วันนี้ (1 พ.ย. 66) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมรัตนโกสินทร์ ชั้น 23 อาคาร LED การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) สำนักงานใหญ่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยมี นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คณะผู้บริหาร และพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมให้การต้อนรับ โอกาสนี้ นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย โพธิ์สุ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมตรวจเยี่ยม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้ตนพร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยทั้ง 3 ท่าน ได้ร่วมกันเดินทางมาตรวจเยี่ยมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA ด้วย เพราะเราให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนงานรัฐวิสาหกิจเพื่อพัฒนาการให้บริการสาธารณูปโภคสำหรับพี่น้องประชาชน ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย เป็นฟันเฟืองสำคัญเปรียบเสมือน “เส้นเลือดใหญ่” ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ขับเคลื่อนภารกิจ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ของกระทรวงมหาดไทยไปสู่ประชาชน ซึ่งพวกเราทุกคนในที่นี้ก็เป็นหนึ่งในประชาชน
“กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับเรื่องการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะ “ด้านสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ” และสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันของทุกส่วนราชการ เพื่อสร้างต้นแบบพลังงานทางเลือกให้กับประชาชน ด้วยการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานในหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อลดต้นทุนพลังงาน รวมถึงการใช้พลังงานสะอาด โดยส่งเสริมการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ Solar Cell และ Solar Rooftop ในสถานที่ราชการและที่อยู่อาศัย เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าไฟให้ประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนของประชาชนในการดำเนินชีวิตและการดำเนินธุรกิจของทุกภาคส่วน ดังนั้น PEA ต้องคำนึงและให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด “ที่สะอาดจริง ๆ” พร้อมทั้งทำให้เกิดความสมดุลในระยะยาว ไม่ให้เป็นภาระในการจัดการหรือการซ่อมแซม (Maintenance) รวมถึงการจัดทำแผน Carbon Neutrality Roadmap เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมุ่งสู่นโยบาย Carbon Neutrality ปี ค.ศ. 2050 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ตลอดจนถึงต้องมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาการให้บริการพลังงานไฟฟ้าและดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ในเรื่องการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของประชาชนภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยขอให้ PEA ได้พิจารณาขยายระยะเวลาการตัดมิเตอร์ไฟฟ้าจากปกติ 1 เดือน เป็น 3 เดือน เพื่อช่วยเหลือและให้โอกาสประชาชนที่เดือดร้อน” นายอนุทินฯ กล่าวเน้นย้ำ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้พัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบไฟฟ้ามีความ “มั่นคง ปลอดภัย เชื่อถือได้” โดยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนองค์กรให้ทันสมัยด้วยทุนมนุษย์ ทุนเทคโนโลยี และทุนนวัตกรรม สอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงมหาดไทยที่ต้องการขับเคลื่อนภารกิจด้วยความ “ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” และที่สำคัญที่สุด คือ ต้องลดภาระของพี่น้องประชาชนให้ได้ เพื่อสามารถช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน และไม่เอารัดเอาเปรียบประชาชนทุกคน ยึดมั่นในการร่วมกันลดความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมในสังคม มุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติงานด้วยเจตนารมณ์ที่จะทำประโยชน์เพื่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติอย่างสุดความสามารถ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนทุกคนอย่างยั่งยืน
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1033/2566 วันที่ 1 พ.ย. 2566