เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2565 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศทำสงครามกับยาเสพติดซึ่งได้รับรายงานผลการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง สำหรับในด้านการขับเคลื่อนมาตรการลด Demand และ Supply ด้านยาเสพติด คือการป้องกัน การปราบปรามและการจับกุมผู้ค้าผู้เสพมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งรัฐบาลโดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของภัยจากยาเสพติด และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เร่งบูรณาการความร่วมมือ รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลที่สำคัญ เพื่อเป้าหมายเดียวกันคือขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย และเพิ่มระดับความเข้มข้น พร้อมเดินหน้าทำสงครามกับยาเสพติดอย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยในวันนี้ได้นำตัวอย่างมานำเสนอ เพื่อเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1) จังหวัดหนองคาย นำโดยนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายกิตติคุณ บุตรคุณ ปลัดจังหวัดหนองคาย นายนนทพัฒน์ กิจรักษา ป้องกันจังหวัดหนองคาย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดหนองคาย ร่วมกับ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดหนองคาย ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเมืองหนองคาย และกอ.รมน.จังหวัดหนองคาย ปฏิบัติการค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด โดยการสุ่มตรวจปัสสาวะลูกจ้างในสถานประกอบกิจการด้วยความสมัครใจ ณ บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (สาขาหนองคาย) ซึ่งการปฏิบัติการมีเป้าหมายเป็นลูกจ้างและพนักงานของบริษัท จำนวนทั้งสิ้น 120 ราย จากการสุ่มตรวจปัสสาวะ มีผู้เข้ารับการตรวจ จำนวน 114 ราย หลบหนีระหว่างการตรวจ 3 ราย ผลการตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด 2 ราย ซึ่งพนักงานทั้งสองรายยินยอมสมัครใจเข้ารับการบำบัด Matrix Program ณ โรงพยาบาลหนองคาย จังหวัดหนองคาย
2) จังหวัดศรีสะเกษ นำโดยนายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภอขุนหาญ สั่งการให้นายจุติเพชร บุญเนตร ปลัดอำเภอ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อำขุนหาญที่ 6 สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน 224 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรขุนหาญ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าวกองกำลังสุรนารี ร่วมกันขยายผลกวาดล้างอาชญากรรมและการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามแผน “ยุทธการ 238 พิทักษ์นครลำดวน” ณ อำเภอ ขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายประวิทย์ อายุ 36 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 4,000 เม็ด รถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อชื้อขายยาบ้า ผลการตรวจปัจสาวะพบสารเสพติด จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรขุนหาญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
3) จังหวัดร้อยเอ็ด นำโดยนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด สั่งการให้ นายสันติ โอฆะพนม นายอำเภอเมยวดี พันตำรวจเอกณัฏฐชัย พุดหล้า ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมยวดี ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานฝ่ายปกครองอำเภอเมยวดี ลงพื้นที่ร่วมกันจับกุม นายประหยัด อายุ 42 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 17,200 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในยานพาหนะรถยนต์ ณ บริเวณอำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา มาสอบสวนเพื่อขยายผลหาเครือข่ายและที่มาของยาเสพติด ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมยวดี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
4. จังหวัดขอนแก่น นำโดยนายประจวบ รักแพทย์ นายอำเภอเมืองขอนแก่น พันตำรวจเอกปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สารวัตรทหาร จากมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 เข้าตรวจค้นภายในสถานบันเทิงยูบาร์ขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น พบซองพลาสติกที่มียาเสพติดชนิดยาอีและยาเค ตกอยู่ที่พื้น จำนวน 4 ซอง และอุปกรณ์การเสพอีก 1 ชิ้น ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 ได้เก็บไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับเก็บตัวอย่าง เพื่อจะได้ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น นอกจากนี้ ยังพบนักท่องเที่ยว 2 ราย มีอุปกรณ์การเสพยาเค ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวไปตรวจปัสสาวะที่สถานีตำรวจ ซึ่งผลการตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด โดยการตรวจค้นในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการปราบปรามและป้องกันยาเสพติด ซึ่งจังหวัดขอนแก่นจะดำเนินมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งนำผู้กระทำความผิดเข้าสู่ขั้นตอนทางกฎหมายและลงโทษต่อไป
5) จังหวัดสุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี เรื่องการระบาดของยาเสพติดในพื้นที่สุพรรณบุรี จึงสั่งการให้นายธรรศ ศรีดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี ออกลาดตระเวนและตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันอาชญากรรมและป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด จากนั้นได้จับกุมนายกนก อายุ 48 ปี ณ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด เงินล่อซื้อจำนวน 16,000 บาท รถจักรยานยนต์ 1 คัน ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนขยายผลและตัวให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสระแก้วดำเนินคดีต่อไป
“การเดินหน้าปราบปรามยาเสพติด โดยการ Re X-Ray ในทุกพื้นที่ มีส่วนสำคัญต่อมาตรการเชิงรุกเข้ากวาดล้างและขจัดยาเสพติดให้หมดไป เนื่องจากชุดข้อมูลผู้ค้าผู้เสพ อาจมีการเปลี่ยนแปลง หรือสำรวจตกหล่น ดังนั้น ฝ่ายปกครองและพี่น้องประชาชน ต้องเร่งสร้างการรับรู้ไม่ให้บุตรหลาน หรือกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เข้าไปตกเป็นเหยื่ออยู่ในกระบวนการของยาเสพติดเพิ่มขึ้น ประการสำคัญ คือ ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ช่วยให้การสนับสนุนแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้ารัฐ ซึ่งจำเป็นจะต้องช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล และเฝ้าระวัง ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ซึ่งการแจ้งเบาะแสหรือชุดข้อมูลสำคัญนี้ สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น หรือ สามารถแจ้งความประสงค์ส่งตัวผู้ป่วยยาเสพติด เข้ารับการบำบัด รักษา และฟื้นฟู ในสถานที่บำบัดรักษาที่อำเภอแต่ละแห่งจัดเตรียมไว้ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่มีบุตรหลาน หรือคนในครอบครัวติดยาเสพติด เป็นการคืนคนดีสู่สังคม สามารถเดินทางไปร้องเรียน หรือขอคำปรึกษาได้ที่ ศูนย์ดำรงธรรมทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งจังหวัดและอำเภอ หรือที่สายด่วน โทร 1567” นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวทิ้งท้าย
#WorldSoilDay #วันดินโลก #soilswherefoodbegins #Soils4Nutrition #FAO #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 612/2565 วันที่ 9 ธ.ค. 65