วันนี้ (29 พ.ค.61) เวลา 19:00 น. ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสี มารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าอาวาสวัดราชบพิธีสถิตมหาสี มาราม เสด็จเป็นประธานสงฆ์ โดยมีนายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีเดินเทียนและฟั งพระธรรมเทศนาเนื่องในวันวิ สาขบูชา ประจำปี พ.ศ. 2561
โอกาสนี้ นายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ทูลเกล้าฯถวายเครื่องสั กการะแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานสงฆ์ และนำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และพุทธศาสนิกชน ร่วมประกอบพิธีเดินเทียน ทำวัตร และฟังการแสดงพระธรรมเทศนา โดย พระพรหมมุนี เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิ ธสถิตมหาสีมาราม ความว่า พระพุทธคุณของพระพุทธองค์นั้นมี มาก เกิดขึ้นโดยความเลื่อมใสของสาธุ ชน ซึ่งเล็งเห็นความประพฤติปฏิบัติ ของพระองค์แล้วก็เกิดความเลื่ อมใสศรัทธา เมื่อได้ระลึกถึงพระพุทธคุ ณบทใดบทหนึ่งก็ตาม ย่อมให้เกิดเป็นความสุขสงบทางใจ ขจัดความสับสนวุ่นวายต่าง ๆ เพราะเหมือนได้เข้าไปนั่งใกล้ผู้ สงบจิต ใจมีธรรมะเป็นเครื่องกล่อมรั กษาหรือมีธรรมะประจำใจ ใจก็รื่นเริงบันเทิงในธรรมะ ปราศจากอธรรม คือ ความชั่ว พอใจในความดี ทำความเป็นอยู่ของตนให้เรียบร้ อย สงบระงับความชั่ว ย่อมนำตนดำเนินชีวิตในทางที่ถู กต้องงดงาม
คำว่า “วิสาขบูชา” หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือน 6 วิสาขบูชา ย่อมาจาก ” วิสาขปุรณมีบูชา ” แปลว่า ” การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ ” ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน ก็เลื่อนไปเป็นกลางเดือน 7 ซึ่งในปีพุทธศักราช 2561 ตรงกับวันอังคารที่ 29 พฤษภาคม 2561 ซึ่งได้รับการยกย่องจากพุ ทธศาสนิกชนทั่วโลก ให้เป็นวันสำคัญทางพระพุ ทธศาสนาสากล เนื่องจากเป็นวันที่เกิดเหตุ การณ์สำคัญ 3 เหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกั บพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันประกอบด้วย ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของศาสนาพุทธ โดยพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรั ทธาเลื่อมใส พร้อมใจกันน้อมรำลึกถึงพระพุ ทธเจ้า ด้วยการประกอบพิธีบูชาด้วยอามิ สบูชาและปฏิบัติบูชาด้ วยความเคารพเป็นอย่างยิ่ง
จากนั้น พระพรหมมุนี ยกธรรมกถาเทศนาบูชาคาถากัณฑ์ที่ 1 ใน ปตมสูตรแห่งจตุกกนิบาต อังคุตตรนิกาย คือ จตฺตาโรเม ภิกฺขเว ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ กตเม จตฺตาโร สมณมจโล สมณปุณฺฑรีโก สมณปทุโม สมเณสุ สมณสุขุมาโล ซึ่งหมายถึง สมณะ 4 จำพวกในพระพุทธศาสนา ประกอบด้วย 1) สมณะผู้ไม่หวั่นไหว 2) สมณะปุณฑรีกะ 3) สมณะปทุมะ และ 4) สมณะผู้ละเอียดอ่อน.
ครั้งที่ 113/2561 วันที่ 29 พ.ค. 2561
