วันนี้ (23 ต.ค. 68) เวลา 09.00 น. ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ กระทรวงมหาดไทย วางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย พร้อมด้วยนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสันติธร ยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ กระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย รวมถึงสมาชิกราชสกุลแห่งจุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์ และประชาชน ทุกภาคส่วน เข้าร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณด้วยความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียง ร่วมในการนี้ด้วย
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เกิดจากดำริร่วมกันของพุทธศาสนิกชนในวาระครบ 100 ปีแห่งการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 23 ต.ค. 2553 จึงบริจาคเงินบำเพ็ญกุศลในการจัดสร้างพระบรมราชานุสรณ์เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เมื่อครั้งทรงดำรงสมณศักดิ์ที่ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ จึงถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อทรงทราบ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างได้ โดยเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2557 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเททองหล่อพระบรมรูป และต่อมาเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2558 ได้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม มีขนาดองค์พระบรมรูปเท่าครึ่งของพระองค์จริง ในพระราชอิริยาบถประทับบนพระราชยาน ทรงเครื่องต้นอย่างขัตติยราชตามหลักฐานปรากฏในพระบรมฉายาลักษณ์ซึ่งฉายในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินมาบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม แต่การสร้างพระบรมรูปนี้มิได้ทรงพระชฎาตามราชประเพณีที่เมื่อเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่เขตพระอาราม จะทรงเปลื้องศิราภรณ์ที่ทรงมาออก ณ พลับพลาเปลื้องเครื่อง ก่อนเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่เขตพุทธาวาส โดยองค์พระบรมรูปประดิษฐานบนแท่นหินอ่อนสีขาวจากเมืองคารารา ประเทศอิตาลี เหนือฉากหลังพระบรมรูป แกะสลักหินอ่อนเป็นรูปตราแผ่นดินลักษณะเดียวกับที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปั้นไว้เหนือกรอบประตูพระอุโบสถวัดราชบพิธ ทั้งนี้ องค์พระบรมรูป ออกแบบโดย พล.อ.ต.อาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประยุกต์ศิลป์) สาขาย่อยสถาปัตยกรรม ประจำปี พ.ศ. 2539 และคณะช่างจากกรมศิลปากร และสำหรับการแกะสลักหินอ่อนเป็นฝีมือของนที เกวลกุล ประติมากรชาวไทย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นพระอารามประจำรัชกาล เมื่อปี พ.ศ. 2412 โดยเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร และเป็นพระอารามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม บริเวณกำแพงวัดด้านทิศตะวันตก ริมคลองคูเมืองเดิม นอกเขตกำแพงมหาสีมาธรรมจักรของวัด ด้วยทรงมีพระราชประสงค์จะให้ผู้ที่มีความรักใคร่ห่วงใยอาทรอย่างใกล้ชิด อันได้แก่ พระมเหสี เจ้าจอมมารดา พระราชโอรส พระราชธิดา ได้อยู่รวมกันหลังจากที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ในสวนต้นลั่นทมและพุ่มพรรณไม้ต่าง ๆ มีอนุสาวรีย์ 34 องค์ โดยมีองค์สำคัญ 4 องค์ ได้แก่ 1. สุนันทานุสาวรีย์ พระราชทานแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี 2. รังษีวัฒนา พระราชทานแก่สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี หรือ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า 3. เสาวภาประดิษฐาน พระราชทานแก่สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ (สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง) 4. สุขุมาลนฤมิตร์ พระราชทานแก่พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี (สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี) สุสานหลวงแห่งนี้จึงเป็น “สุสานหลวงแห่งจุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์”
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 868/2568 วันที่ 23 ต.ค. 2568