เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 67 นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้อำเภอในจังหวัดเพชรบูรณ์ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอวังโป่ง และอำเภอชนแดน ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม และน้ำป่าไหลหลากทำให้บ้านเรือนพี่น้องประชาชนและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งได้รับความเสียหาย โดยในเบื้องต้นมีครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบราว 1,726 ครัวเรือน ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งให้ความช่วยเหลือแล้ว พร้อมสั่งการให้ติดตามสถานการณ์พื้นที่เสี่ยงภัยอย่างใกล้ชิด
นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า สถานการณ์เบื้องต้นของเหตุการณ์น้ำท่วมของจังหวัดเพชรบูรณ์ ใน 3 อำเภอ 6 ตำบล 22 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย จำนวน 1,726 ครัวเรือน มีรายละเอียดดังนี้
1) อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ณ ตำบลวังชมภู หมู่ที่ 4, 7, 8 และ 9 มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายประมาณ 100 หลังคาเรือน
2) อำเภอวังโป่ง ณ ตำบลวังโป่ง ตำบลซับเปิบ และตำบลท้ายดง มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย จำนวน 1,530 ครัวเรือน เสียหายทั้งหลัง จำนวน 1 หลัง โรงเรียนอนุบาลวังโป่งและโรงเรียนน้ำอ้อมประชาสรรค์ ประกาศหยุดการเรียนการสอน 3 วัน ทั้งนี้ เทศบาลตำบลท้ายดง และ เทศบาลตำบลวังโป่ง ได้ให้การช่วยเหลือโดยการนำเครื่องจักร กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และเปิดทางน้ำ ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำในเขตเทศบาลวังโป่งลดระดับใกล้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
3) อำเภอชนแดน ณ ตำบลบ้านกล้วย ตำบลลาดแค มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย จำนวน 96 หลังคาเรือน และพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบประมาณ 300 ไร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างให้ความช่วยเหลือ
นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวต่ออีกว่า ตนได้มอบหมายให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีโทรสารแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 อำเภอที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว โดยเฉพาะจุดที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสถานการณ์อุทกภัย ให้เตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังสถานการณ์ อีกทั้งยังสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จัดเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งในด้านการดูแลอาหาร และน้ำดื่มสะอาดให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย การซ่อมแซมเส้นทางคมนาคม การอพยพเคลื่อนย้ายประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย นอกจากนี้ ได้มีการจัดหาเครื่องนุ่งห่ม อาหาร ที่นอน และการปฐมพยาบาลแก่ผู้ประสบภัยเบื้องต้น ทั้งนี้ ยังได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ ประสานขอรับการสนับสนุนกำลังทหารจากกองพันทหารสื่อสาร กองพลทหารม้าที่ 1 และขอรับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 2 สระบุรี เพื่อระบายน้ำท่วมในพื้นที่ประสบภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น จากการประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม จึงขอให้อำเภอ เทศบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า พร้อมทั้งติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก หรือ บริเวณฝนตกสะสม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุทกภัยได้ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมง
นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์น้ำท่วมขัง ในกรณีที่มีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายให้ตัดกระแสไฟฟ้าทันที และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์อุทกภัย ตลอดจนการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด จนกว่าเหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อให้รู้เท่าทันเหตุการณ์อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากเหตุภัยพิบัติ หรือ ต้องการขอรับความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วนนิรภัย 1784 หรือ สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 หรือ ประสานงานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปลัดอำเภอ นายอำเภอ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1637/2567 วันที่ 22 ส.ค. 2567