เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 67 เวลา 14.19 น. ที่วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีฉลองสมณศักดิ์ “พระอาจารย์จีนวัชรจริยาจารย์” เจ้าอาวาสวัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม ปลัดซ้ายจีนนิกาย โดยได้รับเมตตาจาก พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระคณาจารย์จีนธรรมชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส ปลัดขวาจีนนิกาย ร่วมพิธี พร้อมด้วย พระครูขันติพลาธร รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดฝั่งหมิ่น พระสังฆาธิการ พระเถรานุเถระ โดยมี นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประสพโชค อยู่สำราญ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายเกรียงศักดิ์ วันไชยธนวงศ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายญาณวุฒิ สุดพิมศรี นายอำเภอแม่จัน พันตำรวจเอก เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่จัน นางบังอร มะลิดิน รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย นางสาวมาลัย กัปปะหะ นายกเทศมนตรีตำบลท่าข้าวเปลือก ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พุทธศาสนิกชน และประชาชนจิตอาสา ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
โอกาสนี้ พระอาจารย์จีนวัชรจริยาจารย์ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะเบื้องหน้ารูปพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) อดีตเจ้าคณะใหญ่คณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย ประธานคณะกรรมการสงฆ์จีนนิกาย เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แมนคุณาราม ปฐมบูรพาจารย์วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม แล้วเป็นผู้นำคณะข้าราชการ และพุทธศาสนิกชน ถวายเครื่องมุทิตาสักการะ พระอาจารย์จีนวัชรจริยาจารย์
จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ถวายธูปเทียนแพเบื้องหน้าพระรูปสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และถวายธูปเทียนแพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วอ่านสัญญาบัตรตั้งคณานุศักดิ์ ความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ พระอาจารย์จีนธรรมรสจีนศาสน์ (เย็นจี่) วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม จังหวัดเชียงราย ปลัดซ้ายจีนนิกาย เป็นพระอาจารย์จีนวัชรจริยาจารย์ มีคณานุศักดิ์ตั้งคณานุกรมได้ 3 รูป คือ หลวงจีนปลัด 1 หลวงจีนสมุห์ 1 หลวงจีนใบฎีกา 1 จงมีสุขสวัสดิ์เจริญเทอญ ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน พุทธศักราช 2567 เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบัน“ จบแล้ว นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย อ่านพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งให้ พระอาจารย์จีนวัชรจริยาจารย์ (เย็นจี่) เจ้าอาวาสวัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม จังหวัดเชียงราย ปลัดขวาจีนนิกาย เป็นพระอุปัชฌาย์ คณะสงฆ์ทั้งนั้นเจริญชัยมงคลคาถา พระพุทธิญาณมุนี พระอาจารย์จีนวัชรจริยาจารย์ และพระคณาจารย์จีนธรรมชิรานุวัตร กล่าวสัมโมทนียกถา กรวดน้ำ รับพร โดยภายหลังเสร็จพิธี เป็นการทำกิจกรรมจิตอาสาปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า วันนี้เราได้มาแสดงมุทิตาสักการะในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสมณศักดิ์ตั้งท่านเจ้าคุณพระอาจารย์จีนวัชรจริยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม จังหวัดเชียงราย ปลัดซ้ายจีนนิกาย และพระบัญชาแต่งตั้งพระอุปัชฌาย์จีนนิกาย ซึ่งการได้รับเลื่อนยศและเลื่อนตำแหน่ง ไม่ว่าจีนนิกายหรือคณะสงฆ์ไทย หรือผู้นำศาสนิกต่าง ๆ ล้วนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์อัครศาสนูปถัมภก ผู้ทะนุบำรุงศาสนาทั้งปวง โดยทรงเกื้อกูล ค้ำจุนทุกศาสนาภายใต้พระบรมโพธิสมภารอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม และในวาระโอกาสต่าง ๆ พระองค์จะทรงแต่งตั้งสถาปนาสมณศักดิ์ชั้นยศของพระสงฆ์ทุกนิกาย
“การเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง สะท้อนนัยสำคัญ 3 ประการ คือ ประการที่ 1 ทำให้เกิด “บารมี” เลื่อนยศ คือ การเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ปกครองคณะสงฆ์ในวัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม ทั้งในฐานะผู้นำดูแลคณะสงฆ์ และส่งเสริมให้ลูกหลานในจังหวัดเชียงรายได้มีความรู้ความสามารถ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาจีนนิกายอย่างเต็มกำลังต่อไป ประการที่ 2 มี “บริวารยศ” ซึ่งฆราวาส เรียกว่า บริวารคอยดูแลช่วยงานการ ในฝั่งคณะสงฆ์ เรียกว่า ลูกศิษย์ลูกหาผู้ดูแล และประการที่ 3 มี “เกียรติยศ” ยศที่ทำให้มีเกียรติต่อสังคม เพราะเรายังเป็นปุถุชนที่มีเกียรติยศในสังคมนี้” พระพุทธิญาณมุนี กล่าวเพิ่มเติม
พระพุทธญาณมุนี กล่าวในช่วงท้ายว่า ในวันนี้จึงถือว่าพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระอาจารย์จีนวัชรจริยาจารย์ เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ดูแลพระพุทธศาสนามหายานจีนนิกาย และส่งเสริมการปฏิบัติธรรมควบคู่การศึกษาให้กับคณะสงฆ์จีนนิกายเป็นอย่างดี และอยู่กับวัดหมื่นพุทธเมตตาคุณารามมาโดยตลอด จึงขอถวายกำลังใจแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ เพื่อให้ท่านได้เป็นหลักชัยแห่งการสักการบูชาของลูกศิษย์ลูกหา ทั้งคณะสงฆ์จีนนิกายและญาติโยมผู้เคารพสักการะ และวันนี้ ยังได้รับกำลังใจในการแสดงมุทิตาสักการะจากผู้หลักผู้ใหญ่ในทางฆราวาส คือ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งท่านมีภาระหน้าที่ทางราชการหลากหลาย แต่ก็ตั้งใจมาถวายกำลังใจแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจและจิตอันเป็นกุศล
พระคณาจารย์จีนธรรมชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส ปลัดขวาจีนนิกาย กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม ในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกาย ที่พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) อดีตเจ้าคณะใหญ่คณะจีนนิกาย ได้มาบุกเบิกสร้างวัดนี้ไว้ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2532 ซึ่งกาลเวลาผ่านล่วงมา 35 ปี สิ่งที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณเย็นเต็กได้ทิ้งไว้เป็นมรดกให้กับพระพุทธศาสนา นอกจากเรื่องวัตถุอาคารสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ สิ่งสำคัญที่ท่านทิ้งไว้ให้เห็น คือ “ศาสนทายาท” เพราะถ้าไม่มีวัด ไม่มีพระสงฆ์เป็นศาสนทายาท วัดก็จะกลายเป็นวัดร้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ปรากฏชัดแจ้งว่า ที่ท่านเจ้าคุณเย็นเต็กทิ้งไว้เป็นมรดกทางพุทธศาสนา มีวัดหมื่นพุทธเมตตาคุณารามเป็นวัดในพระพุทธศาสนามหายาน หรือวัดจีนแห่งเดียวในภาคเหนือ จากที่มีอยู่ 16 วัดทั่วประเทศ และมีโรงเรียนพระปริยัติธรรมสามัญ 3 แห่ง มีพระสงฆ์ – สามเณร กว่า 400 รูป
“ในด้านการศึกษา มีทั้งเรียนทางโลกและทางธรรม ในทางโลกนั้น คณะสงฆ์จีนนิกายส่งเสริมการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา ระดับอุดมศึกษา ซึ่งปัจจุบัน มีพระสงฆ์ที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอก 18 รูป โดยบุคลากรเหล่านี้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนาจีนนิกาย และเรายังผลักดันถึงขั้นสูงสุดในทางธรรม เราส่งเสริมแผนกธรรมบาลี โดยจัดตั้งสนามสอบคณะสงฆ์จีนนิกาย ซึ่งปีที่แล้วคณะสงฆ์ ทั้งพระ-เณรที่เรียนโรงเรียนปริยัติธรรมทั้ง 3 โรงเรียน ประมาณ 200 รูป ประสบความสำเร็จสอบชั้นธรรมศึกษาได้อันดับต้นของประเทศในกลุ่มโรงเรียนปริยัติธรรมสายสามัญ กระทั่งเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชได้ประทานมอบประกาศนียบัตรให้เป็นขวัญกำลังใจ นอกจากนี้ ในด้านการพัฒนาวัด ทั้ง 5 ด้าน อันประกอบด้วย การปกครอง การศึกษา การเผยแผ่ การสังคมสงเคราะห์ และการสาธารณูปการ ไปพร้อมกัน ซึ่งคณะสงฆ์จีนนิกายมีความมุ่งมั่นตั้งใจพยายามผลักดันรักษา “ศาสนทายาท” สืบต่อได้” พระคณาจารย์จีนธรรมชิรานุวัตร กล่าวเพิ่มเติม
พระคณาจารย์จีนธรรมชิรานุวัตร กล่าวในช่วงท้ายว่า นอกจากนี้ ในวันนี้ พระอาจารย์จีนวัชรจริยาจารย์ ได้มีดำริว่า เราควรทำโครงการเพื่อส่วนรวมในโอกาสที่พวกเราทุกคนมาร่วมมุทิตาสักการะ จึงเกิดโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและยังเป็นการเสริมสร้างลดมลภาวะ โดยได้รับความอนุเคราะห์จากป่าไม้เขต ป่าไม้จังหวัด 5,000 กว่าต้น ซึ่งก่อนหน้านี้ ท่านนายอำเภอและนายกเทศมนตรี ตลอดจนถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และโรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่ ได้ช่วยกันขับเคลื่อนมาได้ ประมาณพันกว่าต้น ในเวลาอันเหมาะสมนี้ จึงเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้น้อมนำหลักการทรงงาน “บวร” ด้วยพลังการมีส่วนร่วมจากวัด บ้าน ราชการ เพื่อให้เกิดการต่อยอดขับเคลื่อนสิ่งที่ดีในพื้นที่ และขอเป็นกำลังใจให้กับท่านเจ้าคุณเจ้าอาวาสวัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม และคณะสงฆ์ทุกรูปที่เป็นศาสนทายาท และที่ขาดไม่ได้ คือ ส่วนราชการ ซึ่งมีผู้นำ คือ ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และทุกหน่วยงาน ได้มามีส่วนร่วมในครั้งนี้
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวว่า ตนดีใจที่ได้มีโอกาสมาร่วมถวายมุทิตาสักการะเพื่อแสดงมุทิตาจิตแด่ พระอาจารย์จีนวัชรจริยาจารย์ (เย็นจี่) เจ้าอาวาสวัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม ซึ่งพวกเราทุกคนเคารพนับถือ และยังได้มีโอกาสถวายโต๊ะหมู่บูชาถวายเป็นพุทธบูชาเบื้องหน้าพระพุทธรูปประธานอุโบสถ และที่สำคัญ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่เราจะได้ไปร่วมกันปลูกต้นไม้ซึ่งเป็นการ “ทำความ ดี ด้วยหัวใจ” จึงขอฝากพวกเราผู้เป็นจิตอาสาทุกคนว่า “การทำความดี” โดยเฉพาะในปีนี้และวันนี้ พวกเราคนไทยซึ่งมีความจงรักภักดีมุ่งมั่นตั้งใจทำเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่การทำความดีต่าง ๆ เราต้องอย่าทำเฉพาะวันที่ท่านนายอำเภอหรือหมู่คณะนัดแนะให้มาทำกิจกรรมแต่เพียงอย่างเดียว แต่ขอให้เรากลับไปช่วยกันดูแลครอบครัว ดูแลลูกหลาน ทำให้คนในครอบครัวรวมทั้งตัวเรามีความเป็นจิตอาสาอยู่ใน DNA หรือในสายเลือดตลอดเวลา อันหมายความว่า บ้านช่องห้องหอ ถนนหนทาง ซอยตรอกทั้งหลายที่เราใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะต่าง ๆ ต้องเป็นพื้นที่ทำจิตอาสาโดยไม่รีรอ พร้อมทั้งฝึกให้ลูกหลานช่วยกันเสียสละ ไม่นิ่งดูดาย เจอเศษขยะก็ช่วยกันเก็บ หญ้ารกรุงรัง กิ่งไม้รกรุงรัง ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อก็ชวนกันทำจิตอาสาบูรณะพัฒนา วันละเล็ก วันละน้อย ตามกำลัง
“นอกจากนี้ ต้องช่วยกันเป็นธุระดูแลลูกหลานของเรา ฝึกลูกหลานให้รู้จักสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน บูชาพระรัตนตรัย กราบหมอนระลึกนึกถึงคุณปู่ย่าตายาย คุณพ่อคุณแม่ ผู้มีพระคุณ อุปัชฌาย์อาจารย์ ฝึกเด็กของเรา ฝึกคนในบ้านของเรา ให้เป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรม ต้องอย่าให้สิ่งดี ๆ ตายไปกับเรา ดังพระพุทธเจ้าบอกมีทั้งกายกรรม มโนกรรม วจีกรรม “กายกรรม” หรือ “ทางกาย” คือ การแสดงความเคารพด้วยการไหว้ ด้วยการกราบ วจีกรรม หรือ “ทางคำพูด” โดยเปล่งเสียงบทสวดมนต์ และ “มโนกรรม” หรือ “ทางใจ” ที่กำหนดจิต รำลึกนึกถึงคุณพระรัตนตรัยและผู้มีพระคุณในขณะปฏิบัติ เกิดความเป็นสิริมงคล รวมถึงในตอนเช้า ก่อนออกจากบ้าน ก็ฝึกให้ลูกหลานมีสัมมาคารวะ ยกมือไหว้ “ไปลา-มาไหว้” เพื่อให้เด็กได้มีจิตใจอ่อนโยน ควบคู่การถ่ายทอดวัฒนธรรม ประเพณี เพื่อให้เด็กได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ดังที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้พระราชทานพระดำริ “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” ด้วยการสร้างระบบคุ้มบ้าน ระบบป๊อกบ้านให้เข้มแข็ง ด้วยการที่ทุกคนลุกขึ้นมาทำจิตอาสา ช่วยกันดูแลลูกหลาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการสนองพระราชปณิธานดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ความว่า “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” จึงขอขอบคุณและขออนุโมทนาบุญร่วมกับทุกคนด้วย” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1718/2567 วันที่ 2 ก.ย. 2567