วันนี้ (30 ม.ค. 66) เวลา 13.00 น. ที่ห้อง War Room ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน รุ่นที่ 3 และบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “ทำไมต้อง CAST” โดยมี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง รองศาสตราจารย์วรวรรณ โรจนไพบูลย์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารกรมทุกกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทุกหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และคณะผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 1,080 คน จาก 108 อำเภอ ร่วมรับฟังการบรรยายพิเศษ ผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกลไปยังศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน จำนวน 11 ศูนย์ทั่วประเทศ ซึ่งโครงการอำเภอ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข มีเป้าหมายฝึกอบรม ทั้งหมด 8 รุ่น รวม 8,780 คน โดยจะมีการจัดฝึกอบรมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมีนาคม 2566
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณนายอำเภอ และทีมอำเภอ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ที่มาเข้าร่วมโครงการในวันนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้แบ่งปันประสบการณ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อใช้เป็นกรอบแนวคิด ในการพัฒนาคนให้คนไปพัฒนาพื้นที่ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงเปิดอาคารเฉลิมพระเกียรติ 36 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา วิชชาลัยดอนกอย วิถีแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร โดยพระองค์ทรงเสด็จพระดำเนินผ่านบ้านเรือนของราษฎรและได้ทอดพระเนตรเห็นบ้านเมืองที่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีผักสวนครัวตลอดเส้นทางกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งพระองค์ได้มีโอกาสพูดคุยกับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง กับทั้งเจ้าของบ้านและประชาชนในละแวกบริเวณนั้น โดยได้กล่าวชื่นชมถึงความตั้งใจในการความมั่นคงทางอาหาร มีทั้งเลี้ยงไก่ ปลูกผัก มะนาว ฟักทอง และผลผลิตอื่น ๆ ซึ่งมีอุดมสมบูรณ์มาก และมีการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน ซึ่งบ้านดอนกอยถือเป็นหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ที่เกิดขึ้นจากประชาชนในหมู่บ้านลุกขึ้นมาพึ่งพา และดูแลตนเอง
“ผมรับราชการมาประมาณ 35 ปี ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2531 จนถึงปัจจุบัน ผมเองมีความเชื่อมั่นว่า นายอำเภอที่ดีจะทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความสุขได้ ถ้านายอำเภอคนใดตั้งใจทำงานแบบ รองเท้าสึกก่อนกางเกงขาด คือ มีการลงพื้นที่ไปพบปะเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจประชาชน และผนึกกำลังเข้ากับภาคีเครือข่าย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำทางศาสนา ครูในโรงเรียน ภาคประชาชน รวมถึงภาคธุรกิจเอกชน ถ้ามีความตั้งใจอย่างแท้จริง การทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรมก็จะเกิดขึ้นได้ เหมือนในหลาย ๆ พื้นที่ อาทิ ตำบลโก่งธนู อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี หรือ บ้านป่าบุก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน หรือพื้นที่อื่น ๆ กระทรวงมหาดไทย ประกอบไปด้วย หน่วยงานระดับกรม 7 หน่วยงานและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 6 หน่วยงาน มีภารกิจหน้าที่ทั้ง Agenda Function และ Area ครอบคลุมพื้นที่ 76 จังหวัด + 1 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ หรือกรุงเทพมหานคร ปัญหาที่สำคัญที่พบเจอ คือ การขับเคลื่อนทำให้เกิดหมู่บ้านยั่งยืนยังไม่เป็นที่แพร่หลาย นัยยะนี้แสดงให้เห็นว่าการพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน หรือการสร้างความเข้มแข็งในชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก ยังคงเป็นความท้าทายอยู่” นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวเน้นย้ำ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวต่อว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระดำรัสสรุปความได้ว่า ชาวบ้านที่บ้านดอนกอยรวมตัวกันเป็นกลุ่มต่างช่วยกันปลูกผัก ดูแลกัน ปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ผักสวนครัวเต็มทางสาธารณะ ถนนหนทางตามบ้านเมืองดูสวยงามและเรียบร้อย เมืองมีความสะอาด มีการจัดทำโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และโครงการ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ตามพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งการทำให้ทุกหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านที่ยั่งยืนต้องมีความยั่งยืนทุกมิติทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม และด้านจิตใจ โดยทรงพระราชทานหนังสือ Sustainable City และกระทรวงมหาดไทยได้รับพระราชทานพระอนุญาตให้ขยายผลช่วยกันพัฒนาหมู่บ้านให้เป็น Sustainable Village หรือ “หมู่บ้านยั่งยืน” เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุครบ 3 รอบ 36 พรรษา วันที่ 8 มกราคม 2566
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูล จปฐ. กชช2ค. TPMAP และThaiQM พบว่า ปัญหาของประชาชน เกิดจากขยะ มลพิษ ปัญหาหนี้นอกระบบ ยาเสพติด ขาดแคลนทุนการศึกษา บางรายไม่มีทะเบียนบ้าน บางรายไม่มีที่อยู่อาศัย เป็นต้น ขอให้นายอำเภอสามารถนำข้อมูลที่ผ่านการสำรวจไปใช้ขับเคลื่อนแก้ไขปัญหา สิ่งเหล่านี้ คือ ภาระหน้าที่อันสำคัญของท่านนายอำเภอทั้ง 878 อำเภอ ถือเป็นความท้าทาย ปัจจัยแห่งความสำเร็จ (Key success) ที่สำคัญ คือ การสร้างทีมและการทำงานที่เป็นทีม นายอำเภอ หรือ ผู้นำในพื้นที่ต้องมีใจ และช่วยปลุกเร้าให้กับประชาชนหันมาดูแลตนเอง ดูแลครอบครัว ชุมชน ตำบล หมู่บ้าน ให้มีบรรยากาศ และสภาพแวดล้อมที่ดีเอื้อต่อการพัฒนาพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เกิดขึ้นให้ได้ ผมมั่นใจว่าทุกคนมีความตั้งใจมี Passion อยากที่จะ Change for Good ทำสิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้น ในปีที่ผ่านมามีตัวอย่างความสำเร็จให้เห็นแล้ว คือ อำเภอนำร่องฯ ทั้ง 10 อำเภอ ได้รับคำชื่นชมและเป็นหน้าเป็นตาให้แก่เราชาวมหาดไทยเป็นอย่างมาก บางพื้นที่ ท่านนายอำเภอเป็นผู้ที่นับถือศาสนาพุทธแต่ต้องไปอยู่ในพื้นที่ของพี่น้องชาวมุสลิมก็สามารถสร้างความศรัทธาให้กับคนในพื้นที่ให้มีความเชื่อมั่นได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สังคมลักษณะพหุวัฒนธรรมหรือสังคมที่มีความแตกต่างสูง ไม่ใช่อุปสรรคของการทำงาน สิ่งที่กล่าวมานี้ เป็นเรื่องยากแต่ผมเชื่อว่าทุกท่านทำได้
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า ในฐานะข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะต้องสนองพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” และพระบรมราโชบายที่ทรงมุ่งหวังทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยขอให้ทุกท่านมีความตั้งใจช่วยกันทำให้มีเกิดความชัดเจน ที่เป็นรูปธรรม ขอให้ทุกคนยอมรับคำว่า “แก้ไขในสิ่งผิด” เพราะทุกคนล้วนเคยทำผิด แต่สิ่งเหล่านั้นเราจะต้องนำมาเป็นประสบการณ์ในการทำงานและพัฒนาต่อยอดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ อย่างไรก็ตามภารกิจแรกของท่านนายอำเภอ คือ การพัฒนาทีมงานให้เป็น One Team อย่างน้อย 3 ทีม คือ 1) ทีมกลไกของภาครัฐในระดับพื้นที่ หรือ ข้าราชการที่มีหน้าที่รับผิดชอบประจำตำบลเป็นผู้มีอำนาจทางกฎหมาย ขอให้ช่วยขยายผลในการสร้างทีมงานทำงาน โดยยึดหลักสำคัญคือ การยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง 2) ทีมตำบล หรือทีมผู้นำท้องที่ ประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้านทั้ง 7 ฝ่าย รวมผู้ทรงคุณวุฒิอีก 8 – 10 ท่าน นายอำเภอต้องทำให้ทีมนี้มีความสามัคคี กลมเกลียว และเข้มแข็งด้วย พร้อมกับเสริมแรงด้วยทีมสุดท้าย คือ 3) ทีมจิตอาสา หรือ ทีมผู้เสียสละที่ร่วมฝึกอบรมในวันนี้ ซึ่งประกอบด้วยภาคีเครือข่ายการทำงานทั้ง 7 ภาคี ขอให้นำตัวชี้วัด (KPIs) และกำหนดกรอบระยะเวลา พร้อมทั้งระบบการติดตาม เพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนาหมู่บ้านยั่งยืนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหัวใจสำคัญ คือ การเน้นการพึ่งพาตนเองด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ท้ายนี้ ในฐานะราชสีห์ที่ภักดีต่อแผ่นดินต้องช่วยกันทำขับเคลื่อนภารกิจของทุกกระทรวง ทบวง กรม ให้สำเร็จ คนมหาดไทยมีหน้าที่ในการร้อยเรียงภารกิจต่าง ๆ เหล่านั้นให้เป็นเนื้อเดียวกัน และผลักดันไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ท่านนายอำเภอต้องปลุกจิตวิญญาณ ดึง Passion ดึงอุดมการณ์ความกระหายในการพัฒนาของคนในพื้นที่ให้เข้ามาร่วมหัวจมท้ายนำไปสู่ความสำเร็จ ความรัก และความศรัทธา สร้างพลังบวกให้แก่สังคมไทยของพวกเรา ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านในการปฏิบัติภารกิจการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อพี่น้องคนไทยทุกคนตลอดไป
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 87/2566 วันที่ 30 ม.ค. 66
