วันนี้ (26 พ.ค. 66) นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง มุ่งขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองและชุมชน ให้มีความสวยงาม ปลอดภัย มีสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อเสริมสร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับพี่น้องประชาชนตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยร่วมกับกรมและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย สมาคมแม่บ้านมหาดไทย ชมรมแม่บ้านกรมโยธาธิการและผังเมือง ตลอดจนภาคีเครือข่ายของกรมโยธาธิการและผังเมืองทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนการพัฒนาคน เพื่อให้คนพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรเพื่อประชาชน ตามปณิธานบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ร่วมกับทุกภาคส่วน
“กรมโยธาธิการและผังเมือง น้อมนำพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานแนวทางและหลักการทรงงานอันเป็นกำลังใจที่สำคัญของชาวกรมโยธาธิการและผังเมืองในการทำหน้าที่ “ช่างหลวงของแผ่นดิน” ควบคู่กับการเป็น “นักพัฒนาเมือง” ดังพระบรมราชโองการ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ส่งเสริมให้เกิดการพึ่งพาตนเอง โดยน้อมนำโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงทางอาหาร ด้วยการมอบนโยบายให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดทั่วประเทศ นำข้าราชการ พนักงานและเจ้าหน้าที่ เป็น “ผู้นำต้องทำก่อน” ในการใช้พื้นที่ว่างในบริเวณสำนักงาน ปรับปรุงพัฒนาเป็นแปลงพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร รวมทั้งส่งเสริมรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน และมีการบริหารจัดการขยะคัดแยกขยะตามหลัก 3Rs หรือ 3ช คือ Reduce ใช้น้อย Reuse ใช้ซ้ำ และ Recycle นำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดการสิ้นเปลืองทรัพยากร และกระตุ้นให้คนในองค์กรมีจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ขยายผลถ่ายทอดไปยังครอบครัว ชุมชน สังคม ร่วมกับชมรมแม่บ้านกรมโยธาธิการและผังเมือง” นายพงศ์รัตน์ฯ กล่าว
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวต่ออีกว่า เพื่อเป็นการติดตามการขับเคลื่อนการน้อมนำพระราชดำริการสร้างความมั่นคงด้านอาหารขยายผลไปสู่ครอบครัวและประชาชนของชาวกรมโยธาธิการและผังเมือง รวมทั้งเป็นการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจบุคลากรและครอบครัว นางศลิษา ภิรมย์รัตน์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและประธานชมรมแม่บ้านกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินโครงการ “บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” ของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ โดยบุคลากรในสังกัดและครอบครัว ได้ร่วมกันจัดทำแปลงผักสวนครัวหลากหลายชนิด อาทิ กะเพรา โหระพา ยี่หร่า พริก มะเขือ สะระแหน่ จิงจูฉ่าย ฟักทอง ผักชี มะเขือม่วง ถั่วฝักยาว ผักกาดหอม กล้วยน้ำว้า เป็นต้น ที่ได้นำมาปรุงอาหารรับประทานภายในสำนักงาน และขยายผลไปยังครอบครัวของเจ้าหน้าที่ ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้
ด้านนางศลิษา ภิรมย์รัตน์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและประธานชมรมแม่บ้านกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า ชมรมแม่บ้านกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้นำนโยบายของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ภายใต้การนำของ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ในการสนับสนุนการทำงานเคียงข้างท่านอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้บริหารของกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อบำรุงขวัญกำลังใจของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และครอบครัว ในการทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตขยายผลไปสู่ประชาชน ด้วยการน้อมนำพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในด้านการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ด้วยการ “ปลูกพืชผักสวนครัว” ซึ่งสามารถลดรายจ่ายของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในการไม่ต้องไปซื้อหาผักมาปรุงอาหาร ทั้งในช่วงพักกลางวัน รวมถึงในเวลากลับบ้านไปทำอาหารรับประทานกับครอบครัว และยังเป็นการขับเคลื่อนตามแนวทางการจัดกิจกรรมวันดินโลก “อาหารก่อกำเนิดเกิดจากดิน : Soils, where food begins.” ที่ชาวมหาดไทยและแม่บ้านมหาดไทยกำลังขับเคลื่อนร่วมกับภาคีเครือข่ายด้วยพลังความร่วมมือ Partnership ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (UN SDGs) อีกด้วย
“จากการตรวจเยี่ยมแปลงผักสวนครัวและชมการใช้ถังขยะเปียกลดโลกร้อนของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้พบว่า บุคลากรทุกคนได้มีส่วนร่วมในการลุกขึ้นมาเป็นผู้นำ “เริ่มที่ตัวเรา” ปรับพื้นที่ ปรับการใช้ชีวิต หันมาใส่ใจตนเอง ครอบครัว และสังคมมากขึ้น ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัวในสำนักงานกันอย่างจริงจัง มีพืชผักหลายชนิด และถังขยะเปียกลดโลกร้อนก็มีการใช้งานจริง เพราะดูจากลักษณะเมื่อเปิดถังได้ผ่านการใช้งานมาหลายเดือนแล้ว จึงขอชื่นชม และให้กำลังใจ พร้อมทั้งให้คำแนะนำและเน้นย้ำว่า หากพวกเราทุกคนได้ช่วยกันส่งเสริมแนวทางนี้ไปยังครอบครัวและชุมชนที่เราอยู่อาศัย ทำให้ทุกครัวเรือนปลูกผักสวนครัวไว้บริโภค จะสามารถประหยัดรายจ่ายเฉลี่ยแล้วจะประหยัดได้ 50 บาท/วัน เมื่อคำนวณ 10 ล้านครัวเรือน จะเท่ากับวันละ 500 ล้านบาท เมื่อนับทั้งปี 365 วัน พี่น้องประชาชนครัวเรือนทั่วประเทศก็สามารถประหยัดเงินจากกระเป๋ากว่า 200,000 ล้านบาท และยังเป็นการเสริมสร้างความรัก ความอบอุ่น ความสามัคคีของคนในบ้าน ในชุมชน และยังเป็นผักปลอดสารพิษ ทำให้ร่างกายแข็งแรง ปลอดโรคภัย นอกจากนี้ ชมรมแม่บ้านกรมโยธาธิการและผังเมือง จะได้ขยายผลสิ่งดี ๆ เช่นนี้ไปยังชาวกรมโยธาธิการและผังเมืองทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมกับท่านอธิบดีและผู้บริหารกรมต่อไป” นางศลิษาฯ กล่าวเพิ่มเติม
#กระทรวงมหาดไทย #สมาคมแม่บ้านมหาดไทย #กรมโยธาธิการและผังเมือง #ชมรมแม่บ้านกรมโยธาธิการและผังเมือง #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #MOI #Changeforgood #SDGTH #SDGsforAll #วันดินโลก #SDGlocalization #SEPforSDGs #Worldsoilday
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 472/2566 วันที่ 26 พ.ค. 2566