วันนี้ (8 ธ.ค. 68) เวลา 09.00 น. นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เพื่อติดตามสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยมี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยผู้แทนส่วนราชการ และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.) และทาง Video Conference
นายศักดิ์ดา กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ เป็นการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานในภารกิจต่าง ๆ ตามข้อสั่งการของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย/ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ คือ “ภายใน 7 วัน พี่น้องประชาชนต้องเข้าบ้านได้ และภายใน 14 วันพื้นที่ประสบภัยต้องกลับเข้าสู่ภาวะปกติ” ตลอดจนจะได้สั่งการและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในทุกมิติ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
“สำหรับความคืบหน้ามาตรการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ล่าสุดในวันนี้ (8 ธ.ค.68) จะมีการโอนเงินช่วยเหลือเป็น ครั้งที่ 8 เพื่อให้ถึงมือผู้เดือดร้อนอย่างรวดเร็วที่สุด โดยภาพรวมการจ่ายเงินเยียวยาในพื้นที่ประสบภัย 9 จังหวัดภาคใต้ ดำเนินการไปแล้วครอบคลุมกว่า 674,342 ครัวเรือน คิดเป็นวงเงินรวมกว่า 6,069 ล้านบาท โดยต้องขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องและเร่งโอนเงินให้ครบถ้วนทุกพื้นที่โดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนนำเงินส่วนนี้ไปใช้ในการซ่อมแซมบ้านเรือนและฟื้นฟูการดำรงชีพต่อไป” นายศักดิ์ดา กล่าวเพิ่มเติม
นายศักดิ์ดา กล่าวต่อไปว่า ในเรื่องการฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยเฉพาะปัญหา “ขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล” ที่มากับน้ำท่วม ต้องขอให้ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการจัดเก็บและกำจัดให้แล้วเสร็จภายใน 14 วัน เพื่อป้องกันปัญหาขยะตกค้างสะสม หากท้องถิ่นใดขาดแคลนเครื่องจักรหรือติดขัดในขั้นตอนปฏิบัติ ขอให้เร่งประสานมายังผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ อบจ. หากเกินกำลังให้แจ้งมายังส่วนกลางที่พร้อมสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง เราต้องตระหนักอยู่เสมอว่า เวลาทุกนาทีมีค่า เราต้องอย่าปล่อยให้เสียเปล่า หากเกิดปัญหาในระดับผู้ปฏิบัติเราต้องช่วยแก้ไขให้รวดเร็ว เพื่อลดความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนมากที่สุด
นายศักดิ์ดา กล่าวช่วงท้ายว่า ขอเน้นย้ำทุกหน่วยงานได้ใส่ใจในเรื่องสุขภาวะของประชาชนหลังน้ำลด โดยต้องเร่งตรวจสอบสุขภาวะ กำจัดเชื้อโรคควบคู่ไปกับการทำความสะอาดบ้านเรือนและพื้นที่สาธารณะ เพื่อป้องกันโรคระบาดที่อาจตามมา และจะต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์การดำเนินงานให้ประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง เพื่อสร้างความมั่นใจในการกลับเข้าพื้นที่อยู่อาศัย และสร้างความเชื่อมั่นว่าภาครัฐไม่ได้ทอดทิ้งและกำลังเร่งคืนความสะอาดปลอดภัยสู่ชุมชนอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 20 พ.ย. – 7 ธ.ค. 2568 ส่งผลกระทบครอบคลุม 16 อำเภอ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 592,707 แสนครัวเรือน (1,422,410 ล้านคน) และมีผู้เสียชีวิต 145 ราย สูญหาย 25 ราย ล่าสุดภาพรวมสถานการณ์เริ่มคลี่คลายและระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นพื้นที่ลุ่มต่ำและติดทะเลสาบสงขลาใน 4 อำเภอ ได้แก่ ระโนด, สทิงพระ, สิงหนคร และกระแสสินธุ์ ที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง โดยกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า) ได้บูรณาการความช่วยเหลือโดยแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการออกเป็น 4 เขต ระดมกำลังพลและเครื่องจักรกลหนักจากหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพบก และกระทรวงมหาดไทย เข้าให้ความช่วยเหลือและเร่งระบายน้ำในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1043/2568 วันที่ 8 ธ.ค. 2568
