วันนี้ (22 ก.ย. 66) เวลา 11.30 น. ที่บ้านพลัง หมู่ที่ 10 ตำบลนาฝาย อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ตรวจติดตามการดำเนินงานหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) โดยนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายเอกวิทย์ มีเพียร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่ ซึ่งได้รับเมตตาจาก พระครูสุนทรกิตติคุณ เจ้าคณะตำบลนาฝาย (ธ) เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านพลัง ร่วมต้อนรับ โดยมี นายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ พันตำรวจเอก สรวิศ มาอินทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาฝาย ผู้นำท้องที่ พี่น้องประชาชน คณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านช่อระกา รวมกว่า 200 คน ให้การต้อนรับและร่วมนำเสนอผลงาน
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เยี่ยมชมผลผลิต “สวนนี้มีรักปลูกผักพอเพียง” และผลผลิตทางการเกษตร เช่น ไข่เป็ด ไข่นกกระทา อาหารพื้นถิ่น หม่ำเนื้อ แหนม พืชผักสวนครัว พร้อมให้กำลังใจนักเรียนโรงเรียนบ้านช่อระกา ที่นำเสนอหลักสูตรท้องถิ่น ซึ่งเป็นหลักสูตรที่คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่จัดทำหลักสูตรท้องถิ่นเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือและถ่ายทอดภูมิปัญญาให้กับเยาวชน ทั้งการถนอมอาหาร “หม่ำ” หรือ “หม้ำ” มีลักษณะเหมือน “ไส้กรอก” แต่มีเครื่องปรุงที่สำคัญ คือ ตับสับ ม้ามสับ เนื้อสับ ปรุงเครื่องแล้วยัดใส่ในถุงกระเพาะหมู แล้วเก็บไว้กินกันเป็นแรมเดือน ถือเป็นอาหารประเภทไส้กรอกของแท้พื้นเมืองของคนอีสาน จึงมีชื่อเรียกตามภาษาพื้นเมืองขึ้นมาว่า “หม่ำ” อันเกิดจากภูมิปัญญาพื้นบ้านของชาวอีสานในการใช้ประโยชน์จากเนื้อสัตว์อย่างคุ้มค่า และหม่ำยังเป็นการเก็บรักษาอาหารไว้กินนาน ๆ ซึ่งถือเป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งที่เห็นชัดของอาหารพื้นบ้านทางอีสาน คือ มักเป็นอาหารที่ผ่านการหมักดองเพื่อเก็บถนอมอาหาร เช่น ปลาแดก ปลาส้ม เป็นต้น เพียงแต่ “หม่ำ” เป็นวิธีที่ต้องผึ่งแดดและใช้เครื่องในเป็นส่วนผสม รวมถึงการชมสาธิตการตัดผม การทำดอกไม้จันทน์ และพวงหรีดดอกไม้จันทน์ อีกด้วย
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “บ้านพลัง” เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วย “พลังแห่งความดี” ดูแลครอบครัวด้วยความรัก ความอบอุ่น ดูแลลูกหลานให้ห่างไกลจากยาเสพติด จึงเป็นที่มาของการตรวจเยี่ยม พบปะ และให้กำลังใจผู้นำท้องที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พี่น้องประชาชน ตลอดจนลูก ๆ นักเรียนในวันนี้ ด้วยเพราะท่านโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้การันตีว่า บ้านพลัง เป็นหมู่บ้านเข้มแข็ง หมู่บ้านที่คนในหมู่บ้านเป็นคนดี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีการแบ่งกลุ่มดูแลสมาชิกกันเป็นคุ้ม อยู่กันด้วยความรัก ความปรารถนาดี ความเอื้ออาทร ความเมตตากรุณา มีการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” แล้วนำผลผลิตพืชผักสวนครัวมาแบ่งปัน และร่วมกันทำกิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคี ลงแขกปลูกพืชผักสวนครัว กั้นรั้วหน้าบ้าน ทำหน้าบ้านให้น่ามอง เป็นรั้วแห่งความยั่งยืน ทั้งความยั่งยืนทางอาหาร และความยั่งยืนกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ
“..นอกจากนี้ ในรอบปีที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับนายอำเภอ และพี่น้องจิตอาสา โดยความเมตตาของคณะสงฆ์ ได้ช่วยกันสร้างบ้านให้กับผู้ไม่มีบ้านอยู่อาศัยทั่วประเทศ 200,000 กว่าหลัง ถ้าคิดเป็นหลังละ 200,000 บาท จะคิดเป็นเงิน 40,000 ล้านบาท อันเกิดจากภาคีเครือข่ายผู้มีใจ มีกำลัง มีทุนทรัพย์ โดยไม่ใช้เงินของทางราชการ มีการลงแขกช่วยกันทั้งการก่อสร้างบ้าน และการซ่อมบ้านให้มีความมั่นคงปลอดภัย ดังนั้น ถ้าพี่น้องประชาชนบ้านไหนพบเห็นปัญหา ไม่ว่าความเดือดร้อนอะไร หรือหากพบคนในหมู่บ้านมีการใช้สารเสพติด หรือมีผู้ป่วยติดเตียง ขอให้ได้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน แจ้งกำนัน เพื่อจะได้แจ้งนายอำเภอบูรณาการหาทางช่วยเหลือ หรือหากมีผู้เดือดร้อนในจังหวัดอื่น ๆ ขอให้ได้แจ้งผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 เพื่อจะได้บูรณาการสรรพกำลังให้ความช่วยเหลือต่อไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่ที่ใจคนไทย ด้วยน้ำใจคนไทย น้ำใจไมตรีที่ได้รับการสืบทอดวัฒนธรรมอันดีงามของพวกเราคนไทย คือ วัฒนธรรมของการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จุนเจือเกื้อการุณย์ จะทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ด้วยการพึ่งพาตนเอง และการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน แลกเปลี่ยนแบ่งปันสิ่งที่ดีงาม ทั้งในรูปแบบอาหารการกิน และการดูแลช่วยเหลือกันและกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนจะยังผลทำให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายก็จะมีความสุขความเจริญได้รับสิ่งที่ดีในชีวิต เพราะทุกคนต่างก็มุ่งมั่นตั้งใจทำแต่สิ่งที่ดีโดยไม่หวังผลตอบแทน จนท้ายที่สุดสังคมไทยที่เคยเป็นสังคมแห่งความร่มเย็นเป็นสุข สังคมแห่งการดูแล ช่วยเหลือกันและกัน จะได้กลับมาเฉกเช่นเมื่อครั้งบรรพบุรุษ ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสุขอย่างยั่งยืนตลอดไป
ด้าน นางสาวกันธิมา แดงสกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 กล่าวว่า อำเภอเมืองชัยภูมิ ภายใต้การนำของนายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ ได้มีการเน้นย้ำให้ทีมของอำเภอ ทีมของตำบล และทีมของหมู่บ้าน ได้บูรณาการภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชนในหมู่บ้าน ให้มีความอยู่ดี กินดี มีความสุขอย่างยั่งยืน โดยทีมผู้นำการขับเคลื่อนนักยุทธศาสตร์นำการเปลี่ยนแปลงระดับหมู่บ้าน (V-Cast) โดยในส่วนของมาตรการด้านการป้องกันยาเสพติดในหมู่บ้านนั้น พื้นที่หมู่ที่ 10 ได้มีมาตรการดูแล คือ การป้องกันกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กนักเรียน และลูกหลานของคนในหมู่บ้าน ด้วยการชักชวนให้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ผ่านการเล่นกีฬา โดยใช้ลานอเนกประสงค์แห่งนี้เป็นศูนย์รวมกิจกรรมสร้างสรรค์ และในมาตรการด้านอื่น ๆ ได้ใช้กลไกคณะกรรมการหมู่บ้านออกลาดตระเวนตรวจตราอยู่เสมอ เพื่อป้องกันลูกหลานและสมาชิกในชุมชน ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ร่วมกันดูแลกันและกันให้เป็นชุมชนเข้มแข็ง เป็นหมู่บ้านยั่งยืนตลอดไป
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 886/2566 วันที่ 22 ก.ย. 2566