหลือได้เราก็ช่วย ด้วยเพราะปัจจุบันอาตมภาพอายุ 84 ปีแล้ว การช่วยเหลือนี้ถือเป็นการทำความดีในช่วงปลายของชีวิต เพราะแม้เราอายุมาก แต่ยังมีเรี่ยวแรงที่ยังมาช่วยสนับสนุนได้ก็จะมา สิ่งของที่เราสนับสนุนนั้นล้วนเป็นปัจจัย 4 ที่เกิดจากศรัทธาญาติโยม โดยเราเป็นผู้นำรวบรวมมาให้ ด้วยเพราะกุศลจิตที่คิดอยู่เสมอว่า เราเป็นชาวรางจรเข้ เกิดในครอบครัวที่มีลูกหลายคน จึงได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 13 ปี และหลังจากนั้นก็มีความระลึกอยู่เสมอว่า เราควรจะมีความกตัญญูรู้คุณต่อครูบาอาจารย์พ่อแม่ญาติวงศ์วานอยู่ในใจ แม้ท่านจะถึงแก่กรรมไปแล้วเราก็นึกถึงคุณความดีของท่าน จึงต้องกลับมาดูแลสนับสนุนช่วยเหลือลูกหลานชาวรางจรเข้ ทำให้สังคมมีความช่วยเหลือเกื้อกูล เมื่อได้ช่วยเหลือแล้วเราก็มีความสบายใจที่ได้ตอบแทนคุณที่ผู้มีพระคุณได้สร้างไว้ให้กับเรา
“เราต้องไม่ลืมตัว และเตือนตัวเองอยู่ตลอดว่า เรามาจากไหน เราเป็นใคร ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นอะไร ตำแหน่งอะไรก็แล้วแต่ ในท้ายที่สุดทุกคนก็ต้องถึงความตาย ความตายรออยู่ข้างหน้า ซึ่งเราทั้งหลายอาจจะยังไม่คิดถึง แต่ถ้าเมื่อเราอายุมากเราก็จะคิดถึง เพื่อที่จะตอกย้ำว่า “จะต้องทำสิ่งที่ดีช่วยเหลือคนอื่น” ไม่คดโกง เป็นคนดีของสังคม ก็จะได้ชื่อว่าเป็นคนที่จะมีอนาคตที่ดีเมื่อละโลกนี้ไปสู่ปรโลก หรือ โลกหน้า ซึ่งเป็นอย่างไรนั้นเรายังไม่รู้ แต่ที่แน่นอน คือ การทำสิ่งที่ดีก็จะนำพาเราไปสู่สิ่งที่เป็นความสุขในภาคหน้า หรือที่เรียกว่า “สุคติ” ขอให้สร้างความดีให้เกิดขึ้นกับตนเอง เพื่อจะได้มีบุญหนุนนำไม่ลำบาก ดังพุทธศาสนสุภาษิต “ปุญญานิ ปะระโลกัสมึ ปะติฏฐา โหนติ ปาณินัง : บุญกุศลทั้งหลายที่เราได้ทำแล้วเป็นที่พึ่งให้กับเราในสัมปรายภพ”” พระพรหมวชิรมุนี กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ ุ640/2567 วันที่ 12 เม.ย. 2567