เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 67 นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ตนและพล.ร.ต.นรินทร์ ขาวเจริญ ผบ.นรข. น.อ.วรรณะ เกื้อทิพย์ ผบ.นรข.เขตนครพนม พ.อ.ศิวดล ยาคล้าย ผอ.หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) พ.อ.กันตพล จันทะนันท์ รอง ผอ.นบ.ยส.24 พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม พ.ต.ท.หญิง วิภารัตน์ พิพิธภัทรานันท์ รอง ผกก.พิสูจน์หลักฐาน จ.นครพนม น.ท.เตชธร ฉิมมาลี หน.สน.เรือธาตุพนม พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคง จ.นครพนม ร่วมแถลงข่าวตรวจยึดยาบ้า 3.8 ล้านเม็ด ขณะทะลักข้ามแม่น้ำโขงเตรียมส่งเข้าพื้นที่ตอนใน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 1 ราย พร้อมของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก น.อ.วรรณะ เกื้อทิพย์ ผบ.นรข.เขตนครพนม ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดในบริเวณพื้นที่ บ.โป่งขาม ต.โป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ นรข.เขตนครพนม จึงได้แจ้งให้ พล.ร.ต.นรินทร์ ขาวเจริญ ผบ.นรข. ทราบ พร้อมกับสั่งการให้ น.ท.เตชธร ฉิมพาลี หัวหน้าสถานีเรือธาตุพนม จัดชุดออกปฏิบัติการหาข่าวและติดตามความเคลื่อนไหว ในพื้นที่ดังกล่าวทันที
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวต่ออีกว่า เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังกันแยกลงพื้นที่เป้าหมาย บริเวณบ้านโป่งขาม ต.โป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร และกระจายกำลังลงซุ่มตามจุดต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมาย จนกระทั่งในเวลา 17.50 น. เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของเรือกีบแล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว มายังฝั่งไทยห่างจากจุดซุ่มประมาณ 150 เมตร ต่อมาเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดซุ่มได้ขยับเข้าไปยังจุดที่เรือกีบแล่นมาเทียบ เห็นชายฉกรรจ์ ประมาณ 10 คนกำลังช่วยกันขนสิ่งของจากเรือใส่รถยนต์กระบะสีดำตู้ทึบที่จอดอยู่บริเวณตรงจุดที่เรือกีบเข้ามาเทียบหลังจากนั้นไม่นาน เรือลำดังกล่าวได้แล่นกลับไปยังฝั่ง สปป.ลาว และรถยนต์กระบะสีดำตู้ทึบต้องสงสัยได้ขับออกจากพื้นที่ อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งชุดซุ่มที่อยู่บริเวณที่รถแล่นผ่านให้ติดตามรถคันดังกล่าว ซึ่งพบว่ามีรถยนต์ยี่ห้อ HONDA JAZZ สีเทา วิ่งนำรถยนต์กระบะสีดำแบบมีตู้ทึบออกมาจากริมแม่น้ำโขงอย่างรวดเร็วจนกระทั่งพบว่ารถยนต์ทั้งสองคันได้ขับเข้าไปใน แดนสวรรค์รีสอร์ท บ้านแดนสวรรค์ ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังบุกเข้าชาร์จรถทั้งสองคันทันที เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ คนขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อ HONDA JAZZ สีเทา ได้เปิดประตูรถและอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าป่าทันที เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบรถยนต์อีกคันเบื้องต้นพบชายขับรถยนต์กระบะสีดำตู้ทึบ นั่งตกใจอยู่ภายในรถยี่ห้อ NISSAN NAVARA สีดำ ทราบชื่อภายหลังคือ นายศุภกร (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในตัวพบบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือจึงยึดไว้เป็นของกลาง และเมื่อตรวจสอบบริเวณท้ายกระบะภายในตู้ทึบ พบกระสอบสีดำจำนวน 9 กระสอบ ตรวจสอบภายในกระสอบเป็นยาบ้า จำนวนประมาณ 3,800,000 เม็ด ส่วนรถยนต์ ยี่ห้อ HONDA JAZZ สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน กฉ 8231 นครสวรรค์ หลังตรวจสอบภายในรถพบแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ กธ 6218 ชัยภูมิ จำนวน 2 แผ่น บัตรประชาชนจำนวน 1 ใบ และโทรศัพท์ อีก 1 เครื่อง ตกอยู่ภายในห้องผู้โดยสารเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด มาที่ บก.นรข.เขตนครพนม เพื่อจัดทำบันทึกจับกุมและตรวจนับยาบ้าอย่างละเอียดต่อไป
“จากการสอบสวนนายศุภกร (สงวนนามสกุล) คนขับรถกระบะตู้ทึบ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างจากนายทุนให้นำยาบ้าทั้งหมดไปยังพื้นที่ตอนในโดยได้รับค่าจ้าง 5 หมื่นบาท โดยให้ขับรถไปตามเส้นทางที่รถนำหน้าจะพาไป แล้วจะมีคนมารับช่วงต่ออีกเป็นทอด ๆ ส่วนคนขับรถเก๋งที่หลบหนีไปได้ตนไม่ทราบว่าเป็นใครเนื่องจากจะติดต่อกันทางโทรศัพท์เท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จับกุมได้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” นายวันชัยฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวในช่วงท้ายว่า จังหวัดนครพนมได้ให้ความสำคัญในการป้องกัน ปราบปราม และเเก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย โดยให้ความสำคัญในทุกกระบวนการตั้งเเต่ต้นน้ำ กลางน้ำ เเละปลายน้ำ มุ่งดำเนินการปราบปราม จับกุม กดดัน ผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยบูรณาการกำลังทุกภาคส่วนในพื้นที่รวบรวมข้อมูล เฝ้าระวังในพื้นที่บริเวณชายแดน ให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งประสานกำลังฝ่ายปกครอง และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เข้าดำเนินการปราบปราม จับกุม ผู้ค้ายาเสพติด จึงขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่จะนำความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมาให้พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติการทำสงครามกับยาเสพติด เเจ้งเบาะเเสผู้ค้า หรือเครือข่ายการกระทำผิด ได้ที่ช่องทางต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐ หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอ หรือสายด่วน 1567 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1719/2567 วันที่ 2 ก.ย. 67