วันนี้ (26 พ.ค. 66) ที่วัดสว่างสำราญธรรมคุณ บ้านบูรพา หมู่ที่ 7 ตำบลโนนสว่าง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า จังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ร่วมกันจัดกิจกรรม KICK OFF โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองวาระครบ 100 ปี วันประสูติ 6 พฤษภาคม 2566 โดยได้รับเมตตาจากพระครูอุดมศรีโลภาส เจ้าคณะตำบลโนนสว่างเขต 2 เจ้าอาวาส วัดสว่างสำราญธรรมคุณ ร่วมงาน โดยมี นายสมชาย หริกุลสวัสดิ์ รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดบึงกาฬ นายธีระพล ขุนพานเพลิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโนนสว่าง หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะสงฆ์ ประชาชนและภาคีเครือข่าย รวมกว่า 200 คน ร่วมกิจกรรม
นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองวาระครบ 100 ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ วันที่ 6 พฤษภาคม 2566 กระทรวงมหาดไทยรณรงค์ร่วมกับทุกจังหวัดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อน้อมรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยตลอดพระชนม์ชีพ ตลอดจนสร้างพลังความต่อเนื่อง ต่อยอดขยายผลการน้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการสร้างความมั่นคงทางอาหารสู่การปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว สร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นในครัวเรือน ทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในหมู่บ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการบูรณาการภาคีเครือข่ายร่วมกัน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ทำสิ่งที่ดี Change for Good เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีความสุข นำไปสู่การเป็น “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” ขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs)
“จังหวัดบึงกาฬจึงได้ KICK OFF จัดกิจกรรมโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 66 ณ วัดสว่างสำราญธรรมคุณ บ้านบูรพา หมู่ที่ 7 ตำบลโนนสว่าง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อขับเคลื่อนตามเจตนารมณ์ของกระทรวงมหาดไทย โดยการส่งเสริมให้ประชาชนทุกครัวเรือนใช้พื้นที่บ้าน พื้นที่สาธารณะ บริเวณแนวด้านข้างถนน รวมไปถึงพื้นที่ของวัดให้เป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชผักสวนครัว สมุนไพร และผลไม้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็น “คลังอาหารของชุมชน” ให้คนทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน และทุกครัวเรือนของจังหวัดบึงกาฬอย่างยั่งยืน โดยกิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วย 1) กิจกรรมรณรงค์การปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร 2) กิจกรรมการปลูกไม้ผลสองข้างทางในพื้นที่สาธารณประโยชน์ และ 3) กิจกรรมการปรับปรุงภูมิทัศน์และบำเพ็ญประโยชน์ในบริเวณวัดสว่างสำราญธรรมคุณ รวมไปการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อย่อยสลายและเพิ่มแร่ธาตุให้แก่ดิน โดยส่วนราชการพร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ร่วมกันทำเป็นต้นแบบเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับประชาชน สานต่อพลังความต่อเนื่องของวันดินโลก (World Soil Day) “อาหารก่อกำเนิด เกิดจากดิน” เพื่อความตระหนักรู้ให้กับพี่น้องประชาชนเรื่องความมั่นคงด้านอาหาร น้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการ“บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผลผู้คนรักกัน” และสื่อสารสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ในจังหวัดบึงกาฬ” นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าว
นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเชิญชวนชวนพี่น้องประชาชนและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำสิ่งที่ดี ร่วมทำกิจกรรมร่วมกันนำภูมิปัญญาและวิถีชีวิตเกษตรของคนไทยไปขยายผลให้เกิดความสำเร็จ ถ่ายทอดไปสู่เด็กเยาวชนคนรุ่นหลัง สร้างความสามัคคีในชุมชน โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการเริ่มต้นไปสู่ “ความยั่งยืน” ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง MOU กับองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย “76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อการพัฒนา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน” เพื่อพัฒนาชีวิตของคนบึงกาฬอย่างยั่งยืน
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #MOI #Changeforgood #SDGTH #หมู่บ้านยั่งยืน
#เรื่องเล่าจากชุมชน #วันดินโลก #SDGlocalization #SEPforSDGs #Worldsoilday
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 473/2566 วันที่ 26 พ.ค. 2566