วันนี้ (1 ก.ย. 67) เวลา 11.30 น. ที่วัดขนอน ตำบลสร้อยฟ้า อำเภอโพธาราม ราชบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายศิริพันธ์ ศรีกงพลี รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสุวิทย์ เถื่อนน้อย ผู้ตรวจราชการกรมโยธาธิการและผังเมือง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการน้อมนำพระราชดำริกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี “หนังใหญ่วัดขนอน” โดยมี นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย นายณัชวันก์ อัลภาชน์ เตชะเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายศุภชัย ครุฑดำ นายอำเภอโพธาราม นายสิริชัย นพศรีจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสร้อยฟ้า และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมลงพื้นที่
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้ากราบนมัสการ พระครูพิทักษ์ศิลปาคม (นุชิต วชิรวุฑฺโฒ) เจ้าคณะตำบลสร้อยฟ้า – ชำแระ เจ้าอาวาสวัดขนอน แล้วนำคณะร่วมรับชมการแสดงหนังใหญ่ ณ โรงมหรสพวัดขนอน เสร็จแล้วเดินเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน พร้อมรับฟังการนำเสนอของนักเรียนในการจัดแสดงนิทรรศการหนังใหญ่วัดขนอน
พระครูพิทักษ์ศิลปาคม กล่าวว่า หนังใหญ่วัดขนอนจัดเป็นคณะหนังใหญ่ที่มีความงดงามสมบูรณ์ ซึ่งพระครูศรัทธาสุนทร (หลวงปู่กล่อม) อดีตเจ้าอาวาสวัดขนอน ได้ริเริ่มจัดสร้างหนังใหญ่ขึ้น เนื่องจากมีความสนใจในด้านการช่าง โดยได้ชักชวน “นายอั๋ง” ผู้เคยเป็นโขน คณะของพระแสนทองฟ้า (ป้อง) นายอำเภอเมืองราชบุรี มาชวนทำหนังใหญ่ให้เป็นสมบัติของวัด หลวงปู่กล่อมจึงได้เชิญพระแสนทองฟ้า (ป้อง) นายอำเภอเมืองราชบุรี และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันทำตัวหนัง โดยหนังชุดแรกที่สร้างคือ “ชุดหนุมานถวายแหวน” ต่อมามีการสร้างหนังใหญ่เพิ่มเติมอีกหลายชุด ซึ่งการที่วัดขนอนสร้างหนังใหญ่ได้มาก เพราะชาวบ้านนำหนังวัวมาถวายวัด โดยหนังวัวที่ชาวบ้านนำมาถวายนั้น เป็นหนังของวัวที่ใช้ทำนา และเมื่อวัวตายก็จะแล่หนังมาถวายวัดเพื่อทำตัวหนัง เมื่อมีหนังวัวมาก จึงสร้างหนังใหญ่ได้มากและมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ บางตัวสูง 2 เมตร กว้าง 1 เมตรครึ่ง ปัจจุบันมีตัวหนังมากกว่า 300 ตัว ซึ่งหนังใหญ่ทั้งหมดถือเป็นสมบัติของวัดขนอน ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน
“คณะกรรมการวัดขนอน ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดำริในการอนุรักษ์หนังใหญ่อันเป็นมรดกอันทรงคุณค่าของชาติให้คงอยู่ จึงได้จัดทำโครงการจัดทำหนังใหญ่ชุดใหม่ เพื่อให้เล่นแทนตัวหนังใหญ่ชุดเดิม และโครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นในบริเวณวัด เพื่อเก็บรักษาหนังชุดใหญ่ชุดเดิมไว้ โดยเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบทุนสร้างหนังใหญ่ พร้อมทั้งร่วมกับภาคีเครือข่าย 3 ฝ่ายได้แก่ มหาวิทยาลัยศิลปากร จังหวัดราชบุรี และวัดขนอน ดำเนินการตามพระราชดำริฯ ดังกล่าว” พระครูพิทักษ์ศิลปาคม กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์วิศิษฏศิลปิน ผู้ทรงเป็นเอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย ทรงเห็นคุณค่าในการแสดงทางวัฒนธรรมไทยทุกแขนง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ตัวหนังใหญ่” โดยเมื่อปี พ.ศ. 2532 ทรงมีพระราชดำริให้ทางวัดช่วยอนุรักษ์ตัวหนังใหญ่ทั้งหมด และจัดทำหนังใหญ่ชุดใหม่ขึ้นแสดงแทน โดยมีมหาวิทยาลัยศิลปากรรับผิดชอบงานช่างจัดทำหนังใหญ่ทั้งหมด ซึ่งจังหวัดราชบุรี ได้ร่วมกับกรมศิลปากร และวัดขนอน จึงได้จัดทำหนังใหญ่ขึ้นมาใหม่ และนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2538 ณ โรงละครแห่งชาติ และพระองค์ได้พระราชทานให้ทางวัดขนอนนำมาใช้ในการแสดงถึงทุกวันนี้
“สำหรับการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอนนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระราชดำริให้มหาวิทยาลัยศิลปากรดำเนินการ โดยได้ปรับปรุงบูรณะหมู่เรือนไทยที่เป็นกุฏิสงฆ์และศาลาการเปรียญ ดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่เพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาตัวหนังใหญ่ชุดเก่าอย่างถูกวิธี สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าวิทยาการแขนงนี้แก่ผู้สนใจทั่วไป และในช่วงปี 2540 –2542 ได้ดำเนินการตกแต่งภายในเพื่อเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ในการร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 โดยทางวัดขนอนได้เปิดให้ประชาชนและผู้สนใจได้เข้าศึกษา เยี่ยมชมนิทรรศการหนังใหญ่ พร้อมทั้งการสาธิตการแสดงหนังใหญ่ ตลอดจนการฝึกเยาวชนให้เรียนรู้และสืบทอดศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่านี้ เพื่อสนองโครงการตามแนวพระราชดำริฯ ต่อไป” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า “หนังใหญ่วัดขนอน” เป็นมรดกสำคัญที่มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมไทยและสมควรที่จะอนุรักษ์เป็นมรดกของชาติและของโลก ซึ่งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญทางวัฒนธรรมของ UNESCO ได้ประกาศให้ “การสืบทอดและฟื้นฟูหนังใหญ่วัดขนอน” ได้รับรางวัลจากองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization : UNESCO) และได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 6 ชุมชนดีเด่นของโลก ที่มีผลงานในการอนุรักษ์ฟื้นฟูมรดกวัฒนธรรมเชิงนามธรรม จึงขอฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายอำเภอโพธาราม ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพ่อแม่พี่น้องประชาชน ช่วยกันส่งเสริมให้ลูกหลานเยาวชนคนชาวราชบุรีในพื้นที่ รวมถึงคนทั่วไป ได้ศึกษาเรียนรู้ “หนังใหญ่” ของวัดขนอน สืบสาน รักษา ศิลปวัฒนธรรมประเพณีไทยอันล้ำค่า พร้อมต่อยอดยกระดับการแสดงหนังสู่สายตาชาวโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาชม อันจะเป็นการหนุนเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับมรดกอันทรงคุณค่าของชาติ ดังพระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา และต่อยอด” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความภาคภูมิใจ ถ่ายทอดสู่ลูกหลาน เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง วัฒนธรรมของชาติมีความมั่นคงอยู่คู่ชาติไทยสืบไปอย่างยั่งยืน
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1708/2567 วันที่ 1 ก.ย. 2567