วันนี้ (31 ก.ค. 67) นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงกรณีที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับกลุ่มชาวไทใหญ่จากเมืองล่าเสี้ยว อพยพหนีภัยสงครามเพื่อเข้าสู่พื้นที่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 11.05 น. ที่ผ่านมา โดยบุคคลชื่อ “นางจ๋ามคำ” ได้ลงคลิปวิดีโอการเดินทาง ผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อ คณะลูกหลานเจ้าเสือข่านฟ้า (กลุ่มชนชาติไต หรือไทใหญ่) ตั้งแต่ล่าเสี้ยว ถึงหมู่บ้านนากง ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำสาละวิน ตรงข้ามบ้านหัวเมือง อำเภอลางเคอ จังหวัดลางเคอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยมีเนื้อหาระบุว่าตนและพวก จำนวน 46 คน ได้หลบหนีภัยสงครามในเมืองล่าเสี้ยว รัฐฉาน (เหนือ) สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยมีเป้าหมายจะเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านบ้านหัวเมือง จังหวัดลางเคอ รัฐฉาน เพื่อเข้ามายัง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยใช้เวลาระยะเวลา ไม่เกิน 2-3 วัน
นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า พื้นที่เป้าหมายที่ประชาชน เมืองล่าเสี้ยว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา อพยพหนีภัยลงมา คือ เมืองนาย เมืองตองยี เมืองดอยแหลม เมืองหมอกใหม่ และเมืองลางเคอ ซึ่งทราบว่าผู้อพยพหนีภัยมีจำนวนไม่มาก โดยในพื้นที่เป้าหมายบริเวณดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่สามารถทำการเกษตรได้ และทางด้านกองกำลังสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน/กองทัพรัฐฉาน (RCSS/SSA-S) ได้มีการเตรียมพื้นที่รองรับสำหรับการอพยพไว้แล้ว จำนวน 4 แห่ง ในจังหวัดลางเคอ ซึ่งยังไม่ทราบที่ตั้ง นอกจากนี้ ในปัจจุบัน พบว่ามีหมู่บ้าน/สถานที่ผู้ลี้ภัยสงครามที่อยู่ในความดูแลของ กองกำลังดังกล่าวอยู่แล้ว มีจำนวน 4 แห่ง คือ 1) บ้านใหม่ป๋างโหลง ตำบลนาปง อำเภอหัวปง จังหวัดตองยี จำนวน 198 หลังคาเรือน มีประชากรอาศัย จำนวน 547 คน แบ่งเป็น ชาย 278 คน หญิง 269 คน โดยเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี จำนวน 126 คน 2) บ้านใหม่ จ๋อมแจ้ง ตำบลเกงคำ อำเภอกุ๋นฮิง จังหวัดน้ำจ๋าง จำนวน 50 หลังคาเรือน มีประชากรอาศัย จำนวน 257 คน แบ่งเป็น ชาย 127 คน หญิง 130 คน โดยเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี จำนวน 63 คน 3) บ้านใหม่ เป็งส่า ตำบลบ้านเลา อำเภอกุุ๋นฮิง จังหวัดน้ำจ๋าง มี 29 หลังคาเรือน มีประชากรอาศัย จำนวน 152 คน แบ่งเป็น ชาย 72 คน หญิง 80 คน โดยเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี จำนวน 126 คน และ 4) บ้านใหม่แลงไต ตำบลหัวฮะ อำเภอเก็งตอง จังหวัดน้ำจ๋าง มี 37 หลังคาเรือน มีประชากรอาศัย จำนวน 451 คน แบ่งเป็น ชาย 159 คน หญิง 292 คน โดยเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี จำนวน 75 คน
“การอพยพหนีภัยของประชาชนชาวเมียนมา จากเมืองล่าเสี้ยวได้มีการอพยพออกจากพื้นที่ตั้งแต่ห้วงปลายเดือน มิถุนายน 2567 เริ่มตั้งแต่กองกำลังพันธมิตร 3 ฝ่าย เปิดยุทธการ 1027/2 ในพื้นที่เมืองล่าเสี้ยว และพื้นที่บริเวณใกล้เคียง โดยการอพยพช่วงแรกนั้นเกิดจากการหวาดระแวงผลกระทบจากการสู้รบ จึงทำให้เริ่มมีการอพยพออกจากพื้นที่ รวมทั้งเพื่อหาที่พักอาศัย หรือที่ทำกิน โดยเดินทางผ่านเข้ามายังพื้นที่รัฐฉานใต้ ที่เป็นพื้นที่ควบคุมของ กองกำลังกองกำลังสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน/กองทัพรัฐฉาน (RCSS/SSA-S) ซึ่งในต้นทางก็ได้มีพื้นที่รัฐฉานใต้ได้มีการเตรียมพื้นที่รองรับไว้แล้ว อย่างไรก็ตามกรณีที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ว่าจะมีการเดินทางผ่านเข้ามาในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังไม่มีการอพยพเข้ามาในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนแต่อย่างใด ซึ่งหากมีการผ่านเข้ามาจะถือว่าเป็นการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย” นายชูชีพฯ กล่าว
นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้านเมียนมาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ครั้งที่ 6/2567 เมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2567 ณ ห้องประชุมขุนลุมประพาส ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยตนเป็นประธานฯ ในการประชุม ซึ่งที่ประชุมมีมติสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งได้มอบหมายให้หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่บูรณาการข้อมูลร่วมกับ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์การสู้รบในเมืองล่าเสี้ยว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สถานการณ์ในปัจจุบันยังมีความตรึงเครียด แต่ยังไม่ความรุนแรงมากนัก ประกอบกับเมืองล่าเสี้ยวอยู่ห่างจากพื้นที่ชายแดนไทย ประมาณ 860 กิโลเมตร ทำให้บริเวณชายแดนยังไม่ผู้อพยพหนีภัยจากการสู้รบชาวเมียนมาอพยพเข้ามาในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตนได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดำเนินการตามแนวทางที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กำหนด โดยเฉพาะด้านการให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบไว้ ซึ่งได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว เพื่อรองรับผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมา ตามพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอนเรียบร้อยแล้ว
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1485/2567 วันที่ 31 ก.ค. 2567