เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 67 นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยนายภูธนะ ชมภูมิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และว่าที่ร้อยตรี กรกฎ ประเสริฐวงษ์ ปลัดจังหวัดพะเยา ร่วมลงพื้นที่อำเภอแม่ใจ ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำของอำเภอแม่ใจ พร้อมทั้งสำรวจปริมาณน้ำและฝายชะลอน้ำในพื้นที่ ณ ฝายชะลอน้ำในเขตตำบลแม่สุก อำเภอแม่ใจ โดยมี นายพีรัช จันธิมา นายอำเภอแม่ใจ พร้อมด้วย ปลัดอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้านตำบลแม่สุก ร่วมให้การต้อนรับ
นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า พื้นที่ภาคเหนือตอนบน รวมทั้งจังหวัดพะเยา เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องเกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ แต่พื้นที่อำเภอแม่ใจสถานการณ์น้ำยังคงปกติ ไม่เกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งสาเหตุหลักสืบเนื่องมาจากอำเภอแม่ใจได้มีการซ่อมสร้างฝายชะลอน้ำตั้งแต่ปี 2565 – 2567 โดยปัจจุบันในพื้นที่อำเภอแม่ใจ มีฝายชะลอน้ำทั้งสิ้น 1,667 ฝาย โดยในปี 2567 ได้มีการซ่อมสร้างฝายเพิ่มจำนวน 267 ฝาย ทำให้สามารถชะลอการไหลหลากของน้ำตั้งแต่ต้นน้ำจนไหลลงสู่คลองสายหลัก และการสร้างฝายดังกล่าวยังสร้างความชุ่มชื้นให้กับผืนป่า ทำให้ป่ามีความอุดมสมบูรณ์สามารถดูดซับน้ำลงดินได้อีกทาง ซึ่งก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูฝน ทุกภาคีเครือข่าย แก่เหมือง แก่ฝาย ได้ช่วยกันพัฒนาเหมืองฝายและลำน้ำต่างๆเพื่อรองรับการระบายของน้ำในช่วงฤดูฝน ตามธรรมนูญน้ำ ที่เป็นกติการ่วมกันของชาวอำเภอแม่ใจ
นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวเพิ่มเติมว่า นายอำเภอแม่ใจได้น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” โดยทรงสืบสานแนวพระราชดำริในการส่งเสริมด้านการอนุรักษ์น้ำของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินการในพื้นที่ โดยการมีส่วนร่วมของ 7 ภาคีเครือข่าย ในการ “ ร่วมพูดคุย ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมรับประโยชน์ร่วมกัน” โดยมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนชาวอำเภอแม่ใจ และเราได้ “ทำแล้ว ทำอยู่ และจะทำต่อไป” เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในทุกมิติซึ่งที่อำเภอแม่ใจ ภายใต้ความร่วมมือของนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ได้ริเริ่มนำแนวพระราชดำริมาสู่การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อำเภอแม่ใจ โดยการซ่อมสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ดักตะกอนดินตะกอนทราย และชะลอน้ำหลากเมื่อฤดูน้ำหลากเพื่อลดความแรงของกระแสน้ำ ที่จะไหลลงสู่หมู่บ้านชุมชน และการพัฒนาเหมืองฝายก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ของแก่เหมืองแก่ฝาย และพี่น้องประชาชนในพื้นที่
นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวต่อไปอีกว่า ปัจจุบันอำเภอแม่ใจ ถือเป็นอำเภอหนึ่งเดียวของจังหวัดพะเยาที่ยังไม่ประสบภัยพิบัติหรืออุทกภัย ซึ่งปัจจัยสำคัญที่เห็นได้ชัดนั้นมาจากการสร้างฝายชะลอน้ำมาตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในช่วงก่อน 2-3 ปีที่ผ่านมา พื้นที่ตำบลแม่สุก อำเภอแม่ใจ ได้ประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขังในพื้นที่อยู่เป็นประจำ แต่หลังจากได้มีการ ซ่อม สร้างฝายชะลอน้ำในพื้นที่ ทำให้ในพื้นที่ตำบลแม่สุกไม่มีปัญหาน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขัง แม้ว่าขณะนี้ที่ในพื้นที่อำเภอแม่ใจได้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่พบว่าในพื้นที่เกิดปัญหาน้ำป่าไหลหลากหรือมีน้ำท่วมในพื้นที่แต่อย่างใด
“ขอขอบคุณนายพีรัช จันธิมา นายอำเภอแม่ใจ ที่เป็นผู้นำ โดยได้นำ 7 ภาคีเครือข่าย ในการร่วมแรงร่วมใจกันบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ซ่อมสร้างฝายชะลอน้ำ ตามลำน้ำหลักและลำน้ำสาขา ซึ่งการสร้างฝายชะลอน้ำในพื้นที่ก่อให้เกิดประโยชน์และสร้างความสุขให้แก่ประชาชนชาวอำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา และที่สำคัญ เป็นการบริหารจัดการน้ำที่ช่วยลดความรุนแรงของน้ำก่อนถึงพื้นที่หมู่บ้านชุมชน ซึ่งจะลดความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ โดยการดำเนินการดังกล่าว ตนจะนำเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่น ๆ ในจังหวัดพะเยาดำเนินการ เพื่อป้องกันน้ำไหลหลากและท่วมขังในพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจทีมงานของอำเภอแม่ใจ โดยขอให้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพราะความทุกข์ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นหน้าที่สำคัญของพวกเราคนมหาดไทยที่มุ่งมั่นตั้งใจจะ Change for Good ทำสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้น ด้วย Passion ที่จะ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้เกิดขึ้นให้กับพี่น้องประชาชน” นายรัฐพลฯ กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1655/2567 วันที่ 25 ส.ค. 2567