วันนี้ (28 ก.ย. 67) เวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุม 210 – 211 ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานรับมอบผ้าห่มในพิธีส่งมอบผ้าห่มตามโครงการ “ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว ปีที่ 25″ จากคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยมี นายราชันย์ ซุ้นหั้ว รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเอกวิทย์ มีเพียร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้บริหารบริษัทในเครือไทยเบฟ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ประธานมูลนิธิสถาบันพัฒนาวิสาหกิจชุมชนแห่งประเทศไทย นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ประธานโครงการบรรเทาสาธารณภัยและจิตอาสา ร้อยตำรวจโท อาทิตย์ บุญญะโสภัต คุณพลภัทร สุวรรณศร ที่ปรึกษาคณะกรรมการการพัฒนาชุมชน บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ พลเอก พัฑฒะนะ พุธานานนท์ ผู้บริหาร บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ และสื่อมวลชน ร่วมในพิธี
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในนามของพี่น้องประชาชนคนไทย ขอขอบคุณท่านเจริญ – คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ผู้เป็นบิดา – มารดา ของคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตลอดจนคณะผู้บริหารทุกท่าน ผู้ที่เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของ “ความยั่งยืน” หรือผู้แทนในการเสียสละ ที่มุ่งมั่นแน่วแน่ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมาที่ท่านไม่หยุดยั้งในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนในทั่วทุกหัวระแหงของประเทศไทย ทำให้กระทรวงมหาดไทยได้ขับเคลื่อน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยการนำความรักความปรารถนาดีผ่านการแจกจ่าย “ผ้าห่มสีเขียว 200,000 ผืน” สำหรับผู้ยากไร้ที่ขาดแคลนในถิ่นห่างไกลทั้ง 15 จังหวัด รวมถึงจังหวัดที่ประสบอุทกภัยในขณะนี้
“การมอบผ้าห่มกันหนาวในครั้งนี้ หลายท่านอาจคิดว่าเร็วเกินไปสำหรับฤดูหนาว แต่จากสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ภาคเหนือ-ภาคอีสาน โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงราย ทราบว่ามีอุณหภูมิลดลงกว่า 3 องศา ประกอบกับอิทธิพลของความกดอากาศจากประเทศจีนจะทำให้ภาคเหนือ-ภาคกลางยังมีฝนตกอยู่ ดังนั้นการส่งมอบฯ ในวันนี้จึงเป็นการส่งมอบที่ทันต่อเหตุการณ์ เนื่องจากการลำเลียงสิ่งของเหล่านี้ไปยังพื้นที่ห่างไกลต้องใช้เวลา ทำให้พวกเรามั่นใจได้ว่าเราได้ทำอย่างทันท่วงที และสิ่งที่ตอกย้ำไปกว่านั้น ในการดำเนินการนี้ เป็นไปตามแนวพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ทรงเพียรพยายามในการทำให้คนในสังคมไทยได้ตื่นตัว ตลอดจนถึงตระหนักถึงความสำคัญในการเป็นผู้ให้ ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน และโรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน ซึ่งเป็นนัยที่บ่งบอกว่าพระองค์ทรงมุ่งมั่นทำทุกวิถีทางให้คนไทยทุกคน ได้รู้จักคำว่า “ขาดทุนคือกำไร” กล่าวคือ การรู้จักให้ รู้จักช่วยเหลือเผื่อแผ่ ซึ่งไม่ได้เพียงแค่ในรูปแบบสิ่งของ แต่เป็นการให้ในลักษณะน้ำใจ ผ่านการกระทำ การเสียสละ การช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวต่อไปอีกว่า เป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกันว่า ตลอดระยะเวลา 25 ปี ที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินโครงการ “ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว” นั้น ท่านเป็นตัวแทนของการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่องค์การสหประชาชาติได้ดำเนินการเพื่อให้เราทุกคนได้ร่วมกันบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และความยั่งยืนเหล่านั้นจะเกิดขึ้นได้จะต้องทำอย่างต่อเนื่อง ดังที่ “ไทยเบฟ” ได้ดำเนินการอยู่ และสิ่งที่เรียกว่าความยั่งยืน เพราะผ้าห่ม 1 ผืน มาจากการรีไซเคิลขวดน้ำพลาสติก PET จำนวน 38 ขวด ที่จะได้กระจายไปสู่เป้าหมายพี่น้องประชาชนที่ขาดโอกาสที่ดีในชีวิต ได้มีโอกาสที่ดีช่วยทำให้สภาวะโลกร้อนของของโลกลดลงอีกด้วย ดังนั้นการนำขยะพลาสติกมารีไซเคิล นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญของมนุษย์โลก ตนในฐานะชาวโลกและชาวมหาดไทย ที่เป็นพันธมิตร อย่างเหนียวแน่นกับแนวทางการบรรลุเป้าหมายพัฒนาที่ยั่งยืน จึงขอขอบคุณคณะผู้บริหารบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่ช่วยขับเคลื่อนภารกิจ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน
“สิ่งสำคัญของการดำเนินการครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ให้ประชาชนไม่ประสบภัยหนาว แต่ยังเป็นผู้นำในการขับเคลื่อน บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด มุ่งช่วยทำให้ประชาชนในทั่วทุกพื้นที่ได้มีความเข้มแข็ง สามารถลุกขึ้นมาดูแลตนเอง ดูแลคนที่อ่อนแอให้สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งมั่นคงมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ทรงยึดถือปฏิบัติ นั่นคือการทำให้พี่น้องประชาชน มีความรู้ความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง “รู้จักหาปลาแทนการให้ปลา” อย่างไรก็ตาม ความทุกข์ของประชาชนยังไม่หมดไป ภารกิจของพวกเราจึงยังไม่สิ้นสุด ยังคงต้องร่วมมือช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป ดังเป้าประสงค์ของ “โครงการไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว ปีที่ 25” และขอให้โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่จะสร้างแรงดึงดูดให้ภาคีเครือข่ายภาคเอกชนได้ร่วมสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้น ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปรารถนาให้ทุกตารางนิ้วของประเทศไทย เกิดสิ่งที่เรียกว่า “คนไทยมีน้ำใจและไม่ทอดทิ้งกัน” และพร้อมที่จะเสียสละในการยื่นมือที่แข็งแรงกว่าไปช่วยโอบอุ้ม บรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยตลอดจนชาวโลกด้วยกัน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอเป็นกำลังใจและขออนุโมทนากับทุกท่าน ขอให้สิ่งที่ทำในครั้งนี้ได้ขยายผลเกิดขึ้นกับบริษัทมหาชน ตลอดจนถึง 7 ภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่อจะได้ส่งผ่านสิ่งดีๆให้กับคนไทยและเพื่อนมนุษย์ที่ขาดโอกาสต่อไป ช่วยกันทำให้ผ้าห่มรักโลกผืนเดียว ของโครงการนี้สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับคนทุกเพศทุกวัย ที่ยังคงรอให้พวกเราไปช่วยเหลือ รวมทั้งไปให้กำลังใจ ทั้งนี้ในนามของผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยทุกท่าน และชาวมหาดไทยทุกคนต่างรู้สึกซาบซึ้งใจเต็มใจ ที่จะได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในโครงการไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ทั้งในปีนี้และปีต่อๆไปจนกว่าคนไทยทุกคนจะสามารถยืนขึ้นมาแล้วบอกว่า เราสามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ด้าน นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ส่งต่อนำความรู้สึกที่ดีที่มากกว่าการให้ด้วยการแจกจ่ายผ้าห่มผืนสีเขียว ตามโครงการ “ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว ปีที่ 25” ซึ่งจะสามารถช่วยให้การดำรงชีวิต ในลักษณะคุณภาพชีวิตของประชาชนต้องมี แม้ว่าจะเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยแต่สำหรับคนที่ขาดอาจจะมีความสำคัญอย่างมาก เพราะผ้าห่มสีเขียวไม่ได้เป็นแค่การให้ไออุ่น แต่เป็นการบรรเทาความเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือในปัจจุบัน ซึ่งบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้นำเอาผ้าห่ม 10,000 ผืนไปมอบให้กับ ผู้ที่ประสบความเดือดร้อนตามโครงการและกิจกรรมต่างๆ ของราชการ และมีอีกหลายครั้งหลายโอกาสที่เราได้ไปช่วยเหลือประชาชนในหลายพื้นที่ รวมถึงนานาประเทศที่ประสบเหตุสาธารณภัย โครงการดังกล่าวนับเป็นสิ่งจำเป็นของประชาชน เป็นความห่วงใยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และความปรารถนาดีที่มีให้ต่อกัน และ
“สำหรับการมอบผ้าห่ม 200,000 ผืน ในวันนี้ ได้รับเกียรติจากภาคีเครือข่ายและพันธมิตรมากมายจากหลายองค์กรที่มาร่วมด้วยช่วยกันกับพวกเรา ซึ่งจะเป็นโอกาสในการ พัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เพียงแค่การบรรเทาความเดือดร้อน แต่รวมไปถึงการฝึกฝนทักษะองค์ความรู้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์การกีฬา ตลอดจนด้านสาธารณสุข ที่มีคณะแพทย์จากโรงพยาบาลมหาราช ได้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทุกท่านได้นำความห่วงใยและความอนุเคราะห์จากทุกหน่วยงานไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนกันช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนที่อาศัยในผืนแผ่นดินไทย ทั้งการปฏิบัติงาน การประสานงาน รวมถึงการเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน สิ่งเหล่านี้เป็นการหลอมรวมพลังความดีให้ทุกฝ่ายได้ส่งต่อความปรารถนาดีต่อกันและกัน” นายฐาปนฯ กล่าว
นายฐาปนฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณท่านผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่เราได้ทำงานร่วมกันตลอดหลายปี รวมถึงภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ตลอดทีมงานบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ทุกท่านที่ได้ช่วยกัน ทำให้ผ้าห่มผืนสีเขียวเหล่านี้ ได้แปรเปลี่ยนจากขยะจากการรีไซเคิลขวดพลาสติกบรรจุน้ำ สามารถกลับมาทำให้มีประโยชน์ มีรูปร่างทางกายภาพที่มีรูปลักษณ์แตกต่างไป เปรียบเสมือนเราที่ได้ทำประโยชน์เมื่อยังมีชีวิต ตลอดจนได้ตอกย้ำในเรื่องการหมุนเวียนกลับมา ซึ่งพลังแห่งความดีและความร่วมไม้ร่วมมือกันในการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ จะเป็นพลังแห่งความยั่งยืนที่จะช่วยเหลือคนไทย ตลอด 25 ปี เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืนตลอดไป
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1890/2567 วันที่ 28 ก.ย. 2567