เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 65 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานตามนโยบายทำสงครามกับยาเสพติดของรัฐบาล โดยวันนี้กระทรวงมหาดไทยได้รับรายงานผลการปฏิบัติจากหลายพื้นที่ ทั้งการจับกุมผู้กระทำความผิดจากการขยายผลคดีเดิม และจากการ Re X-Ray ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยการบูรณาการระดมสรรพกำลังของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองเเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการรายงานข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยโดย ศอ.ปส.มท. ศอ.ปส.จ. และ ศป.ปส.อ. ได้มีการเน้นย้ำในด้านการลด Demand และ Supply จากการขยายผลการป้องกันเเละปราบปรามทำให้มีผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายละเอียดผลการปฏิบัติพอสังเขป ดังนี้
1. จังหวัดระนอง พันเอก ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 สั่งการให้พันเอก สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 25 /ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 ค่ายรัตนรังสรรค์ และพลตำรวจตรี เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ร่วมแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยาเสพติด พื้นที่ อ.สุขสำราญ ได้ยาบ้า 27,718 เม็ด และผู้ต้องหาจำนวน 4 คน สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 65 เจ้าหน้าที่ทหารจุดตรวจ อ.สุขสำราญ กม.70 ทหารชุด ฉก.ร.25 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุขสำราญ เข้าทำการจับกุม นายศุภกิจหรือจุก และ น.ส.สมมารถ ที่บ้านเลขที่ 166 ม.3 ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง พร้อมของกลางยาบ้า 41 เม็ด หลังจากนั้นขยายผลการจับกุม นายอัสร่อนีหรืออาบู ได้ในพื้นที่ ม.3 บ้านบางกล้วย ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง พร้อมของกลางยาบ้า 55 เม็ด และจับกุม นายอภิวัฒน์ หรือเอ็กซ์ ได้ในพื้นที่ ม.3 พร้อมของกลางยาบ้า 1,441 เม็ด และนายเอ็กซ์ ให้การยอมรับว่าตนรับซื้อยาบ้าของกลางดังกล่าวนี้มาจาก นายบังกิ๊บ ผู้ค้ายาเสพติด ในพื้นที่ ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา จึงได้วางแผนล่อซื้อและสามารถจับกุมตัว นาย อิทธิพงศ์ หรือกิ๊บได้ที่ลุงกักโฮมสเตย์ ม.3 ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ของกลางรวมยาบ้าทั้งสิ้น จำนวน 6,181 เม็ด และได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม พบยาบ้าอีก จำนวน 10 มัด (ประมาณ) 20,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกล่องพัสดุ นายกิ๊บได้ยอมรับสารภาพว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนจริง เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดของกลางดังกล่าว และควบคุมตัวผู้ต้องหามาที่ บก.ร้อย.ร.25 พัน 1 เพื่อทำการสืบสวนข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งทำให้สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดในเครือข่ายนี้ได้ จำนวน 4 คน รวมยาบ้าทั้งสิ้นในคดีนี้ทั้งหมด 27,718 เม็ด และผู้ต้องหาทั้งหมดได้ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สุขสำราญ จ.ระนอง เพื่อคำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
2. จังหวัดอุดรธานี โดยอำนวยการของ นายชวิศ ป้องขันธ์ นายอำเภอโนนสะอาด/ผอ.ศอ.ปส.อ.โนนสะอาด และ พ.ต.อ.นริศ เปี้ยกาศ ผกก. สภ.โนนสะอาด จว.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ภานุวัฒน์ สิทธิ สว.สส.สภ.โนนสะอาด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โนนสะอาด ได้ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาคดียาเสพติดในพื้นที่ จำนวน 4 ราย คือ นายอัศวิน หรือ อัด อายุ 31 ปี ของกลางยาบ้า จำนวน 260 เม็ด, นายวีรภัทร หรือ นัด อายุ 27 ปี ของกลางยาบ้า จำนวน 108 เม็ด, นางสาวธิดา หรือ ฮู้ อายุ 44 ปี ของกลางยาบ้า จำนวน 2 เม็ด ตั้งข้อกล่าวหา เสพและมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยไม่ได้รับอนุญาต และจับกุมนายวรวุฒิ หรือ จุ้น อายุ 23 ปี ข้อกล่าวหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
3. จังหวัดเชียงใหม่ นายกองโท ศิวะ ธมิกานนท์ ผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอสันทรายที่ 15 มอบหมายให้ นายหมวดเอกสมาน เสตะพันธ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงนำกำลังพลสมาชิกร้อย อส.อ.สันทราย 15 บูรณาการร่วมกับสถานีตำรวจภูธรแม่โจ้โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สัมพันธ์ ศิริมา ผกก.สภ.แม่โจ้ พ.ต.ท.เมษยน รัตนถาวร รอง ผกก.ป.สภ.แม่โจ้ มอบหมายให้ พ.ต.ท.กฤตภาส ธนวัฒนันทกุล สวป.สภ.แม่โจ้ หน.ชุด ชป. พร้อมชุดปฎิบัติการชุมชนยั่งยืนเข้าปฏิบัติการค้นหาผู้ใช้ ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด และผู้ป่วยทางจิตเวชฯ ร่วมกับ จนท.รพ.สต.บ้านศรีบุญเรือง, ผู้ใหญ่บ้าน ม.11 บ้านท่ายาว และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บูรณาการร่วมกันตรวจสอบ ค้นหาผู้ใช้ ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ณ โบสถ์คริสตจักรพระคุณแม่โจ้ บ้านท่ายาว ม.11 ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 5 คน ตรวจพบสารเสพติด 2 คน โดยผู้เสพได้ขอสมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู ต่อไป
4. จังหวัดมหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม มอบหมายให้นายกองตรีทองแดง ปินะเก ป้องกันจังหวัดมหาสารคาม สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดมหาสารคาม นำโดย มว.อ.ภรัณยู มายูร ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดมหาสารคาม และสมาชิก อส.บก.อส.จังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายตามรายชื่อ Re X-Ray ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามยุทธการ “มหาสารคามเมืองปลอดภัยยาเสพติด” ในเขตพื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย ลงพื้นที่ปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายตามรายชื่อ Re X-Ray พบผู้เสพ 7 ราย ได้นำตัวส่งศูนย์คัดกรองเพื่อรับการบำบัด และออกจัดระเบียบสังคมในเขตพื้นที่อำเภอกันทรวิชัย โดยสนธิกำลังร่วมกับฝ่ายความมั่นคงอำเภอกันทรวิชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรวิชัย และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอกันทรวิชัย ออกตรวจจัดระเบียบสังคมสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการในเขตอำเภอกันทรวิชัยจำนวน 6 แห่ง เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายโดยมีการสุ่มตรวจปัสสาวะพนักงานร้านและนักเที่ยวไม่พบสารเสพติดในร่างกาย ได้แนะนำแนวทางการปฏิบัติต่าง ๆ แก่ผู้ประกอบการทราบ
5. จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รอง ผวจ.แม่ฮ่องสอน เป็นประธานปล่อยแถวตรวจค้นจู่โจมเรือนจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดย นายอรรถสิทธิ์ ทองแสง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน, ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 336, อาสารักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่เรือนจำ 159 คน ปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตลอดจนค้นตัวผู้ต้องขัง ตรวจค้นเรือนนอน สัมภาระส่วนตัวผู้ต้องขัง เพื่อเป็นการปราบปรามสิ่งเสพติดในเรือนจำ การป้องกันการซุกซ่อนอาวุธ การนำโทรศัพท์มือถือ สิ่งของต้องห้ามเข้ามาในเรือนจำ รวมทั้งเป็นการปราบปรามจับกุม หยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด และการติดต่อสั่งค้ายาเสพติดภายในเรือนจำ ทั้งนี้ ภายหลังจากการตรวจค้นสิ่งของต้องห้ามภายในเรือนจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะ ได้ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการตรวจค้นผู้ต้องขังทั้งหมด ประกอบด้วย ผู้ต้องขังชาย 439 คน หญิง 37 คน รวม 476 คน ไม่พบอาวุธและสิ่งของต้องห้ามในเรือนจำ นอกจากนี้ยังนำตัวผู้ต้องขัง ชาย-หญิง มาสุ่มตรวจปัสสาวะ 50 คน ซึ่งผลการตรวจไม่พบว่ามีสารเสพติดในร่างการแต่อย่างใด
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวต่อว่า ด้านการลด Demand กระทรวงมหาดไทย โดย กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เเละ กรมการพัฒนาชุมชน มีการปฏิบัติร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ นำผู้ป่วยยาเสพติด หรือผู้ป่วยจิตเวช เข้าสู่กระบวนการบำบัด รักษา และฟื้นฟู ในขณะนี้ สถานบำบัดรักษา ได้มีการบำบัดรักษา ผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในกระบวนการนี้จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการให้โอกาส ทั้งเปิดใจให้ความรัก ให้กำลังใจ ให้ความรู้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ผ่านการบำบัดรักษา ไม่เข้าไปอยู่ในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด สามารถประกอบอาชีพ มีสังคม และกิจกรรมนันทนาการที่ดี อันจะนำไปสู่ความเข้มเเข็งในระดับครัวเรือน และชุมชน กลายเป็นเเรงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กิจกรรมในพื้นที่ รวมถึงเพิ่มภูมิคุ้มกันไม่ให้คนในชุมชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ดังนโยบายด้านการลด Demand ที่กล่าวไป สิ่งที่กระทรวงมหาดไทยได้ให้ความสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การติดตามผู้ป่วยที่ผ่านการบำบัด รักษา ฟื้นฟู เพื่อไม่ให้มีความเสี่ยงเกิดขึ้นกับผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจัง ทั้งนี้ หากพบว่า ผู้ที่เคยเข้ารับการบำบัดรักษามาเเล้ว เเต่ยังมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง อาจก่อให้เกิดภัยต่อสังคมโดยรวม สามารถเเจ้งเบาะเเสให้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือโทรเเจ้งที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 เพื่อช่วยสอดส่องดูเเลเเละช่วยเจ้าหน้าที่รัฐในปฏิบัติการทำสงครามกับยาเสพติด ป้องกันไม่ให้ลูกหลานและกลุ่มเสี่ยงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด สุดท้ายทำให้ประเทศของเราปลอดภัยจากยาเสพติดอย่างแท้จริง
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 562/2565 วันที่ 24 พ.ย. 2565