เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 65 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานความมั่นคง ได้ประกาศสงครามกับยาเสพติด ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการอย่างจริงจัง เฉียบขาด โดยเฉพาะด้านการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิด การ Re X – Ray พื้นที่เป้าหมาย และกลุ่มเสี่ยงทุกพื้นที่ ซึ่งได้ปรากฏผลการจับกุมเป็นจำนวนมากตามที่ได้รายงานให้ทราบในทุกวัน สำหรับวันนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วยงานทุกพื้นที่ ก็ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง จึงขอนำผลการดำเนินการมานำเสนอเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เเละผู้ที่คอยสนับสนุนเป็นกำลังสำคัญในความสำเร็จ โดยมีตัวอย่าง ดังนี้
1.จังหวัดภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.พิชิต ทองโต หน.ชปส.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ชปส.ภ.จว.ภูเก็ต จับกุมผู้ต้องหาคดีที่สำคัญ คือ การจับกุม นายกฤษดา หรือแดง อายุ 32 ปี ชาว จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลางยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1003.5 กรัม หรือ 1.35 กิโลกรัม เฮโรอีน จำนวน 1 หลอด น้ำหนักประมาณ 0.04 กรัม โทรศัพท์มือถือและของกลางอื่นรวม 9 รายการ และตรวจยึดเพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบีอาร์ 650 สีดำแดง ติดแผ่นป้ายทะเบียน 3 ขจ 8558 กรุงเทพมหานคร มูลค่าประมาณ 150,000 บาท โดยจับกุมได้ที่ห้องแบ่งเช่า ห้องที่ 3 ซ.พูลผล 11 ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์, เฮโรอีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือไอซ์, ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
2.จังหวัดสงขลา พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ก.จว.สงขลา นายพงศ์ธร ธรรมชาติ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 9 สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา/หน.ชปส.ภ.จว.สงขลา นำกำลังตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปปส.ภาค 9 เข้าตรวจค้นภายในบ้านเช่าเลขที่ 6/2 ม.5 ต.แม่ทอม อ.บางกล่ำ จ.สงขลา หลังจากสืบทราบว่าถูกใช้เป็นที่พักยาบ้าล็อตใหญ่เพื่อรอกระจายส่งให้กับลูกค้า โดยสามารถจับกุม นายอธิวัฒน์ อายุ 27 ปี หรือโอม ชาว ต.บ้านหาร อ.บางกล่ำ จ.สงขลา จากการตรวจค้นภายในบ้านเช่า พบยาบ้า 4 แสนเม็ด มูลค่า 12 ล้านบาท ซุกซ่อนอยู่ในกล่องพัสดุ 2 กล่อง จากการสอบสวน นายอธิวัฒน์ ให้การว่า เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ได้รับการว่าจ้างจากนายเอ้ ไม่ทราบชื่อจริง โดยติดต่อผ่านไลน์ ให้ไปรับยาบ้า 4 กล่อง รวม 8 แสนเม็ด ที่ถูกส่งมาทางพัสดุกับทางบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ย่านถนนรัถการ อ.หาดใหญ่ โดยไปช่วยกันขนกับนายสรานนท์ หรือแม็กซ์ ด้วยรถกระบะสองคันและนำมาเก็บไว้ในบ้านเช่า ในช่วงเย็นวันเดียวกันได้รับใบสั่งให้นำยาบ้า 2 กล่อง รวม 4 แสนเม็ด ไปส่งให้กับลูกค้าโดยนำไปวางไว้ริมโคนเสาไฟฟ้าข้างป่าช้าหนองลิง ป่าช้าหนองลิง ต.บ้านหาร อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นและจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการขยายผลการจับกุมต่อไป
3.จังหวัดปทุมธานี ตำรวจ สภ.คลองหลวง จับกุมนายวรรณะ อายุ 43 ปี ชาว จ.ลพบุรี พร้อมของกลาง รถจยย.ยามาฮ่า มีโอ ไม่ติดป้ายทะเบียน ยาบ้า 99 เม็ด ได้ที่ถนนพหลโยธินขาออก ช่องทางคู่ขนาน หน้าตู้จราจร ใต้ต่างระดับบางขัน ม.7 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง ระหว่างที่ตำรวจตั้งด่านบริเวณถนนพหลโยธินขาออกใต้ต่างระดับบางขัน ช่องทางคู่ขนานพบคนขับรถจยย. ไม่สวมหมวกนิรภัยและไม่ติดป้ายทะเบียนจึงเรียกตรวจสอบ ตรวจค้นตัวพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงยาเส้น ซึ่งผู้ขับขี่ถือไว้ในมือ จึงจับกุมตัวพร้อมของกลางนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
4.จังหวัดตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จังหวัดตรังเดินหน้ามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยได้เร่งปฏิบัติการ “กวาดบ้านตัวเองให้สะอาด” ทำการตรวจปัสสาวะของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และอาสาสมัครรักษาดินแดน ไปแล้ว 10 อำเภอ จำนวน 1,934 คน พบสารเสพติดในปัสสาวะของบุคลากรภาครัฐ จำนวน 3 ราย เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ ในอำเภอรัษฎา จำนวน 1 ราย และอำเภอวังวิเศษ 2 ราย ซึ่งได้ให้ออกจากราชการไปเรียบร้อยแล้ว และได้ดำเนินการสุ่มตรวจปัสสาวะในนักเรียนกลุ่มเสี่ยงในสถานศึกษาต่าง ๆ จำนวน 569 ราย ใน 10 อำเภอ พบสารเสพติดในปัสสาวะ 36 ราย ซึ่งจะได้มีการจัดทำข้อมูล พร้อมหารือร่วมกับผู้ปกครองในการนำเด็กเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ตามระบบสมัครใจ การนำเข้าสู่กระบวนการจิตสังคมบำบัดในสถานศึกษา และค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อไป
นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวต่อว่า นอกจากมาตรการด้านการจับกุมปราบปรามผู้กระทำความผิด การ Re X – Ray กลุ่มเสี่ยง / พื้นที่เป้าหมายเพื่อหาผู้กระทำผิดและนำตัวผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษา รวมทั้ง ปฏิบัติการ “กวาดบ้านตัวเองให้สะอาด” ในการตรวจสอบบุคลากรภาครัฐไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแล้ว กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่เร่งจัดกิจกรรมเสริมแรงบวกในการต่อต้านยาเสพติดต่าง ๆ เพื่อให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เช่น การจัดการแข่งขันกีฬา การจัดกิจกรรม TO BE NUMBER ONE และกิจกรรมนันทนาการอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้คนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน เกิดความรัก ความอบอุ่นในครอบครัวและชุมชน ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดในการป้องกันยาเสพติดไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับลูกหลานของเรา ซึ่งจะขอยกตัวอย่างในบางพื้นที่ดังนี้ เช่น
1.จังหวัดพิจิตร นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ในนามจังหวัดพิจิตร โดยนายแพทย์วิศิษฏ์ อภิสิทธิ์วิทยา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร ในนามของชมรมทูบีนัมเบอร์วันจังหวัดพิจิตร ได้จัดกิจกรรมค่ายพัฒนาศักยภาพแกนนำ PHICHIT TO BE NUMBER ONE CAMP รุ่นที่ 4 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้วัยรุ่นและเยาวชน ช่วงอายุ 6-24 ปี มีพื้นที่ในการแสดงความสามารถ ด้านร่างกาย อารมณ์ สติปัญญา รวมถึงฝึกฝนทักษะการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข ซึ่งจะนำไปสู่การมีภูมิคุ้มกันด้านจิตใจสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรค ในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันต่อโลกและเหตุการณ์ ในยุคปัจจุบัน โดยมีเยาวชนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 112 คน และจบหลักสูตรจำนวน 112 คน โดยจัดฝึกอบรมที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า CK Convention Hall อำเภอเมืองพิจิตร โดยการจัดค่ายดังกล่าวนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรที่มีองค์ความรู้ระดับประเทศ มาสร้างองค์ความรู้และกระบวนการเรียนรู้เพื่อดึงศักยภาพของเยาวชนในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ที่สามารถพัฒนาต่อยอดโดยการสนับสนุนของจังหวัดพิจิตร มุ่งหวังให้เป็นเยาวชนที่มีคุณภาพและห่างไกลยาเสพติด ตามเจตนารมย์ของโครงการได้อย่างดียิ่ง
2.จังหวัดแพร่ นายศิวัช ฟูบินทร์ นายอำเภอสูงเม่น จ.แพร่ พร้อมด้วย นางชลธิชา ฟูบินทร์ นายกกิ่งกาชาด อ.สูงเม่น / ประธานแม่บ้านมหาดไทย อ.สูงเม่น เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันกีฬา อ.สูงเม่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสัมพันธ์ ลานกีฬาต้านยาเสพติด “มิตรภาพเหนือการแข่งขัน” ครั้งที่ 1 ประจำปี 2565 เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกาย สร้างความสมัครสมานสามัคคีในหน่วยงานท้องถิ่น หน่วยงานท้องที่ และเป็นการสร้างภูมิต้านทานโรค รวมถึงเป็นการสร้างความสุขทางด้านจิตใจ ตลอดจนถึงให้มีพื้นที่สร้างสรรค์ ในการป้องกันปัญหายาเสพติดของ อ.สูงเม่น โดยมีหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, ผู้นำชุมชน กลุ่มองค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่ อ.สูงเม่น เข้าร่วมกิจกรรม ณ โรงเรียนบ้านหัวดง ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่
3.จังหวัดจันทบุรี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน “อัศวินยกทัพ Running วิ่งกู้ชาติ” ที่มูลนิธิผึ้งหลวงอัศวินร่วมกับจังหวัดจันทบุรีจัดขึ้นบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีบรรดานักวิ่งทั้งประเภทสมัครเล่น และอาชีพจากทั่วประเทศกว่า 1,000 คน เข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งนี้ พบว่ากลุ่มนักวิ่งส่วนใหญ่มากันเป็นคณะจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ และมีผู้ติดตามร่วมเดินทางเข้ามาเพื่อท่องเที่ยวในพื้นที่ สามารถปลุกกระแสการท่องเที่ยวที่ไปกับการแข่งขัน นับว่าเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวโดยเฉพาะที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว ในช่วงปลายปีนี้ของจันทบุรีให้มีชีวิตชีวาได้มากขึ้นโดยการแข่งขันแบ่งเป็น 2 ประเภท คือฟันรัน (Fun Run) 5 กิโลเมตร และ ซิตี้รัน (City Run) 10 กิโลเมตร ใช้เส้นทางรอบอู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชวิ่งผ่านหมู่บ้านเสม็ดงาม ที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมทอเสื่อกกอันเลื่องชื่อ และวนกลับมาเลียบทะเลบริเวณหน้าอู่ต่อเรือฯ เป็นอันจบเส้นทางของการแข่งขัน
4.จังหวัดสุรินทร์ นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดโครงการ 1 จังหวัด 1 Sport Event กิจกรรม ปั่นจักรยานเพื่อส่งเสริมการ ท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยกิจกรรมดังกล่าวใช้เส้นทางหมู่บ้านช้างจังหวัดสุรินทร์ ในระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร โดยเริ่มปล่อยขบวนที่บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (สวนใหม่) และพักครึ่งทางที่องค์การบริหารส่วนตำบลเพี้ยราม อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ และที่หมู่บ้านช้างเป็นจุดเส้นชัย จากนั้นรับเหรียญรางวัลเป็นของที่ระลึกมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ 200 คน
“ขอขอบคุณอีกครั้ง และเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุก ๆ หน่วยงาน ภาคีเครือข่าย รวมทั้งประชาชนจิตอาสาต่าง ๆ ที่ได้ช่วยกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เห็นผลได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่าในวันนี้ พวกเราจะยังไม่สามารถเอาชนะยาเสพติดได้อย่างเด็ดขาด แต่ถ้าหากพวกเราทุกภาคส่วนร่วมมือกัน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน พี่น้องประชาชนทุกคน ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เป็นหูเป็นตาช่วยแจ้งเบาะแส โดยเฉพาะครอบครัวซึ่งเป็นระดับที่เล็กที่สุด แต่ก็สำคัญที่สุด ที่ต้องสร้างความอบอุ่น สร้างความรักให้กับลูกหลาน หมั่นจัดกิจกรรมภายในบ้านให้ลูกหลานได้พูดคุย พบปะกับพ่อแม่ปู่ย่าตายาย เช่น ร่วมกันปลูกผักสวนครัว ช่วยกันรณรงค์แยกขยะ ชุมชนก็จัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น การช่วยกันดูแลชุมชนต่าง ๆ อำเภอและจังหวัดก็จัด กีฬา กิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะให้ประชาชน เด็กและเยาวชน ได้มีพื้นที่ในการทำกิจกรรม ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อีกด้วย ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงภาคเอกชนเครือข่ายต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมที่มีส่วนร่วมกับพี่น้องประชาชน เพื่อช่วยกันรังสรรค์กิจกรรมเหล่านี้ขึ้นบ่อย ๆ เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญในปฏิบัติการป้องกันเเละแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวทิ้งท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 573/2565 วันที่ 27 พ.ย. 2565