วันนี้ (19 ธ.ค. 65) เวลา 15.00 น. ที่เวทีกลาง อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน OTOP CITY 2022 “มอบความสุขจากภูมิปัญญา ส่งต่อคุณค่าจากฝีมือคนไทย” โดยมี รองศาสตราจารย์นราพร จันทร์โอชา ภริยานายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ท่านผู้หญิงกอบกุล อุบลเดชประชารักษ์ ผู้ช่วยงานส่งเสริมศิลปาชีพ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุม นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายประวิช สุขุม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เลขานุการทีมภาคเอกชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ คณะทูตานุทูต ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และภาคีเครือข่าย ร่วมในพิธี
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการติดตามการดำเนินงานของการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ OTOP ในหลายปีที่ผ่านมา ที่ได้จัดอย่างต่อเนื่องทุกปี ทำให้สังเกตเห็นความชัดเจน คือ สินค้า OTOP มีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งผลิตภัณฑ์ที่มีความทันสมัย มีเทคโนโลยีช่วยในการผลิต การออกแบบ มีการทำตลาดที่เข้าถึงลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสินค้าทุกชิ้นมีเรื่องราว คือ มีอัตลักษณ์ และภูมิปัญญาของท้องถิ่น แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตและภูมิปัญญาแต่ละพื้นที่อย่างชัดเจน อันสะท้อนถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการทรงส่งเสริมโครงการศิลปาชีพ ซึ่งพระองค์ท่านทรงช่วยเหลือโดยเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียน พระราชทานพระวินิจฉัย ยังผลทำให้เกิดงานหัตถศิลป์ หัตถกรรม กลายเป็นสินค้าต่าง ๆ ของแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัด ที่มีคุณค่า มีความหมายมากขึ้น และทุกคนได้สืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของพระองค์ถึงปัจจุบัน
“ในนามของรัฐบาล วันนี้เราต้องคำนึงถึงในเรื่องของสิ่งแวดล้อม การทำสิ่งใดก็ตามต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ด้วยการมีความรับผิดชอบในการใช้ทรัพยากรให้เหมาะสม ประหยัด คุ้มค่า ให้มากที่สุด ก็จะทำให้เรามีการพัฒนาต่อเนื่องสืบไปในระยะยาวอีกหลายชั่วคน ซึ่งประเทศไทยเรามีโอกาสมากมาย ในเรื่องการเป็นศูนย์กลางภูมิรัฐศาสตร์ของอาเซียน อันเป็นประเทศเป้าหมายการค้าการลงทุนในระดับสากล ซึ่งเมื่อผนวกกับความต้องการที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก คือ “ประชาชนในท้องถิ่น ในพื้นที่” ทั้ง 4 ภาค มีความหลากหลายในแต่ละชุมชน หมู่บ้าน พื้นที่อยู่แล้ว เราต้องทำให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุดอย่างระมัดระวังในการใช้ทรัพยากร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องมีการปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น มากขึ้น และต้องรับฟังเสียงจากผู้บริโภคไว้ด้วย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหน่วยงานภาครัฐจะเข้าไปสนับสนุนและยกระดับสินค้าภูมิปัญญาไทยให้ก้าวสู่สากลมากขึ้น เพื่ออนาคตของพี่น้องประชาชนของเรา เพื่อให้สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคตโดยเร็วที่สุด และขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมในวันนี้ ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ และทุ่มเท เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนคนไทย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มรายได้และลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวผ่านโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP ด้วยการส่งเสริมการพัฒนาผู้ประกอบการ OTOP การพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP การส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี การส่งเสริมเพิ่มช่องทางการตลาด เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ และสร้างการรับรู้ เพื่อประชาสัมพันธ์กระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ
“การจัดงาน OTOP City 2022 ภายใต้แนวคิด “มอบความสุขจากภูมิปัญญา ส่งต่อคุณค่าจากฝีมือคนไทย” ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เพิ่มช่องทางการตลาด สร้างโอกาสในการเรียนรู้ และเพิ่มทักษะในการจัดแสดงและจัดจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP โดยภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งผ่านการคัดเลือกจากคณะทำงานโดยกรมการพัฒนาชุมชน กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานภาคีเครือข่าย และภายในงานได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ได้แก่ การแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรม มินิคอนเสิร์ต กิจกรรมจัดรางวัลชิงโชค และกิจกรรมนาทีทอง โดยมีร้านค้าโซนต่าง ๆ ได้แก่ โซนศิลปิน OTOP ที่นำเสนอผลงานที่มีอัตลักษณ์ บ่งบอกถึงภูมิปัญญาอันส่งคุณค่า โซนชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ผลิตภัณฑ์ในหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี และโซน OTOP ของขวัญของฝาก รวมการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้ามากกว่า 6,000 ร้านค้า ผลิตภัณฑ์มากกว่า 20,000 รายการ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน และคาดหวังว่าจะมีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้าร่วมชมงานตลอดระยะเวลาการจัดงาน 9 วัน ยอดจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 750 ล้านบาท” พลเอก อนุพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ
ด้าน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พี่น้องประชาชนสามารถไปเลือกหาของขวัญ ของฝากที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของพี่น้องคนไทยทั่วประเทศ เพื่อให้พี่น้องคนไทยได้มีรายได้ เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง เม็ดเงินของทุกท่าน ทุกบาท ทุกสตางค์ จะหมุนกลับไปหาพี่น้องประชาชนในชุมชน เราจะได้ทั้งของดีไปฝากบุคคลที่เราเคารพรัก และอิ่มเอิบใจที่ได้ช่วยอุดหนุนคนไทยด้วยกัน จึงขอเชิญชวนนักช้อปสินค้าภูมิปัญญาไทยทุกท่าน ได้ไปช่วยกันเลือกซื้อ เลือกหาของขวัญของฝาก “การันตีคุณภาพ” โดยฝีมือคนไทย ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี มาช่วยกันเป็นส่วนหนึ่ง ทำให้ประเทศชาติของเรามีความมั่นคง เศรษฐกิจมีความเข้มแข็ง ทำให้พี่น้องประชาชนในทุกชุมชนได้มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ร่วมกัน
#WorldSoilDay #วันดินโลก #soilswherefoodbegins #Soils4Nutrition #FAO #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 644/2565 วันที่ 19 ธ.ค. 2565