วันนี้ (14 มี.ค. 67) นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดชลบุรีได้รับร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางละมุงว่า ได้รับความเดือดร้อนเรื่องเสียงจากการเล่นดนตรีสดและเปิดเพลงของสถานประกอบการแห่งหนึ่งในอำเภอบางละมุง ตนจึงได้สั่งการให้นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง นำปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ร่วมกับสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอบางละมุง ลงพื้นที่สำรวจตรวจตราและตรวจสอบการลักลอบกระทำความผิดของสถานประกอบการในพื้นที่ดังกล่าว ตามนโยบายเรื่องการจัดระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทย
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีผู้ร้องเรียนว่า ได้รับความเดือดร้อนเรื่องเสียงจากการเล่นดนตรีสดและเปิดเพลงของสถานประกอบการดังกล่าวจนถึงตี 4 เป็นระยะเวลานานแล้ว จึงสั่งการให้เข้าตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่าสร้างปัญหามลภาวะทางเสียง รวมทั้งเปิดเกินเวลาจริง ให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบสถานประกอบการดังกล่าวซึ่งมีชื่อร้านว่า คาวบอยบาร์ (ทราบชื่อภายหลังอีกชื่อ คือ ร้านกระดกยกซด) ตั้งอยู่บริเวณซอยบุญสัมพันธ์ 12 หมู่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบพบว่า ร้านคาวบอยบาร์ เข้าข่ายเป็นสถานบริการ จึงได้ให้แสดงใบอนุญาตฯ แต่ผู้ประกอบการไม่สามารถนำใบอนุญาตตั้งสถานบริการและใบอนุญาตขายสุรามาแสดงได้ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ประกอบการ 2 ข้อ คือ 1) เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 2) จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ดูแลร้านส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองปรือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“ขอย้ำเตือนไปยังผู้ประกอบการสถานบันเทิงทุกแห่งในจังหวัดชลบุรี จะต้องประกอบธุรกิจด้วยความมีจิตสํานึกรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ละเมิดต่อกฎหมาย และไม่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 และคำสั่ง คสช. ที่ 46/2559 ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ กระทําการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ 1) ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการ 2) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 3) เปิดทําการเกินกว่าเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ 4) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่ากําหนดเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ 5) ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือยาเสพติดเข้าไป ในสถานที่ของตน 6) ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทําความผิดฐานค้ามนุษย์ ในสถานที่ของตน 7) ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการเล่นการพนันในสถานที่ของตน และ 8) มีที่ตั้งบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หรือหอพักในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา และขอเน้นย้ำแนวทางสำคัญที่สุด คือ “ห้ามเด็ก การพนัน ค้ามนุษย์ อาวุธ ยาเสพติด ปิดเกินเวลา ตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษา ถูกจับแล้วโดนปิดแน่นอน” จึงควรประกอบกิจการโดยมีจิตสํานึกรับผิดชอบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม ไม่ฝ่าฝืนข้อห้ามข้างต้น หากฝ่าฝืนจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทันที และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่บ้านเมือง หากพบเห็นการกระทำความผิด ขอให้แจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567 ซึ่งข้อมูลการแจ้งของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับ และหากตรวจพบแล้วเป็นความผิดจริงจะได้รับการดำเนินการดังเช่นกรณีนี้แน่นอน” นายธวัชชัยฯ กล่าวทิ้งท้าย
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 425/2567 วันที่ 14 มี.ค. 2567
