วันนี้ (21 ก.ย. 66) เวลา 09.00 น. ที่ลานอนุสาวรีย์พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการปรับภูมิทัศน์หาดส้มแป้น โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ว่าที่ร้อยเอก ธีรพงศ์ ครุธดิลกานันท์ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายวสันต์ สุภาภา รองอธิบดีกรมที่ดิน ร่วมลงพื้นที่ โดยมี นายราชัน มีน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นายอัครพล ผลพานิชย์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระนอง หัวหน้าส่วนราชการ นายธนกร บริสุทธิญาณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง นายพินิจ ตันกุล นายกเทศมนตรีเมืองระนอง และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นำคณะผู้บริหารระดับสูง สักการะอนุสาวรีย์พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) เจ้าเมืองระนองคนแรก ที่ได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงรัชสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านมีชาติภูมิเป็นชาวจีนฮกเกี้ยน เกิดที่เมืองเจียงจิวหู ประเทศจีน เดิมชื่อ ซู้เจียง แซ่คอ โดยท่านเป็นผู้ที่มีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาเมืองระนองให้เจริญก้าวหน้า กลายเป็นเมืองชั้นเอกของประเทศ จากการที่สามารถเรียกเก็บภาษีอากรจากการทำกิจการเหมืองแร่ดีบุกได้เป็นอันดับ 1 ซึ่งแต่ละปีสามารถเก็บภาษีให้ราชการได้เป็นจำนวนหลายล้านบาท ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากบุคลิกส่วนตัว ซึ่งท่านมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่พิเศษ คือ เป็นคนฉลาด รอบรู้ มองการณ์ไกล มัธยัสถ์ ถี่ถ้วน อดทน และข้อสำคัญ คือ รู้จักจัดการ รู้จักแก้ปัญหา สามารถปกครองเมืองระนองได้อย่างเรียบร้อย และมีรากฐานมั่นคง
จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ รับฟังบรรยายสรุปและเดินตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดส้มแป้น โดยมีนายอัครพล ผลพานิชย์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระนอง นำชมพร้อมบรรยายสรุป โดยกล่าวว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดส้มแป้น งบประมาณ 49.46 ล้านบาท ปัจจุบันการดำเนินการแล้วเสร็จ โดยมีรายละเอียดการปรับปรุง 5 รายการ คือ 1) เขื่อนป้องกันตลิ่ง ระยะทาง 902 เมตร 2) ทางเดิน-ทางวิ่ง ความกว้าง 2 เมตร ระยะทาง 700 เมตร 3) ทางจักรยาน ความกว้าง 2 เมตร ระยะทาง 700 เมตร 4) บันไดทางขึ้น-ทางลง 5) ทางลาดเสมอภาค (อารยสถาปัตย์) 6) ลานลอยกระทงพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร 7) รางกันตก และ 8 ) ระบบไฟฟ้าส่องสว่าง โดยเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ต่อเนื่องจากบ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน เพื่อเชื่อมระหว่างบ่อน้ำพุร้อนรักษะวารินมายังร้านอเนกประสงค์เทศบาลเมืองระนอง เป็นการเชื่อมโยงรูทเส้นทางการท่องเที่ยว ทั้งการแช่น้ำ แช่ตัว และพักผ่อน สันทนาการ ตามธรรมชาติ สไตล์วิถีการท่องเที่ยวเมืองระนอง
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่จังหวัดระนอง ซึ่งการดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดส้มแป้นในพื้นที่แห่งนี้ เป็นการดำเนินการตามนโยบายกระทรวงมหาดไทยที่ได้น้อมนำพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมุ่งมั่นจะทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชน และพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้น้อมนำพระราชดำริในการฟื้นฟูบูรณะแม่น้ำคูคลองในพื้นที่จังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะ “นายกรัฐมนตรีของจังหวัด” ต้องเป็นผู้นำในการลุกขึ้นมา “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” แก้ไขในสิ่งผิดและทำสิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ด้วยการบูรณาการกับส่วนราชการในพื้นที่และร่วมกับภาคีเครือข่าย ประชาชน และทุกภาคส่วน คัดเลือกแม่น้ำคูคลอง ปีละ 1 สาย เพื่อเป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรมจิตอาสา สร้างจิตสำนึกในการดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมจับมือร่วมกันขับเคลื่อนขยายผลโครงการอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำคูคลองเพิ่มเติม โดยยังคงพัฒนาลำน้ำสายเดิมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลำน้ำครบทุกสายเป็นพื้นที่แห่งความสุขอย่างยั่งยืนให้กับประชาชนในพื้นที่
“ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้ส่งเสริมพัฒนาและต่อยอดการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดส้มแป้นแห่งนี้เพิ่มเติม เพื่อให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่แห่งความยั่งยืน ที่ส่งผลดีต่อพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดระนองเพิ่มพูนขึ้น โดย 1) ในเชิงระบบ ต้องส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มจิตอาสาของกลุ่มวิชาชีพด้านการออกแบบก่อสร้าง เช่น สถาปนิกจิตอาสา นักผังเมืองจิตอาสา ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะได้มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองส่งเสริมให้เกิดในทุกพื้นที่ 2) ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเป็นผู้นำภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย ร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสา ซึ่งอาจไม่ต้องใช้งบประมาณของทางราชการ เช่น พัฒนาริมถนน พื้นที่สาธารณะอื่น ๆ ให้สวยงาม มีคุณประโยชน์กับส่วนรวม เช่น ริมคลองมีการปลูกต้นดาหลา ปลูกต้นไม้ที่ชอบน้ำ บนภูเขาเติมไม้ยืนต้นให้ดอกสวยงาม เช่น หางนกยูง ปีบ ริมถนนปลูกต้นบานไม่รู้โรย เฟื่องฟ้าพุ่ม รวมทั้งน้อมนำแนวพระราชดำริในการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผล ไม้กินได้ พืชประจำถิ่นระนอง บริเวณเกาะกลางถนน และริมถนน 3) ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องส่งเสริมให้โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดและท้องถิ่นจังหวัด ได้สนับสนุนองค์ความรู้และแนวทางด้านอารยสถาปัตย์ ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มและรองรับสังคมผู้สูงอายุ 4) ส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมกีฬาและสันทนาการทางน้ำ เพื่อเสริมสร้างพลังความรู้รักสามัคคีของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 5) รณรงค์ส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งด้านการบริหารจัดการขยะ และการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย ผ่านกลไกอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) ทำให้ทุกครัวเรือนมี อถล. และมีการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียครัวเรือน เพื่อให้มีการบำบัดน้ำเสียตั้งแต่ต้นทาง ลดผลกระทบที่จะทำให้เกิดน้ำเสียในลำน้ำคูคลองสาธารณะต่อไป และ 6) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หอการค้าจังหวัด ได้นำเรื่องราวชื่อบ้านนามเมือง มาเรียบเรียงในลักษณะ Story Telling และจัดทำ route เส้นทางการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกัน เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดระนองได้อย่างต่อเนื่อง สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการร่วมกันดูแลพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นพื้นที่แห่งความยั่งยืน ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้บูรณาการทุกภาคีเครือข่ายในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการทุกคนในฐานะข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการน้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทำให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมพูดคุยปรึกษาหารือ ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับประโยชน์ อย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง เพื่อทำให้พื้นที่จังหวัดระนองเป็นพื้นที่แห่งความสุขที่ยั่งยืนของพี่น้องประชาชนตลอดไป
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 879/2566 วันที่ 21 ก.ย. 2566