เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 67 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบโล่รางวัล KONGTHANU MOI’s MODEL “โก่งธนูโมเดล” โมเดลแห่งความยั่งยืน ให้แก่ นายบรรหาญ เนาวรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู โดยมี นายอรรถพล พูลแย้ม ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู นายพะเยาว์ เพ็งกลิ่น รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู นายมนตรี ธรรมรักขิโต นายยุทธนา เพ็งกลิ่น รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู นายสหรัฐ เนาวรัตน์ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู พร้อมด้วยสมาชิกสภา นางแสงจันทร์ ระวังกิจ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู นายพิทักษ์รัฐ ระวังกิจ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านข่อย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับมอบ
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนายกบรรหาญ เนาวรัตน์ หรือ “นายกแดง” แห่งองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู ตลอดจนทีมงานทุกท่าน ที่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ได้เป็นกำลังสำคัญในการพูดคุยเชิญชวนพี่น้องประชาชนของตำบลโก่งธนู รวมทั้งภาคีเครือข่าย มีผู้นำคณะสงฆ์ ข้าราชการ และทุกภาคส่วนในพื้นที่ ลุกขึ้นมาน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และแนวพระราชดำริด้านการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผลผู้คนรักกัน” รวมตลอดจนถึงการแสดงตนเป็นพลเมืองที่ดีของโลก ดูแลเรื่องของคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนครบทุกด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของสิ่งแวดล้อม การคัดแยกขยะ การทำให้โครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนต่อยอดไปสู่การขายคาร์บอนเครดิต
“อบต.โก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เป็น 1 ใน 5 พื้นที่นำร่องที่ได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการหา Methodology คิดคำนวณค่าคาร์บอนเครดิตจนได้ปริมาณขยะ/คน/วัน อยู่ที่ 0.252 กิโลกรัม และขยายผลทำให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สามารถร่วมกับพี่น้องประชาชน ในทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 7,849 แห่ง ใน 76 จังหวัด 878 อำเภอ ช่วยกันคัดแยกขยะและทำให้ได้จำนวนคาร์บอนเครดิตสูงถึง 1.8 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า (tCO2eq) อันเป็นประจักษ์พยานที่เป็นรูปธรรม ทำให้คนไทยและชาวโลกนำไปเป็นตัวอย่าง นอกจากนี้ การจำหน่ายคาร์บอนเครดิต และธนาคารขยะ ยังสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชนในการนำไปดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า การที่ชาวโก่งธนูช่วยกันดูแลรักษาวัฒนธรรมประเพณี ช่วยกันดูแลลูกหลานให้เป็นคนดี มีศีลธรรม ปลอดจากยาเสพติดและอบายมุขทั้งปวง รวมถึงดึงพลังภาคีเครือข่ายมาช่วยกันดูแลชุมชน/ตำบล/หมู่บ้านของพวกเรา จนได้ผลดีเยี่ยมในทุกเรื่องที่เป็นนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยอันสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ของสหประชาชาติ ซึ่ง อบต.โก่งธนู ได้กรุณาทำให้คนไทยทั่วประเทศได้เห็นเป็นตัวอย่าง สะท้อนจากรางวัลจำนวนมาก อาทิ สุดยอดตำบลธรรมาภิบาล สุดยอดตำบลสะอาด สุดยอดตำบลเข้มแข็ง สุดยอดตำบลพัฒนา แต่ในภาพรวมของจังหวัดลพบุรี ยังมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ ที่พวกเราชาว อบต.โก่งธนู ต้องเป็นภาคีเครือข่ายทำให้พี่น้องชาวลพบุรีทั้งจังหวัด ได้เป็นบัวพ้นน้ำในการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เฉกเช่นที่ชาวโก่งธนูได้ทำมาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้
“ตนในฐานะปลัดกระทรวงมหาดไทย คนที่ 41 และดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย มีความปรารถนาที่จะมอบโล่รางวัล KONGTHANU MOI’s MODEL “โก่งธนูโมเดล” โมเดลแห่งความยั่งยืน เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับพี่น้องชาวตำบลโก่งธนู นับเนื่องแต่ท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และภาคีเครือข่ายทุกส่วน ว่าทุกท่าน คือ “ต้นแบบของกระทรวงมหาดไทย” ที่เป็น “ต้นแบบของชาติ” ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน อันหมายความว่า ลงมือทำในทุกเรื่อง ด้วยกระบวนการทำงานตามหลัก “บวร” อันประกอบด้วย บ้าน วัด ราชการ ตามหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันสอดคล้องกับการทำงานแบบภาคีเครือข่าย ตามหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อย่างมีพลัง และเป็นพลังของสังคมเพื่อความยั่งยืน ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รางวัลที่ได้มอบให้ในครั้งนี้จะเป็นกำลังใจให้ท่านนายกบรรหาญ เนาวรัตน์ และทีมงาน ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวตำบลโก่งธนูทุกคน มุ่งมั่น ทุ่มเท บูรณาการสรรพกำลัง บูรณาการงาน ในการ Change for Good ทำให้ความดีที่มีอยู่แล้ว ดีเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งขยายผลไปยังตำบลข้างเคียง หมู่บ้านข้างเคียง อำเภอข้างเคียง ให้เต็มทั่วทั้งจังหวัดลพบุรี เพื่อให้ทุกพื้นที่ของลพบุรีทำให้จังหวัดลพบุรีเป็น “จังหวัดแห่งความยั่งยืน”” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเน้นย้ำ
นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ตน และดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ขอเป็นกำลังใจและยกย่องชมเชยชาวโก่งธนู เป็นตำบลต้นแบบ อบต.ต้นแบบ พลเมืองดีของชาติต้นแบบ เป็นคนดีของโลกต้นแบบ และหวังว่ารางวัลนี้จะเป็นกำลังใจและหนุนเสริมทำให้พี่น้องชาวโก่งธนู ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ทำความดี ในฐานะพลเมืองดีของชาติไทย และพสกนิกรที่ดีที่มีความจงรักภักดีอยากจะสนองแนวพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” ด้วยการ “แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ตลอดไป
นายบรรหาญ เนาวรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู กล่าวว่า พวกเราชาวโก่งธนูต้องขอขอบพระคุณท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย รวมถึงครอบครัวของท่าน ตนขอยืนยันว่าตำแหน่ง “ปลัดกระทรวงมหาดไทย คนที่ 41” ของท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ทำให้คนโก่งธนูเพิ่มความรัก ความสามัคคี แม้แต่ท่านจะเกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ความเคารพท่านและครอบครัวของท่านจะไม่มีวันเกษียณ ตนและชาว อบต.โก่งธนู จะดูแลพี่น้องประชาชนตามแนวทางที่ท่านได้มอบให้กับพวกเราทุกคน เพราะท่านช่วยคนตำบลโก่งธนู ช่วยจังหวัดลพบุรี ช่วยประเทศชาติ เราขอกราบขอบพระคุณท่าน และขอยืนยันว่า ไม่ว่ากี่ครั้งหรือเวลาใด ทีมงานของพวกเราจะช่วยเหลือท่านตลอดไป ด้วยการมุ่งมั่นทำหน้าที่ข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มุ่งมั่นในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขพี่น้องประชาชน “เราจะไม่เกษียณความเคารพนับถือต่อท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ” และขอกราบขอบพระคุณที่ท่านช่วยขยายผลในฐานะผู้นำการน้อมนำพระราชดำริ “บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผลผู้คนรักกัน” สนองพระเดชพระคุณพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยการเป็น “ผู้นำทำก่อน” จนเกิดการขับเคลื่อนขยายผลอย่างแพร่หลาย ทำให้ประชาชนคนไทยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างสมบูรณ์ เราจะร่วมกันทำสิ่งที่ท่านได้เริ่มต้นไว้ให้คงอยู่ตลอดไป
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1864/2567 วันที่ 24 ก.ย. 2567