วันนี้ (24 ต.ค. 68) เวลา 15.42 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบนโยบายการขับเคลื่อนงานเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน ให้แก่หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร สมาชิกสภา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพท้นที่จังหวัดกระบี่ ณ อาคารแพลตตินั่ม ฮอล์ล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล รมช.มหาดไทย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ร่วมลงพื้นที่ โดยมี นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ร่วมให้การต้อนรับ
นายอนุทิน กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ตื่นเต้น ที่ได้เห็นท่านทั้งหลายในฐานะหัวหน้าส่วนราชการ และท้องถิ่นซึ่งถือเป็นเพื่อนร่วมงานของตนในฐานะที่ตนมีความรับผิดชอบเป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย” ดีใจทุกครั้งที่ได้มาที่จังหวัดกระบี่แห่งนี้ ด้วยการทำงานอย่างราบรื่นมีความเข้าใจในการสื่อสารกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร “3 โก” ในพื้นที่ทุกคนที่ได้สะท้อนความต้องการ “ธุระของพี่น้องชาวกระบี่” อย่างทุ่มเทเสียสละ รวมถึงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมส.คมนาคม เป็นผู้กำกับดูแลการบริหารราชการพื้นที่ภาคใต้ รวมถึง น.ส.ศศิธร กิตติธรคุณ รมช.มหาดไทย มุ่งมั่นทำงานอย่างขันแข็ง
“เราเน้นความเจริญก้าวหน้าของพื้นที่เป็นสำคัญ คนที่มีความเข้าใจพื้นที่ ทำงานได้ ทำให้ประชาชนอยู่ดี กินดี ทำให้จังหวัดเจริญได้ คนผู้นั้นเหมาะสมสุดที่จะมาดำรงตำแหน่งในพื้นที่ เพราะจังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ กระบี่ต้องไม่เป็นรองภูเก็ต “กระบี่ก็คือกระบี่ที่ต้องโตด้วยตัวเอง” ทุกอย่างที่ภูเก็ตมี กระบี่ก็มี มีสนามบินมาตรฐานขยาย ใหญ่โตเท่าสนามบินภูเก็ต ถนนหนทาง การคมนาคมขนส่งสะดวกปลอดภัย ซึ่งต่อไปเราต้องทำให้ “สะพานข้ามเกาะลันตาสำเร็จ” เพื่อเป็นหน้าเป็นตา อำนวยความสะดวก ขยายเขตการค้า การลงทุน เพื่อเศรษฐกิจฐานรากของประชาชนในพื้นที่ มีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้น ค้าขาย ทำโรงแรม ร้านอาหาร เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลับมา เราต้องทำให้ทั่วโลกเห็นว่า “มาเมืองไทยปลอดภัย” ด้วยการ “ทำให้ทุกเมืองเป็นสถานที่สร้างรายได้ให้กับเรา มาแล้วปลอดภัยโดยพื้นฐาน” สิ่งที่ท้าทายเหล่านี้ต้องประสบความสำเร็จ ตนจะทำให้ผลงาน 4 เดือนนี้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนตามสัญญาและหน้าที่ที่รับผิดชอบ ตามแนวทางการทำงาน “พูดแล้วทำ” และ “สั่งวันนี้ต้องเสร็จเมื่อวาน” โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายให้ดูแลสร้างความสุขให้กับพี่น้องประชาชนชาวกระบี่และทุกจังหวัดทั่วประเทศ“
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า โครงการคนละครึ่งพลัส ไม่ใช่การเอาเงินมาแจก เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ใช้ 100 บาท รัฐสนับสนุนอีก 100 บาท ถ้าใครไม่ใช้ก็ไม่ได้เงินอรกส่วน และยิ่งผู้อยู่ในระบบภาษีจะได้รับ 2,400 บาท จะสร้างแรงจูงใจทำให้คนเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น เพื่อให้รายได้ของรัฐมีมากขึ้น และเอารายได้รัฐมาคืนประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ โดยคาดการณ์ให้ห้วง 2 เดือนนี้ จะมีเศรษฐกิจหมุนเวียน 100,000 ล้านบาทจากโครงการคนละครึ่งพลัส 80,000 ล้านบาท (40,000 ล้านบาท×2) และอีกประมาณ 20,000 ล้านบาท เติมในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อันจะทำให้เศรษฐกิจขยับตัว มีเงินหมุนเวียนในกระเป๋าพี่น้องประชาชน ทั้งการซื้อของและการจ้างงาน
“ขอฝากให้ทุกคนทำให้กระบี่เป็นเมืองปลอดภัย ด้วยการ 1. ดูแลพื้นที่ไม่ให้มีขโมยขโจน ไม่มีการทำร้ายร่างกาย ไม่มีคดีข่มขืนทำร้ายนักท่องเที่ยวไล่ยิงวิ่งราว เราในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐต้องช่วยกันสอดส่องดูแลความปลอดภัย ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. อส. ต้องช่วยกันดูแลประชาชน 2. ต้องไม่มีเรื่องยาเสพติด ด้วยการเป็นหูเป็นตา โดยให้ผู้ว่าฯ ออกมาตรการสกรีน X-ray ไม่ให้มีช่องทางลำเลียงขนถ่ายยาเสพติด ไม่ให้มีผู้ค้ารายย่อย “ทุกหมู่บ้านต้องปลอดยาเสพติด” ปลอดผู้มีอิทธิพล ปลอดอาชญากรรม และ 3. จังหวัดกระบี่และจังหวัดพื้นที่ อันดามันมีศักยภาพในการสร้าง Health Hub ศูนย์กลางการแพทย์และการดูแลสุขภาพ เช่น มากระบี่ มาภูเก็ต ด้วยโปรแกรม Medical Tourism ไม่มารักษา ก็มา Check-up มาซื้อ Package พักผ่อนเพื่อสุขภาพ พักฟื้นฟูสุขภาพ ทำให้พื้นที่กระบี่ เป็นพื้นที่ “ซ่อม สร้าง เสริม สุขภาพ” ทั้งนี้ สิ่งสำคัญเราต้องทำให้คนพร้อม ราชการพร้อม เอกชนพร้อม สาธารณูปโภคพร้อม ซึ่งเมื่อปัจจัยทุกอย่างเหล่านี้พร้อม เราก็กดปุ่มเดินหน้าทำให้ “กระบี่โกอินเตอร์” ให้ได้
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 872/2568 วันที่ 24 ต.ค. 2568
