เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 67 นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ดำเนินการจัดการประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่งและลูกกรุง ภายใต้โครงการ “เยาวชนสืบสาน รักษ์เพลงไทย ประจำปี 2567” ในรอบรองชนะเลิศ โดยตน พร้อมด้วย ดร.นฤมล ล้อมทอง กรรมการผู้จัดการโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง นายปัทมนิธิ เสนาณรงค์ หัวหน้าฝ่ายบริหารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ พร้อมด้วย นายประสิทธิ์ อินทโชติ ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา นายสาครินทร์ จำปา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดฉะเชิงเทรา หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดฉะเชิงเทรา และประชาชน ร่วมรับชมและให้กำลังใจเยาวชนที่เข้าร่วมประกวดเป็นจำนวนมาก ณ โรงเรียนเซนต์หลุยส์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
นายชลธีฯ กล่าวว่า โครงการ “เยาวชนสืบสานรักษ์เพลงไทย” เป็นกิจกรรมที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาส่งเสริมทักษะของเด็ก และเยาวชน ทำให้ลูกหลานเยาวชนรุ่นใหม่ “New Generation” ได้มีโอกาสในการแสดงออกถึงความสามารถบนเวที รวมถึงได้ร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีเพลงลูกทุ่ง และลูกกรุงของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นเวทีให้เด็ก และเยาวชนของจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพิ่มพูนทักษะการขับร้องเพลงจากคณะครู และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่าน เพื่อนำไปพัฒนาตนเองในอนาคต ซึ่งในการประกวดร้องเพลงในครั้งนี้ จะเป็นเวทีสำหรับเด็กและเยาวชน ทั่วไปที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา หรือ เป็นนักเรียนที่อยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีโอกาสสมัครเข้ามาแสดงความสามารถด้านการร้องเพลงไทยลูกทุ่งและลูกกรุงตามความชื่นชอบของตน โดยในช่วงแรกจังหวัดจะได้จัดการประกวดแข่งขันร้องเพลงลูกทุ่ง และหลังจากนั้นจะได้จัดการประกวดลูกกรุงต่อไป
นายชลธีฯ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการจัดประกวดครั้งนี้ เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งมีเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 30 คน จากผู้สมัครจำนวนมากที่ผ่านการคัดเลือกในรอบ Audition จำนวน 160 คน และผ่านการแข่งขันในรอบคัดเลือก จาก 160 คน เหลือ 60 คน และเหลือ 30 คน ตามลำดับจนถึงรอบรองชนะเลิศ ที่ได้จัดการแข่งขันกันในวันนี้ โดยได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์ด้านการร้องเพลงลูกทุ่งและอยู่ในวงการบันเทิงร่วมตัดสิน เพื่อคัดเลือกเยาวชนที่มีความสามารถด้านการร้องเพลงลูกทุ่ง จำนวน 10 คน เข้าสู่การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2567 ที่โรงเรียนเซนต์หลุยส์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
นายชลธีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยการแข่งขันในครั้งนี้ ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ จะได้รับมอบถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท ผู้ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับมอบถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท และผู้ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับมอบถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับรางวัลชมเชย และรางวัลความสามารถพิเศษ จะได้รับมอบเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท ตลอดจนถึงผู้ที่เข้าร่วมประกวดในรอบชิงชนะเลิศ โครงการ “เยาวชนสืบสานรักษ์เพลงไทย” ทุกท่านก็จะได้รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติอีกด้วย ในวันนี้ตนพร้อมด้วยผู้มีเกียรติทุกท่านต่างมีความยินดีและดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมให้กำลังใจกับตัวแทนเยาวชนคนเก่งและมีความสามารถ ทั้ง 30 คน ที่เข้าร่วมประกวดร้องเพลงลูกทุ่งในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งแน่นอนว่ากว่าที่ทุกท่านจะได้มายืนอยู่ ณ เวทีอันทรงคุณค่าแห่งนี้ ล้วนแล้วจะต้องผ่านการฝึกฝนประสบการณ์ด้านการร้องเพลงไทยลูกทุ่งมาอย่างยาวนาน และต้องผ่านการประกวดในรอบ Audition และรอบคัดเลือก เพื่อผ่านด่านคู่แข่งที่มีความสามารถด้านการร้องเพลงหลายร้อยชีวิตเข้ามา
“ในวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2567 นี้ จะเป็นการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งในรอบชิงชนะเลิศ ที่โรงเรียนเซนต์หลุยส์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ขอเชิญชวนพ่อแม่ผู้ปกครอง และพี่น้องประชาชนที่มีความสนใจมาร่วมให้กำลังใจ เป็นแรงใจแรงเชียร์ให้ลูกหลานน้อง ๆ เยาวชน ผู้ผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายที่จะได้มาแสดงความสามารถด้านการร้องเพลงลูกทุ่งให้กับทุกท่านได้รับชมกัน ทั้งนี้ ตนขอเป็นกำลังใจให้ผู้เข้าประกวดทุกคนที่เป็นตัวแทนผ่านการคัดเลือกเข้ามาแข่งขันในรอบรองชนะเลิศวันนี้ มีความภาคภูมิใจว่าเราทุกคนมีความสามารถ และได้รับโอกาสที่ดีในการใช้เวทีแห่งนี้เพื่อฝึกฝนทักษะและประสบการณ์ด้านการร้องเพลงให้พัฒนาก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าการประกวดร้องเพลงย่อมจะต้องมีการตัดสินแพ้ชนะ มีทั้งผู้ที่สมหวังและผู้ที่ผิดหวังเป็นธรรมดา แต่ตนอยากให้ทุกคนมองสิ่งเหล่านี้ให้เป็นเพียงส่วนเสริมของการประกวดแข่งขันเพียงเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าเราจะผ่านเข้ารอบ หรือไม่ก็ตาม เราทุกคนก็ล้วนได้รับรางวัลแห่งชีวิต นั่นคือ ประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสมาร่วมขับร้องบทเพลงที่ทรงคุณค่า รวมถึงการแสดงความสามารถต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เปี่ยมไปด้วยความรู้และประสบการณ์ที่มีความตั้งใจดี และพร้อมจะให้คำแนะนำ เพื่อนำไปพัฒนาทักษะความสามารถให้ไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น ดังนั้น จึงอยากให้ผู้เข้าประกวดทุกคนได้ทำหน้าที่ของตนให้สุดกำลังความสามารถ เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีคุณค่า เป็นโอกาสที่หาได้ยากในชีวิต และไม่สามารถซื้อโอกาสเหล่านี้กลับมาด้วยเงิน หรือทรัพย์สินใด ๆ ได้อีก” นายชลธี กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1581/2567 วันที่ 13 ส.ค. 2567