วันนี้ (17 ก.พ. 2566) นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยเมื่อช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้พี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบของทางราชการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนช่วยเหลือประชาชนในระยะยาวอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นให้พี่น้องประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขร่วมกับสมาชิกในครอบครัวและชุมชนในพื้นที่
“เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ดำเนินโครงการฟื้นฟูและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตประชาชนหลังประสบภัยน้ำท่วม ด้านการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ณ ศูนย์เรียนรู้ โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน ระดับครัวเรือนต้นแบบ (HLM) ของนายยงยุทธ นิลรัตน์ หมู่ที่ 10 ตำบลดอนหญ้านาง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยได้รับเมตตาจากพระครูสังฆรักษ์กิตติศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดทุ่งชาน ร่วมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายทินกร บุญเงิน พัฒนาการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสาวอภิสรา เกษอินทร์ นายอำเภอภาชี หัวหน้าส่วนราชการ และภาคีเครือข่ายในอำเภอภาชี ลงพื้นที่เยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ฯ และร่วมทำกิจกรรมเอามื้อสามัคคี เช่น ทำดินพร้อมปลูก เสวียนลดขยะอินทรีย์ เอาใบไม้ไปทำปุ๋ย ปลูกผักสวนครัว และทำน้ำมันงาและน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นต้น จากนั้นได้เยี่ยมชมการทอผ้าบ้านหนองเครือบุญ กลุ่มเห็ดบ้านหนองเครือบุญ ณ ที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าบ้านหนองเครือบุญ และแปลงผักของหมู่บ้านและศูนย์ฝึกมีชีวิต ณ ศูนย์ฝึกมีชีวิต ตำบลหนองน้ำใส” ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวในช่วงต้น
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เล็งเห็นความสำคัญของการฟื้นฟูและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตประชาชนผู้ประสบอุทกภัย โดยพื้นที่อำเภอภาชี เป็นพื้นที่ที่ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการดูแลคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคีเครือข่ายผู้นำศาสนา มีพระครูปลัดสุวัฒนเถรคุณ (ธรรมทส ขนฺติพโล ป.ธ.4) หรือ “พระอาจารย์แก้ว” รองเจ้าคณะอำเภอภาชี เจ้าอาวาสวัดตะโก เป็นผู้นำในการบูรณาการ และอุปถัมภ์ศิษยานุศิษย์ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยามาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เริ่มดำเนินโครงการฟื้นฟูและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตประชาชนหลังประสบภัยน้ำท่วม ด้านการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ระยะที่ 1 ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ตามแนวทางปลูกผักสวนครัวรอบ 2 อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และขยายผล “สร้างวัฒนธรรมปลูกพืชผักประจำครัวเรือน” เป็นการลดรายจ่าย สร้างรายได้ระยะสั้น ทั้งในระดับครัวเรือน และระดับกลุ่ม เพื่อให้ชุมชนท้องถิ่นสามารถจัดการตนเองในการสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน ด้วยการใช้พลังชุมชนในการพัฒนาชุมชน พร้อมรณรงค์ส่งเสริมให้ทุกครัวเรือน ทุกหมู่บ้าน ได้ปลูกผักสวนครัว ไม่น้อยกว่า 10 ชนิด และจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนในครัวเรือน เป็นต้นแบบในการนำไปปรับใช้ในการพัฒนาชุมชนและหมู่บ้าน ภายใต้แนวคิด “จะพัฒนาใครเขา ต้องพัฒนาเราก่อน”
ด้าน นางสาวอภิสรา เกษอินทร์ นายอำเภอภาชี กล่าวว่า อำเภอภาชี มีความโชคดีที่ได้รับเมตตาจากพระอาจารย์แก้ว และพี่น้องภาคีเครือข่ายในพื้นที่ทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย ในการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ภายหลังจากการเข้ารับการฝึกอบรมโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ร่วมกับภาคีเครือข่าย ตลอดระยะเวลา 5 วัน 4 คืน ทำให้เกิดการเสริมสร้างพลังแห่งความรัก ความสามัคคี ของ “ชาวภาชี” ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และความปรารถนาที่อยากสร้างความสุขให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อทำให้ชาวภาชีมีแต่ความสุข และแม้ยามทุกข์ยาก ทุกคนก็จะมาช่วยกันทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้พบแต่ความสุขที่ยั่งยืน โดยมีผู้นำศาสนา เป็นศูนย์รวมใจ ศูนย์ร่วมความรู้รักสามัคคี นำพาอำเภอภาชี ให้เป็นอำเภอแห่งความสุขที่ยั่งยืน
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 151/2566 วันที่ 17 ก.พ. 2566
