วันนี้ (4 ก.ย. 67) เวลา 13.30 น. ที่ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ชั้น 2 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิด “วันพัฒนาชุมชน” ประจำปี พ.ศ. 2567 (CD Day 2024) ภายใต้แนวคิด “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน” (Strengthened grassroots economy , resilient and sustainable communities) โดยมี นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางอรจิรา ศิริมงคล อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายประสพโชค อยู่สำราญ รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล นายธงชัย ลิขิตพรสวรรค์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายวิฑูรย์ นวลนุกูล นายวรงค์ แสงเมือง นายชยชัย แสงอินทร์ รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวสันต์ สุภาภา รองอธิบดีกรมที่ดิน นายสุรพล เจริญภูมิ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายบูรณิศ ยุกตะนันทน์ ผู้อำนวยการองค์การตลาด คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด พัฒนาการจังหวัด ผู้แทนส่วนราชการ ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กรชุมชนเครือข่ายจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ และสื่อมวลชน ร่วมในงานจำนวนมาก
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และถวายธูปเทียนแพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้วถวายความเคารพพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณการขับเคลื่อนหมู่บ้านป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยกองทุนแม่ของแผ่นดิน ตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย ระดับจังหวัด จำนวน 76 รางวัล รางวัลโล่สิงห์ทอง จำนวน 228 รางวัล รางวัลเชิดชูเกียรติคนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ประจำปี 2567 จำนวน 72 รางวัล รางวัลโครงการการจัดทำสารสนเทศตำบลต้นแบบเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ระดับประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 6 รางวัล และรางวัลเชิดชูเกียรติผู้นำการเปลี่ยนแปลง จำนวน 18 รางวัล พร้อมทั้งกล่าวแสดงความยินดีและให้โอวาทแก่นักพัฒนาชุมชนและภาคีเครือข่าย
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีและมีความสุขใจทุกครั้งที่มีโอกาสมาพบปะพี่น้องชาวพัฒนาชุมชน และอาสาพัฒนาชุมชน (อช.) ตลอดจนถึงผู้นำกลุ่มอาชีพ ผู้นำบทบาทสตรี กลุ่มกองทุนแม่ของแผ่นดิน และภาคีเครือข่ายของกรมการพัฒนาชุมชนทุกท่าน เหตุที่ตนมีความสุขเพราะว่าได้เห็นแววตาและสีหน้าที่แสดงออกถึงจิตใจที่มีความรักในการช่วยเหลือเกื้อกูลให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทั้งที่เป็นสมาชิกและไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่ม ซึ่งทุกท่านมีประกายในแววตาที่ฉายแววแห่งความรักแห่งความกระตือรือร้นของคนที่มีหัวใจที่อยากจะช่วย “Change for good” มีหัวใจปรารถนา “Passion” ที่อยากจะทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข”
“ขอบคุณอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ที่กรุณาจัดงานยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับพี่น้องผู้เป็นภาคีเครือข่าย และผู้รับผิดชอบในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชนร่วมกับกระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งได้มีการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้กับพี่น้องผู้ที่มีผลงานดีเด่นในสาขาต่าง ๆ อันมีนัยสำคัญในการช่วยทำสิ่งที่มีคุณค่าเสริมสร้างสิ่งที่ดีให้แก่ชุมชน ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่า ท่านจะเป็นผู้นำต้นแบบในการที่จะช่วยทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ซึ่งโล่รางวัลเชิดชูเกียรติที่มอบให้ในวันนี้ แม้จะไม่ได้มีมูลค่ามากมายนัก แต่นับว่าเป็นรางวัลที่ทำให้เห็นถึงความสุขของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านซึ่งพวกเราช่วยกันทั้งในฐานะที่เป็นข้าราชการ อาสาสมัคร หรือภาคีเครือข่ายของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย “ความสุขของประชาชนเหล่านั้นมีมูลค่าสูงจนไม่สามารถวัดเป็นเงินได้” และได้ถูกสะท้อนออกมาจากแววตาของทุกท่าน ที่จะได้ช่วยกันอย่างต่อเนื่องแบบเพิ่มทวีคูณ ด้วยการช่วยทำให้เกิด “หมู่บ้านยั่งยืน” (Sustainable Village)” ตามพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในภาพรวม ซึ่งเป็นการพัฒนาทำให้ “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็ง และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน” เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวต่อไปอีกว่า การจะทำให้เกิด “หมู่บ้านยั่งยืน” ได้นั้น สะท้อนผ่านความสำเร็จที่ทุกท่านทำจนเป็นที่มาที่ทุกท่านได้รับรางวัลใน “วันพัฒนาชุมชน” ด้วยพลังความมุ่งมั่นของทุกท่าน ภายใต้การนำของ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ พัฒนาการจังหวัด พัฒนาการอำเภอ พี่น้องพัฒนากร ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคีเครือข่าย ที่เข้าใจและสนับสนุนช่วยเหลือท่าน ทำให้ท่านได้ทำงานได้อย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้ “คนจึงเป็นหัวใจสำคัญ” ที่กระทรวงมหาดไทยย้ำเตือนกับพี่น้องทุกคนอยู่เสมอให้ทุกคนทำงานแบบอุทิศตน ทำหน้าที่ผู้นำจิตอาสา ทำความ ดี ด้วยหัวใจโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ซึ่งความสุขของเราจะมาจากการเห็นพี่น้องประชาชนในหมู่บ้านชุมชนของเรามีความสุข จึงขอให้ทุกท่านไปช่วยกันสร้างกระบวนการในการรวมกลุ่มรวมตัว ที่เป็นตัวชี้วัด (KPIs) ของหมู่บ้านยั่งยืน ทำให้เกิดขึ้น 878 อำเภอ ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นระบบการรวมกลุ่มของพี่น้องบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ชิดติดกัน ที่เรียกว่า กลุ่มบ้าน คุ้มบ้าน ป๊อกบ้าน หย่อมบ้าน ให้ทุกกลุ่มมีความรักความสามัคคี และช่วยกันน้อมนำเอาพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทาน เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ความว่า “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่ง “ประเทศชาติจะมั่นคงได้ ต้องเริ่มจากชุมชน” ตำบลหมู่บ้านมีความเข้มแข็ง คนที่อยู่ในหมู่บ้านต้องมีความรักสมัครสมานสามัคคี ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกันเหมือนพี่น้อง เหมือนญาติมิตร ซึ่งพี่น้องประชาชนจะรวมกลุ่มรวมตัวกันได้อย่างเข้มแข็ง พี่น้องที่เป็น 7 ภาคีเครือข่าย ภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ พัฒนาการจังหวัด พัฒนาการอำเภอ ต้องได้รับการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ด้วยการช่วยกันทำให้ทุกครัวเรือนมีเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคง มีความมั่นคงทางด้านอาหารและยารักษาโรค ด้านที่อยู่อาศัย อนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมประเพณี มีอาชีพหลัก อาชีพเสริมที่สามารถเลี้ยงดูตนเองได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีเหล่านั้นจะก่อให้เกิดความสุขได้อย่างถ้วนหน้า โดยไม่จำเป็นว่าทุกครัวเรือนจะต้องมีความร่ำรวยเงินทอง
นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสุขที่ได้จากการรับรางวัลของทุกท่านในวันนี้ ได้เฉิดฉายรังสีแห่งความสุขของทุกท่านซึ่งสัมผัสได้ด้วยใจ และสามารถส่งต่อไปยังพี่น้องประชาชนได้ หากเราเป็นผู้นำที่ดีและมีแรงปรารถนาที่จะทำสิ่งที่ดี จึงขอเป็นกำลังใจให้กับผู้นำทุกจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้านทุกท่าน ในที่นี้ ขอให้ทุกท่านมุ่งมั่นตั้งใจในการทำหน้าที่เป็นคนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คนของพระราชา ช่วยกันดูแลผลักดันขับเคลื่อนให้ประเทศชาติของเราให้มั่นคง ทำให้ชุมชนของเราเต็มไปด้วยพี่น้องประชาชนที่มีความสุข ด้วยการไปช่วยกันแก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วยกัน ด้วยหัวใจของทหารเสือของพระราชา
“ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ประสบความสำเร็จในการทำความดีและได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติในครั้งนี้ หวังว่าการได้รับความยอมรับนับถือยกย่องในการรับมอบรางวัลนี้ จะเป็นพลังและกำลังใจให้ทุกท่าน เดินหน้าเพื่อที่จะทำให้เกิดความสุขเกิดขึ้นในหมู่พี่น้องประชาชนในความดูแลความช่วยเหลือของพวกเราอย่างยั่งยืน และพวกเราจะไปช่วยทำให้เกิดความดีของพวกเราขยายผลไปที่ตำบลอื่นอำเภออื่นภายในจังหวัด และจังหวัดอื่น ๆ ให้เต็มในพื้นที่ และขอบคุณทุกท่านที่มีความมุ่งมั่นด้วยการทำให้รางวัลนี้เป็นรางวัลที่มีคุณค่ามากยิ่งขึ้นจากการ “Change for Good” ในพื้นที่ของทุกท่าน ด้วยการช่วยกัน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน” ขอเป็นกำลังใจให้พลังของแผ่นดินทุกคนในที่นี้ประสบความสำเร็จในการนำพาพี่น้องประชาชนทุกชุมชน/หมู่บ้านให้อยู่ดีมีสุข เป็น “หมู่บ้านยั่งยืน” ทุกพื้นที่” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย
นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินการจัดงานวันพัฒนาชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ พ.ศ. 2553 จนถึงปี พ.ศ. 2566 โดยใช้โอกาสในวันคล้ายวันก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชน วันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี เป็นช่วงเวลาของการจัดกิจกรรม และการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นการจัดงานวันพัฒนาชุมชน ประจำปี พ.ศ. 2567 ภายใต้แนวคิด “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน” (Strengthened Grassroots Economy , Resilient and Sustainable Communities) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงผลสำเร็จของงานพัฒนาชุมชนต่อสาธารณชน ได้แก่ การขับเคลื่อนภารกิจพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยการสร้างความมั่นคงทางอาชีพและรายได้การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนผ่านการพัฒนา ผู้นำชุมชน กลุ่ม/องค์กร และการเสริมศักยภาพชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองและพึ่งพากันเองได้ พร้อมสร้างความรู้ ความเข้าใจ โดยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาส่งเสริมให้เกิดการบำรุงรักษาดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องในวันดินโลก เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และการประกาศทิศทางการพัฒนาชุมชน ในปี 2568 พร้อมทั้งยกย่องเชิดชูเกียรติ ผู้นำชุมชน กลุ่ม/องค์กร เครือข่ายองค์กร หมู่บ้าน/ชุมชน ตำบลและบุคลากร/หน่วยงานกรมการพัฒนาชุมชนที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2567 โดยดำเนินการระหว่าง วันที่ 4 – 6 กันยายน 2567 กลุ่มเป้าหมาย ที่เข้าร่วมงาน จำนวน 600 คน ประกอบด้วย ข้าราชกรมการพัฒนาชุมชนจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคผู้นำชุมชน หน่วยงานภาคี สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติ
“กิจกรรมภายในงานวันพัฒนาชุมชน ประจำปี พ.ศ. 2567 ในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1. การจัดนิทรรศการโดยแบ่งกิจกรรรมสำคัญออกเป็น 5 พื้นที่ ได้แก่ นิทรรศการ “สถาบันพระมหากษัตริย์กับการพัฒนาชุมชนอย่างยังยืน” นิทรรศการพัฒนาชุมชน 9 นิทรรศการ การจัดกิจกรรมสวัสดิการกรมฯ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต การแสดงผลงานสหกรณ์ออมทรัพย์กรมการพัฒนาชุมชน (สอ.พช.) การจัดกิจกรรมกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ฯ 2. การมอบรางวัลเชิดชูเกียรติผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กรชุมชน เครือข่ายและบุคลากรกรมการพัฒนาชุมชน 3. การเสวนาวิชาการ และ 4. การจำหน่ายผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และผลิตภัณฑ์ จากการดำเนินงานพัฒนาชุมชน จำนวน 356 บูธ จึงขอเชิญชวนผู้สนใจร่วมชมนิทรรศการ ในงาน “วันพัฒนาชุมชน” ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 4 – 6 กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 19.00 น. ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ” นายสยามฯ กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1731/2567 วันที่ 4 ก.ย. 2567