วันนี้ (13 มิ.ย. 67) นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า จังหวัดนครปฐมได้นำนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในด้านการจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยจัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษจังหวัดนครปฐมบูรณาการการทำงานร่วมกับฝ่ายปกครองของที่ทำการปกครองอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความผาสุกให้กับสังคม สร้างนครปฐมที่น่าอยู่ ปลอดภัย ด้วยการสร้างพลังการมีส่วนร่วมในการช่วยกันดูแลสังคม ผ่านการแจ้งเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายมายังสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม เพื่อเจ้าหน้าที่สนธิกำลังหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าจับกุมผู้กระทำความผิด
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ล่าสุด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครปฐม ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพลเมืองดีในพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐมว่า มีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม ตนจึงได้สั่งการให้ นายพัฒนพงษ์ สร้อยอินทรากุล ปลัดจังหวัดนครปฐม และ ดร.กิตวิชัย ไชยพรศิริ นายอำเภอเมืองนครปฐม มอบหมายชุดสืบสวนส่งสายลับเข้าทำการสืบข้อมูล จนทราบว่ามีกระทำความผิดจริง คือ พบมีพฤติการณ์จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จึงได้สั่งการให้ นายสุนา วงษ์ละคร ป้องกันจังหวัดนครปฐม บูรณาการร่วมกับนายสืบสกุล อุดมกิจ ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองนครปฐมนำชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครปฐม และชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองนครปฐม พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) เข้าตรวจสอบร้านค้าไม่มีชื่อ ไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่บริเวณซอยหอชยาทิพย์ ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
“การปฏิบัติการในครั้งนี้ ทำให้สามารถจับกุม น.ส. นันณภัส (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี พร้อมตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 1,157 เครื่อง คอยล์บุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ จำนวน 3,796 อัน น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 962 ขวด เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 279 เครื่อง ป้ายแสดงราคา จำนวน 8 แผ่น โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา รวม 3 ฐานความผิด ได้แก่ 1) เป็นผู้ขายหรือจัดหาด้วยประการใด ๆ หรือเสนอ หรือชักชวนให้มีการขาย ให้บริการหรือจัดหาด้วยประการใด ซึ่งสินค้าบุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น 2) ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” และ 3) ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการศุลกากร ในความผิดฐานซื้อ รับไว้ โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นความผิด ซึ่งได้นำตัวส่งผู้กระทำผิดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ดำเนินคดีตามกฎหมาย” นายสุรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม
นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวในช่วงท้ายว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ ที่มีความเสี่ยงอาจไปลุ่มหลงอบายมุข เสพจนติดบุหรี่ไฟฟ้า เป็นอันตรายทั้งต่อตนเองและผู้อื่น จังหวัดนครปฐม จึงได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่มาโดยตลอด เพราะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย และชีวิตของผู้สูบเป็นอย่างมาก อาทิ การก่อให้เกิดมะเร็งปอด เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและโรคปอดอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อทั้งตัวผู้สูบ ครอบครัว และชุมชนในระยะยาวอย่างแน่นอน จึงต้องดำเนินการจับกุมอย่างจริงจังและเด็ดขาด ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนในความร่วมมือร่วมใจ สำหรับออกปฏิบัติการในครั้งนี้ และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยเป็นหูเป็นตา ระแวดระวังบ้านเมืองของเรา หากพบเห็นเบาะแสการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า หรือยาเสพติด รวมทั้งการกระทำความผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูล และร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1150/2567 วันที่ 13 มิ.ย. 67