เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 67 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากกรณีปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ได้มีการเสนอเรื่องที่มีบุคคลได้ขับรถยนต์บีบแตรรถยนต์ลากยาวระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ขณะเสด็จผ่านทางร่วมต่างระดับมักกะสัน โดยมีพฤติการณ์ขับรถยนต์ด้วยความเร็วเพื่อไปให้ทันขบวนเสด็จซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สกัดกั้นรถยนต์คันดังกล่าวจนได้มีการโต้เถียง ซึ่งต่อมาได้เกิดการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ถึงพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าว และเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2567 ศาลอาญาได้ออกหมายจับกลุ่มบุคคลดังกล่าวแล้วนั้น โดยในห้วงระหว่างวันที่ 20 – 22 ก.พ. 2567 พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศพร้อมใจสวมใส่ชุดสีม่วง รวมพลังแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และถวายกำลังใจแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อาทิ
1. จังหวัดกำแพงเพชร ที่ลานกิจกรรมลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สิริจิตอุทยาน ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกำแพงเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ประชาชน และภาคีเครือข่าย เข้าร่วมกิจกรรมรวมพลังถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นคนดีและพลังของแผ่นดิน และร่วมถวายกำลังใจสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี กว่า 10,000 คน โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้สวมใส่เสื้อสีม่วงพร้อมยืนเป็นรูปหัวใจสีม่วง ภายใต้กรอบสีเหลืองและสีขาว สะท้อนให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรยังได้นำกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมกล่าวคำว่า “ชาวกำแพงเพชรรักสมเด็จพระเทพ” พร้อมกัน 3 ครั้ง และร่วมกันร้องเพลง “ในอุ่นอ้อมอกมั่นคง”
2. จังหวัดระยอง ที่ลานกิจกรรมกองการบินทหารเรือ กองทัพเรือ ต.พลา อ.บ้านฉาง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในการนำข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชาวระยองทุกหมู่เหล่ากว่า 2,000 คน ร่วมกันใส่เสื้อโทนสีม่วง ประกอบพิธีเฉลิมพระเกียรติถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมนำกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี นอกจากนี้ยังมีการแปรอักษรรูปหัวใจ และเกือกม้าล้อมรอบ เพื่อสื่อให้เห็นถึงการปกป้องดวงใจของปวงชนชาวไทย
3. จังหวัดยะลา ที่บริเวณวงเวียนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยะลา หน้าศาลากลางจังหวัดยะลา นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา และพสกนิกรจังหวัดยะลา ร่วมกิจกรรมรวมพลังแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาได้เปิดกรวยถวายราชสักการะ พร้อมทั้ง ประกาศเจตนารมณ์แห่งความจงรักภักดี นำผู้เข้าร่วมกิจกรรมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีจอมราชันเสียงดังกึกก้อง เพื่อถวายกำลังใจแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย
4. จังหวัดหนองบัวลำภู ที่บริเวณลานหน้าเสาธง ศาลากลางจังหวัดหนองบัวลำภู นายสุวิทย์ จันทร์หวร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนชาวจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมใจกันสวมใส่เสื้อสีม่วง วางพานพุ่มสักการะ ถวายราชสดุดี ถวายบังคม ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์เพื่อแสดงจุดยืนในการปกป้องและถวายกำลังใจแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อปวงชนชาวไทย และร้องเพลงชาติไทย เพลงสรรเสริญพระบารมี โดยเปล่งเสียงร้อง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณพิธี
5. จังหวัดสตูล ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสตูล รองผู้ว่าราชการจังหวัด นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการตุลาการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ภาคเอกชน และประชาชนจำนวนมาก กล่าวถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
6. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ลานหน้าศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดร.ธวัชชัย นิมา นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน 25 จังหวัดภาคกลาง นำกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสารวัตรกำนัน จาก 16 อำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 1,600 คน รวมพลังน้อมแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
7. อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ หอประชุมอำเภอทับสะแก นายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอทับสะแก พร้อมด้วยนายกเทศมนตรีตำบลทับสะแก นายก อบต.เขาล้าน นายก อบต.นาหูกวาง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอทับสะแก หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ตลอดจนภาคีเครือข่าย และพสกนิกรชาวอำเภอทับสะแก พร้อมใจแต่งชุดโทนสีม่วง แสดงพลังแห่งความจงรักภักดี ถวายกำลังใจแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมร่วมกันกล่าวคำถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” และร่วมร้องเพลง “สรรเสริญพระบารมี” ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
8. อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนการบินไทย หมู่ที่ 9 ตำบลไทร นางสาวสุภาพ แสนมี นายอำเภอคลองหาด เป็นประธานในพิธีกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา เพื่อถวายกำลังใจแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอคลองหาด ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ และจิตอาสาพระราชทาน ร่วมกันจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” กิจกรรมประกอบด้วย การปลูกต้นไม้ กวาดใบไม้ และทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม รวมจำนวน 100 คน
9. อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองบุรีรัมย์ นายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ เป็นประธานในพิธีถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พสกนิกรชาวอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ร่วมกิจกรรมปกป้องสถาบัน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี เทิดทูนต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวไทย โดยได้พร้อมใจกันร่วมแปรอักษรเป็นรูปหัวใจ 2 ดวงชนกัน เป็นรูปหัวใจสีม่วงกับหัวใจสีเหลือง อย่างพร้อมเพรียง และสวยงาม เพื่อถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา และความเอาพระทัยใส่ในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทรงมีพระราชปณิธานที่จะช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ยาก เดือดร้อน โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ เผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ ศาสนา อำนวยประโยชน์สุข เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ขจัดปัดเป่าเภทภัยให้แก่อาณาประชาราษฎร์ในทุกถิ่นที่ของผืนแผ่นดินไทย ก่อเกิดประโยชน์อันไพศาลแก่พสกนิกรชาวไทย จึงขอเชิญชวนให้คนไทยช่วยกันสนองแนวพระราชดำริในโครงการต่าง ๆ อาทิ การสร้างความมั่นคงทางอาหาร “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างรากฐานการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และขยายผลต่อไปด้วยการทำผ่านมือเล็ก ๆ ทั้งสองมือของพวกเราให้เกิดพลังการเปลี่ยนเเปลงอันยิ่งใหญ่ ร่วมกันทำความดีถวายพระพร ทำให้แนวพระราชดำริเกิดผลลัพธ์ที่ทวีความสมบูรณ์พูนสุข สร้างคุณภาพชีวิต สร้างรอยยิ้ม สร้างความรักความสามัคคีให้แก่ชาติบ้านเมือง อันเป็นการปฏิบัติบูชาน้อมเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยไปด้วยกัน
“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมกันแสดงความจงรักภักดี ด้วยการเผยแพร่คลิป Music Video เพลง “ในอุ่นอ้อมอกมั่นคง” ที่กระทรวงมหาดไทยจัดทำเพื่อถวายกำลังใจด้วยความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ผ่านลิงก์ https://youtu.be/BPoLGRE0088?si=A_PZBi_OzTN9xxLj ทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทาง” นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเน้นย้ำ
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 297/2567 วันที่ 22 ก.พ. 2567