เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 65 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบนโยบายในการเปิดปฏิบัติการแก้ปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วน เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา โดยได้เน้นย้ำการขับเคลื่อนมาตรการด้านการป้องกัน ปราบปราม บำบัดรักษา และฟื้นฟู ซึ่งกระทรวงมหาดไทยในฐานะส่วนราชการที่มีกลไกครอบคลุมในระดับพื้นที่ ตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ฝ่ายปกครอง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอาสาสมัคร ภาคีเครือข่ายในทุกตำบล/หมู่บ้าน เป็นส่วนสำคัญในการบูรณาการทั้งด้านข้อมูลและการปฏิบัติการในพื้นที่ ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัญหายาเสพติดนั้นมีความซับซ้อน จึงต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียวบูรณาร่วมกันเพื่อทำให้ปัญหาเบาบางลง เพื่ออนาคตของลูกหลานของประเทศ
นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวว่า ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และท่านนายอำเภอ ได้บูรณาการส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำนโยบายของรัฐบาลมาดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้มข้น รัดกุม เพื่อให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษทัณฑ์ตามกฎหมาย และผู้เสพยาเสพติดได้รับการบำบัดรักษาฟื้นฟู เพื่อคืนคนดีสู่สังคม สร้างความสุขให้ประชาชน สร้างความผาสุกให้กับพื้นที่ โดยมีการดำเนินงานในแต่ละพื้นที่ อาทิ
1.จังหวัดกระบี่ ภายใต้การอำนวยการของ นายทรงลักษ์ เอ่งฉ้วน ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่บริหารงานปกครอง รักษาราชการแทนนายอำเภอปลายพระยา บูรณาการร่วมกับ พ.ต.อ.ภวิน ภานุมาส ผกก.กก๒.บก.ปส.4 นำโดย นายหมวดโท ธวัช จงรักษ์ภูวนาถ ปลัดอำเภอ/หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ร.ต.ท.ภานุวัฒน์ รักษ์ทับเที่ยง รอง สว.กก.2 บก.ปส.4 พร้อมสมาชิก อส.อ.ปลายพระยาที 5 ได้จับกุม นายวิระพงค์ อายุ 48 ปี ภูมิลำเนาหมู่ที่ 3 ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 478 เม็ด และได้ขยายผลจับกุมนายเกรียงเดช อายุ 22 ปี หมู่ที่ 1 ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ยึดยาบ้า 232 เม็ด โดยกล่าวหาว่า “การกระทำของผู้ถูกจับมีความผิดฐาน จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) คุมตัวนำส่ง สภ.ปลายพระยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าจับกุมนายปรีดา อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาพื้นที่หมู่ที่ 9 ต.คุระบุรี อ.คุระบุรี จ.กระบี่ พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก และได้ขยายผลจับกุมตัวนายประมวล อายุ 61 ปี หมู่ที่ 2 ต.ปลายพระยา อ. ปลายพระยา จ.กระบี่ พร้อมด้วยของกลางเครื่องกระสุนปืน ขนาด.38 จำนวน 8 นัด แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มีความผิดฐาน “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” พร้อมควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปลายพระยาดำเนินคดี
2. จังหวัดศรีสะเกษ “ชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน” (ตำรวจ ปกครอง ทหาร ราชทัณฑ์ สมาชิก อส.) ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาหญิงในคดียาเสพติด จำนวน 2 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 183 เม็ด อาวุธปืน 2 กระบอก ระเบิดขว้างชนิดลูกเกลี้ยง จำนวน 1 ลูก และได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อเนื่อง สามารถจับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่อำเภอกันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ได้จำนวน 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 194,000 เม็ด และตรวจยึดรถยนต์ จำนวน 2 คัน มูลค่าประมาณ 800,000 บาท โดยได้ทำการสอบสวนและนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ และ สภ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
3. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้การอำนวยการของ นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัด/ผอ.ศอ.ปส.จ.อย. บูรณาการร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 1 ร่วมกับ กก.2 บก.ปส.3 นำกำลังเข้าสกัดจับกุมขบวนการผู้ค้ายาเสพติด ขณะใช้ยานพาหนะ จำนวน 2 คัน ประกอบด้วยรถยนต์กระบะ สีดำ ทะเบียน กม 9819 อยุธยา และ รถยนต์เก๋ง สีขาว ทะเบียน 8กฬ 7876 กทม. ลำเลียงยาเสพติด เพื่อนำมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดปริมณฑล โดยจับกุมได้ที่บริเวณบ้านเลขที่ 51/358 หมู่ 3 (ริมถนนหลังโรงงาน DHL) ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้ต้องหา 3 ราย คือ 1) นายวิทยา อายุ 24 ปี 2) น.ส.วรัญญา อายุ 21 ปี 3) นายธนัชพงศ์ อายุ 34 ปี จากการตรวจค้นพบยาเสพติด (ยาบ้า) ประมาณ 3,770,000 เม็ด นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พงส. บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและขยายผลต่อไป นอกจากนี้ นายอดิเรก อุ่นโอสถ นายอำเภอลาดบัวหลวง /ผอ.ศป.ปส.อ.ลาดบัวหลวง ได้สั่งการให้ ฝ่ายความมั่นคงอำเภอลาดบัวหลวง สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดบัวหลวง ลงพื้นที่ปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายยาเสพติด จำนวน 3 เป้าหมาย โดยที่แรก ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลสิงหนาท สามารถจับกุมนางสาวสุปราณี หรือนก อายุ 42 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 4 เม็ด เป้าหมายที่ 2 ปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลสิงหนาท สามารถจับกุมนายมาโนช หรือโนช อายุ 34 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 117 เม็ด และเป้าหมายที่ 3 ปฏิบัติการล่อซื้อยาเสพติด ณ รีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลสามเมือง สามารถจับกุมนายอิสเรศ หรือโจ้ อายุ 29 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 398 เม็ด โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) เพื่อการค้า นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
4.จังหวัดศรีสะเกษ ภายใต้การอำนวยการของ นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าจังหวัดศรีสะเกษ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายสุรศิษฐ์ อินทกรอุดม ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ มอบหมายให้นายศิริมงคลรัตน์ วงศ์วรรณา ป้องกันจังหวัดศรีสะเกษ นายปรีชา ส่งเสริม หัวหน้าผู้ประสานงานศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ (ศอ.ปส.จ.ศก.) ออกปฏิบัติการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดบุคลากรภายในสถานศึกษาในพื้นที่ จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 2 แห่ง คือ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีจังหวัดศรีสะเกษ และ วิทยาลัยการอาชีพจังหวัดศรีสะเกษ ผลการตรวจปัสสาวะบุคลากรเพื่อหาสารเสพติด ทั้งหมดจำนวน 223 คน ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด
5.จังหวัดกาฬสินธุ์ พระครูวรธรรมธัช,ดร. เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รก.ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นพ.สสจ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ชินวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายอำเภอสหัสขันธ์ และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมพิธีฯมอบเกียรติบัตร ณ ศูนย์วิปัสสนาสากลเวชธรรม ต.โนนน้ำเกลี้ยง อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ให้แก่ผู้ผ่านการอบรมโครงการพัฒนาการทางจิตเยาวชน “ภูมิพลังแผ่นดินขจัดสิ้นยาเสพติด” รุ่นที่ 1/2565 ซึ่งได้ทำการอบรมระหว่างวันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2565 โดยมีนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจาก รร.มหาไชยพิทยาคม 35 คน และผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติด และสมัครใจบวชเป็นพระภิกษุ เพื่อใช้หลักธรรมขัดเกลาจิตใจ จำนวน 35 รูป เพื่อเป็นต้นแบบให้กับเยาวชน และประชาชนในพื้นที่ เป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม เพื่อป้องกันปัญหายาเสพติดและพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ให้แก่เยาวชน ที่มีแนวโน้มที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด(กลุ่มที่เสี่ยง) ให้ได้รับรู้ถึงพิษภัยยาเสพติด โดยใช้หลักธรรมเข้ามาใช้ในการอบรมให้ความรู้ รวมทั้งการประพฤติปฏิบัติตน ซึ่งจะได้มีการขยายผลให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด ต่อไป
“การดำเนินงานของพื้นที่ต่าง ๆ ในขณะนี้ เป็นการดำเนินการที่ครอบคลุมทั้งมิติป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษา ครอบคลุมทุกมาตรการตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งมีจุดมุ่งหมายปลายทาง คือ ทำให้คืนคนดีสู่สังคม โดยใช้มิติทางกฎหมาย ทางสังคม ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกหน่วยงาน ทุกภาคีเครือข่าย ซึ่งกระทรวงมหาดไทย จะได้นำแนวทางที่เป็นผลสำเร็จตัวอย่าง (Best Practice) ขยายผลสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้จังหวัดต่าง ๆ ได้นำไปประยุกต์ใช้ เพื่อทำให้เกิดการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม และคืนลูกหลานกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว และเป็นคนดี เป็นกำลังหลักของสังคม ไม่ให้ปัญหายาเสพติดสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 567/2565 วันที่ 25 พ.ย. 2565