“พระอาจารย์สุบิน ปณีโต เป็นพระเถระรูปแรก ๆ ที่ทำให้เกิดกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ขึ้น และพระอาจารย์มนัสก็มาช่วยเสริมทำให้กองทุนมีความแข็งแรง มีการพัฒนาต่อยอดให้เกิดสรรพประโยชน์กับลูกศิษย์ลูกหาผู้เป็นสมาชิกกองทุน ซึ่งเป็นสัจธรรมว่าคลื่นลูกหลังก็ต้องแรงกว่าคลื่นลูกแรก แต่เป็นคลื่นแห่งการพัฒนาต่อยอดสิ่งที่ผู้ริเริ่ม ผู้ก่อตั้งได้ทำได้ปฏิบัติไว้เป็นแบบ ไว้เป็นตัวอย่าง เฉกเช่นในชีวิตของทุกครอบครัวที่มุ่งเลี้ยงดูจุนเจือส่งเสริมลูกหลานให้มีคุณภาพชีวิต มีงาน มีอาชีพที่มั่นคงและดีกว่าบรรพบุรุษเพิ่มมากขึ้น โดยเรื่องแรกที่สำคัญของสมาชิกกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ คือ ต้องดูแลคนในครอบครัวให้ดี อย่างน้อยที่สุดต้องเหมือนพวกเราทุกคน คือ “ต้องมีสัจจะ” มีวินัย มีความขยันหมั่นเพียร รู้จักรับผิดชอบในการที่จะทำให้เกิด “สัจจะสะสมทรัพย์” เพื่อยังผลทำให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ซึ่งในปัจจุบันพี่น้องสมาชิกกลุ่มสัจจะออมทรัพย์จังหวัดจันทบุรีได้ร่วมกันขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลดีอยู่แล้ว ขอให้ขับเคลื่อนต่อไป และต้องอย่าลืมรำลึกนึกถึงแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงสอนพวกเราให้พึ่งพาตนเอง สอนให้เราเป็นคนมีเหตุมีผล มีความพอประมาณ และที่สำคัญที่สุด มีความเพียร ความวิริยะอุตสาหะ มีความรู้คู่คุณธรรม รู้จักพอประมาณ มีเหตุมีผล รู้จักพึ่งพาตนเอง ในการนำเงินทุนที่เราต้องหยิบยืมไปทำมาหากินและเมื่อมีรายได้ก็นำเงินมาส่งคืนเพื่อให้เพื่อนสมาชิกคนอื่นซึ่งก็คือพี่น้องญาติมิตรในหมู่บ้าน/ชุมชนของพวกเราได้นำไปใช้ประโยชน์ลงทุนประกอบอาชีพในชุมชนหมุนเวียนกันต่อไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเน้นย้ำในช่วงท้ายว่า ประเทศไทยของพวกเราทุกคนจะพัฒนาได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน ทุกคนต้องช่วยกันมีสัจจะในการทำความดี เหมือนกับที่เราเป็นสมาชิกกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ และทำให้กลุ่มสามารถขับเคลื่อนเกิดมรรคผลในทุกวันนี้ ซึ่งการเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่ต้องมีเป้าหมายว่า “วันหนึ่งฉันจะเลิกเป็นหนี้” ด้วยการน้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่ดินของตนเองมีพื้นที่ว่าง ก็ปลูกผัก เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ รายจ่ายอะไรไม่จำเป็นก็เลิกจ่าย จ่ายเฉพาะที่จำเป็น ใช้ชีวิตที่มีเหตุและผล ดูแลลูกหลานให้มีเหตุและผล สร้างสมาชิก สร้างสังคมที่มีคุณธรรม ดูแลช่วยเหลือกัน ให้มีสัจจะ มีวินัย มีความรับผิดชอบ ด้วยพลังแห่งการมีจิตอาสาของทุกท่าน แล้วครอบครัว ชุมชน และสังคม ก็จะพบเจอแต่คุณภาพชีวิตที่ดีมีแต่ “ความสุขที่ยั่งยืน”
