วันนี้ (21 ส.ค. 67) นางสาวอภิสรา เกษอินทร์ นายอำเภอคลองหลวง เปิดเผยว่า ที่ทำการปกครองอำเภอคลองหลวง ได้นำนโยบายของ นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ในการดำเนินการจัดระเบียบสังคม จับกุมผู้กระทำความผิด ตามข้อสั่งการของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้กำชับให้ “นายอำเภอ” เป็นผู้นำการขับเคลื่อนแนวทางเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “มาตรการปราบปรามผู้ลักลอบนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า” ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 โดยให้ดำเนินการจับกุมปราบปรามผู้ลักลอบนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์ส่วนควบอย่างจริงจัง เด็ดขาดและต่อเนื่อง บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
“ที่ทำการปกครองอำเภอคลองหลวง (ฝ่ายความมั่นคง) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 4 แห่ง มีที่ตั้งห่างจากรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังในพื้นที่อำเภอคลองหลวง ตนจึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอคลองหลวง นำโดย นายอมรฤทธิพล เขียวรุ่งเพ็ชร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอคลองหลวง ที่ 2 ดำเนินการสืบสวนและสามารถจับกุมผู้ต้องหา 6 ราย รวม 4 คดี โดยขณะที่ชุดจับกุมเดินทางไปถึงต้องตะลึง เพราะพบนักเรียนหญิงอายุเพียง 14 ปีกำลังเลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ ได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้ดูแลร้าน ได้แก่ 1. ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิด ตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 2. ขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 เรื่อง ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ข้อ 3 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 พร้อมของกลาง 1. หัวพอร์ตบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 1,709 หัว 2. เครื่องพอร์ตบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 37 เครื่อง 3. เครื่องพอร์ตบุหรี่ไฟฟ้าใช้แล้วทิ้ง จำนวน 548 เครื่อง 4. คอยล์บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 41 หัว 5. เครื่องโทรศัพท์ จำนวน 1 เครื่อง 6. เครื่องแท็บเล็ต จำนวน 2 เครื่อง 7. เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับเก็บเงินพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 เครื่อง 8. คิวอาร์โค้ดโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ จำนวน 3 แผ่น และ 9. ป้ายโฆษณาขายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 3 แผ่น ซึ่งได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทำบันทึกจับกุมส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองห้า ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” นางสาวอภิสรา กล่าวเน้นย้ำ
นางสาวอภิสรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ทำการปกครองอำเภอคลองหลวง มุ่งมั่นในการเสริมสร้างความสงบสุขและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพราะอำเภอคลองหลวงเป็นพื้นที่ที่มีสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงของประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งเด็กและเยาวชนเป็นกำลังสำคัญของชาติที่อาจจะตกเป็นเหยื่อในการถูกมอมเมาให้ไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขต่าง ๆ และขอย้ำว่า หน้าที่ของฝ่ายปกครอง คือ การรักษาความสงบสุข สร้างความสงบเรียบร้อย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข โดยหากพี่น้องประชาชนมีเบาะแสการกระทำความผิดกฎหมายทุกประเภท สามารถแจ้งสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งผู้นำท้องที่ คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือแจ้งที่ทำการปกครองอำเภอคลองหลวง เพื่อเจ้าหน้าที่ดำเนินการกับผู้กระทำความผิดร่วมกับทุกหน่วยงานต่อไป
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1625/2567 วันที่ 21 ส.ค. 2567