วันนี้ (9 ส.ค. 65) เวลา 15.00 น. ณ ห้อง War Room ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นำการเปลี่ยนแปลงอำเภอนำร่อง ระดับกลุ่มจังหวัด ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมการฝึกอบรมในระหว่างวันที่ 6 – 9 สิงหาคม 2565 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน (ศพช.) 9 แห่ง ประกอบด้วย จังหวัดลำปาง พิษณุโลก อุดรธานี อุบลราชธานี ยะลา เพชรบุรี นครราชสีมา นครนายก และ จังหวัดชลบุรี โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี รองศาสตราจารย์วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ปลัดจังหวัดพะเยา ปลัดจังหวัดลำปาง ผู้อำนวยการสถาบันดำรงราชานุภาพ เจ้าหน้าที่ ศพช. ทั้ง 9 แห่ง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมจากอำเภอนำร่อง ทั้ง 9 แห่ง ประกอบด้วย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี อ.ปากปลา จ.นครพนม อ.เทพา จ.สงขลา อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี และ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา รวมจำนวน 900 คน ร่วมในพิธีปิดโครงการอบรมในวันนี้
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การอบรมในระหว่างวันที่ 6 – 9 สิงหาคม 2565 ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการทุกท่านมีความพร้อม ความมั่นใจ ให้กับตนเองและทีมงาน 100 ชีวิตจากแต่ละอำเภอ เพื่อกลับไปช่วยสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่เป็นประโยชน์ให้กับพื้นที่บ้านเกิดเมืองนอน โดยหลักการยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง หรือ Citizen Centric Government ให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ขอขอบคุณที่ทำให้การฝึกอบรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และขอชื่นชมการขับเคลื่อนภารกิจในจังหวัดพิษณุโลก โดยท่านรณชัย จิตรวิเศษ
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ที่ได้เอาใจใส่ดูแลทีมอำเภอนำร่อง หรือทีม CAST ของอำเภอเมืองพิษณุโลกเป็นอย่างดี และมีการขยายผลในทางคู่ขนานของทุกอำเภอในจังหวัดพิษณุโลกจนเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่น ๆ ได้ทำตาม ซึ่งเป็น Momentum for Change ที่เป็นรูปธรรม
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า สิ่งดี ๆที่เกิดขึ้นนี้ เกิดขึ้นจาก Passion ของทุกคน เช่น จังหวัดพิษณุโลก ที่ยกตัวอย่างเมื่อสักครู่ว่าสมควรได้รับการชื่นชมยกย่องและเป็นกำลังใจให้ท่านได้สานต่อสิ่งดี ๆ จะได้เป็นแบบอย่างที่ดีสู่การขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในการฝึกอบรมระยะเวลา 4 วันนี้ แม้เป็นเวลาสั้น ๆ แต่ผมเชื่อว่าเป็น 4 วันที่จะเกิดประโยชน์ สามารถหล่อหลอมให้ทุกท่าน 100 ชีวิต สามารถเป็น 1 เดียวกันได้ นำไปสู่การ Change for Good ที่แท้จริง ผมเชื่อมั่นว่า ทุกท่านมีความรู้ ความสามารถ และมีกำลังใจที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องช่วยกันปลุกเร้าให้คนในทีมมีแรงใจในการฝ่าฟันปัญหา และอุปสรรคต่าง ๆ เหมือนที่ทุกท่านได้นำเสนอผ่านโครงการที่แต่ละกลุ่มได้ช่วยกันคิด การอบรมในครั้งนี้ มีความแตกต่างจากการฝึกอบรมทั่ว ๆ ไป ซึ่งจะต้องอาศัยความอดทน ความเพียรพยายาม ที่ต้องนอนดึก ถึง 23.00 น. และตื่นเช้า เพื่อทำกิจกรรมในเวลา 05.00 น. ฉะนั้นความเข้มข้นต่าง ๆ จะสำเร็จไม่ได้ ถ้าไม่มีหัวใจ ไม่มีความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และอุดมการณ์ที่แน่วแน่ แสดงให้เห็นว่าทุกท่านที่เข้าร่วมโครงการมีความหวังดีต่อประเทศชาติ ซึ่งสามารถสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นในแผ่นดินได้ ตัวผมเองจะขอติดตามผลงาน ของทุก ๆ ทีม รวมถึงการบูรณาการสร้างเครือข่ายจากภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย และจะนำความสำเร็จต่าง ๆ มาเล่าสู่พี่น้องประชาชนได้ร่วมชื่นชมสิ่งดี ๆ
“ปัญหาความยากลำบากที่ผ่านมาจากความเข้มข้นของหลักสูตรนี้ ต้องขอขอบคุณ รองศาสตราจารย์วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายบรรหาร เนาวรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ดร.ศิริมาเมธ์วดี ศิรธนิตรา นายกเทศมนตรีเมืองพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานีคณะวิทยากร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ทั้งจากสถาบันดำรงราชานุภาพ กรมการปกครอง และกรมการพัฒนาชุมชน ผมมั่นใจว่าจะต้องเกิดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ทำให้มีความคึกคักในแต่ละพื้นที่ จะต้องมีสิ่งดี ๆ มากมายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งจะสามารถสร้างความมั่นคง มั่งคง และยั่งยืน ตามปณิธานแห่งการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ของกระทรวงมหาดไทย สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ และเป็นกำลังหลักของประเทศชาติ ในการร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้นกับพี่น้องประชาชน เพื่อทำความดีถวายในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2565 และในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนเป็นโอกาสที่กระทรวงมหาดไทย ก้าวสู่ปีที่ 131 อย่างมั่นคง” นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวทิ้งท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 303/2565 วันที่ 9 ส.ค. 65
#๙๐พรรษาสมเด็จแม่ของแผ่นดินร่วมสร้างความดีถวาย
#กระทรวงมหาดไทย
#๑๓๐ปีกระทรวงมหาดไทย_บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SDGsforAll #ChangeforGood
