เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 67 นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้ นายสมมาฏฐ์ โพธิ ปลัดจังหวัดอุบลราชธานี สั่งการ นายโรมรัก ภูหวล ป้องกันจังหวัดอุบลราชธานี นำผู้ช่วยป้องกันจังหวัดอุบลราชธานี สมาชิก อส.สังกัด ร้อย.อส.จ.อุบลราชธานี บูรณาการกำลังกับ ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลงพื้นที่เข้าตรวจสอบกรณีได้รับร้องเรียนจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมให้กับเด็กและเยาวชน โดยสามารถตรวจยึดของกลางน้ำกระท่อมได้ราว 298 ลิตร ทั้งนี้ ได้นำของกลางดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อทำบันทึกจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานีได้ดำเนินการขับเคลื่อนตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากได้รับร้องเรียนจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่ตำบลไร่น้อยและตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบทั้งสองพื้นที่ดังกล่าวพบว่ามีการสต๊อกน้ำกระท่อมอยู่ในตู้ และถังแช่แข็งจำนวนมาก แบ่งเป็นน้ำกระท่อม น้ำกระท่อมบรรจุขวดขนาด 1000ml. จำนวน 163 ขวด น้ำกระท่อมบรรจุขวด 1500 ml. จำนวน 90 ขวด รวมทั้งสิ้น 298 ลิตร และยาแก้ไอจำนวน 140 ขวด โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาคือ ผลิต นำเข้าหรือจำหน่ายน้ำกระท่อมอันฝ่าฝืนประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับ430) พ.ศ.2564 ออกตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 เรื่องกำหนดอาหารห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายตามบัญชีแนบท้ายประกาศ ลำดับที่ 52 (กระท่อม) ตามมาตรา 6 (8) อันเป็นความผิดตามมาตรา 50 และฝ่าฝืนขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม มาตรา12 ประกอบมาตรา 4 อันเป็นความผิดมีโทษ ตาม มาตรา 101 แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ทั้งนี้ ได้นำของกลางดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อทำบันทึกจับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวในช่วงท้ายว่า ปัญหาการลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปนั้นเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นที่แน่ชัดว่า น้ำกระท่อมจะส่งผลเสียมากมายต่อผู้บริโภค เช่น การเบื่ออาหาร หรือท้องผูก ซึ่งถ้าหากบริโภคเป็นเวลานานๆอาจจะทำให้เกิดอาการเสพติดน้ำกระท่อม เมื่อไม่ได้บริโภคจะรู้สึกไม่มีแรง ซึมเศร้า และนอนไม่หลับ เป็นต้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจังหวัดอุบลราชธานีไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใด อีกทั้งยังให้ความสำคัญในการปราบปรามการลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมในทุกพื้นที่มาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งนี้ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนในความร่วมมือร่วมใจ และขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานด้วยความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม ในฐานะผู้ทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” และรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยเป็นหูเป็นตา ระแวดระวังบ้านเมืองของเรา หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูล และร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #MOI
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1836/2567 วันที่ 19 ก.ย. 67