วันนี้ (13 มิ.ย. 67) นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนตลอดจนสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับประเทศชาติ เป็นบ่อนทำลายสังคมไทยที่รัฐบาล และกระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญในการดำเนินการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย โดยเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการเร่งรัดการปฏิบัติและวางแนวทางร่วมกับหน่วยงานองคาพยพในพื้นที่ดำเนินการกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับในการปฏิบัติการทำสงครามกับยาเสพติด เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียขึ้นในสังคมไทยเฉกเช่นที่ผ่านมา เพราะยาเสพติดถ้าอยู่ในพื้นที่ใด หรือลูกหลานบ้านไหนไปเสพยาเสพติด บ้านนั้น ครอบครัวนั้น จะต้องทนทุกข์ทรมานประดุจไฟที่แผดเผาบ้านจนไม่เหลือแม้แต่ซากหรือเปรียบว่า ไม่เหลือความสุขเลยแม้แต่น้อย
“จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ดำเนินการประกาศให้วาระการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด “เป็นว่าสำคัญของจังหวัด” ภายใต้ชื่อ “ยุทธการพิทักษ์อยุธยา” ระยะเร่งด่วน 3 เดือน ด้วยการดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาด ทั้งการสกัดกั้น การจับกุม ยึดทรัพย์ จัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง การนำผู้เสพเข้ารับการบำบัด และการลดความรุนแรงของปัญหาจิตเวชจากยาเสพติด โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) หน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ตลอดจนส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ห้าง ร้าน ประชาชน และภาคีเครือข่าย ซึ่งมี คณะสงฆ์ เป็นผู้นำการหลอมรวมในการหนุนเสริมรณรงค์สร้างสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ให้ประชาชน ผู้คน ห่างไกลจากยาเสพติดและเครื่องมัวเมาทั้งปวง” นายนิวัฒน์ กล่าวในช่วงต้น
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวเน้นย้ำว่า ในวันนี้ ที่บริเวณลานหน้าอาคารศูนย์ท่องเที่ยวอยุธยา ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเก่า ได้จัดให้มีพิธีปล่อยแถวเปิดปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน (1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2567) โดยมี นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พลตำรวจตรี โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พันเอก (พ) ภัทราวุธ ทิพโกมุท รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทหาร ตำรวจ นายอำเภอ ฝ่ายปกครอง ป.ป.ส. ภาค 1 สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการเปิดปฏิบัติการ โดยมุ่งหวังกวาดล้างยาเสพติดให้หมดไปในระยะเร่งด่วน พร้อมทั้งวางมาตรการในการ Re X-ray พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในทุกอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ด้วยกลไก “ทีมจังหวัด ทีมอำเภอ ทีมตำบล และทีมหมู่บ้าน บำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน” ประสานการปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ ตลอดจนถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน สร้างความรับรู้เข้าใจและรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนได้เป็นผู้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดมายังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ปลัดอำเภอ นายอำเภอ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อประสานชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง และตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเข้าดำเนินการโดยเร่งด่วน โดยใช้สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 ซึ่งเชื่อมสัญญาณไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสถานีตำรวจในพื้นที่ที่ประชาชนโทรศัพท์แจ้ง ทั้งนี้ ในกรณีมีพฤติการณ์อันเชื่อได้ว่าเป็น “ผู้ค้ายาเสพติด” เจ้าหน้าที่จะได้ส่งสายลับเข้าทำการสืบหาข้อเท็จจริงตามเบาะแสที่ประชาชนแจ้ง แต่หากเป็น “ผู้เสพยาเสพติด” เจ้าหน้าที่จะได้พาตัวผู้เสพเข้ารับการบำบัดรักษา พร้อมทั้งฝึกทักษะการใช้ชีวิตเพื่อให้สามารถกลับคืนคนดีสู่สังคมพระนครศรีอยุธยา มาช่วยเหลือที่บ้านทำกิจการ ทำมาหากิน หรือทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวในช่วงท้ายว่า การดำเนินการปฏิบัติการยุทธการ “พิทักษ์อยุธยา” ในระยะเร่งด่วน 3 เดือน ไม่อาจสำเร็จได้ หากขาดความร่วมไม้ ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วยกันแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ โดยข้อมูลที่แจ้งจะถูกปกปิดเป็นความลับ เพื่อไม่ให้ผู้แจ้งได้รับภัยในภายหลัง และตนเชื่อว่า ด้วยพลังของชาวอยุธยา “อยุธยาไม่สิ้นคนดี” เพราะคนอยุธยาทุกคน เป็นผู้ที่มีความปรารถนาที่จะเห็นลูกหลานตลอดจนเพื่อนสมาชิกในชุมชน คนอยุธยา หรือผู้มาทำงานในพื้นที่ ได้มีความสุขกับการทำงาน มีความสุขกับการใช้ชีวิต มีความสุขกับการเรียนหนังสือ โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ดังนั้น หากท่านมีเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ขอให้แจ้งสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และช่วยเหลือทำให้สังคมอยุธยาเป็นสังคมแห่งความสุข ความปลอดภัย ที่ยั่งยืนตลอดไป ช่วยกันทำให้ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลดระดับความรุนแรงลง
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1149/2567 วันที่ 13 มิ.ย. 2567