วันนี้ (30 ก.ค. 66) นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายใต้การบูรณาการของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันจัดงาน “กำโลน Festival@คีรีวง (วิถีแห่งสายน้ำ) ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566” ระหว่างวันที่ 29 – 31 กรกฎาคม 2566 ซึ่งตนพร้อมด้วยนางพิชานันท์ เผือกผ่อง ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมเป็นประธานเปิดงาน ที่บริเวณลานริมคลองใกล้สะพานบ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยภายในงานมีกิจกรรมสนุกสนานรื่นเริงและความบันเทิงมากมาย เช่น การประกวด COVER DANCE การประกวดแฟชั่นสไตล์กำโลน กิจกรรมจัดหาของดีของเด่นของแต่ละตำบล กิจกรรมการแข่งขันล่องลูกยาง กิจกรรมวิ่งมินิมาราธอน กิจกรรมตักบาตรตอนเช้าวันอาทิตย์ กิจกรรมบุฟเฟ่ต์ผลไม้ กิจกรรมเขรถวิบากขึ้นเขา การจัดบูธร้านค้า ผลิตภัณฑ์ชุมชน และสินค้า OTOP ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจากหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ ประชาชนในพื้นที่ และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ สื่อมวลชน และผู้มีเกียรติเข้าร่วมกิจกรรมฯ
นายอภินันท์ เผือกผ่อง กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้มีความเห็นพ้องต้องกันในการเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนและโลกใบนี้ให้เกิดความยั่งยืนสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ตามที่ได้มีการลงนามประกาศเจตนารมณ์เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน (Statement of Commitment to Sustainable Thailand) โดยผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดร่วมกับคุณกีต้า ซับบระวาล (Gita Sabharwal) ผู้ประสานงาน UN ประจำประเทศไทย ไปเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา ที่สำนักงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย เพื่อยกระดับการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 ข้อของ UN โดยความร่วมมือกับทีมงานของ UN หน่วยงาน รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอ จังหวัด จึงเป็นที่มาของการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยกระทรวงมหาดไทย นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงคนมหาดไทย และภาคีเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทยทุกคน มีความเชื่อมั่นในการ Change for Good สร้างสิ่งที่ดีอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้น
“บ้านคีรีวง ดินแดนแห่งความยั่งยืน มีชื่อเรียกแต่เดิมว่า “บ้านขุนน้ำ” ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ ณ เชิงเขาหลวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช มีลำธารซึ่งเป็นน้ำจากยอดเขาหลวงไหลผ่าน อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยภูเขาสวยที่มีความเขียวขจี ทำให้ในเวลาต่อมาหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์อันน่าหลงใหลแห่งนี้ก็ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “บ้านคีรีวง” ซึ่งมีความหมายว่าหมู่บ้านที่ถูกรายล้อมไปด้วยภูเขานั่นเอง โดยจุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวหมู่บ้านคีรีวง ที่ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมา คือ การเยี่ยมชมธรรมชาติ พักผ่อน หย่อนใจ การเพลิดเพลินกับสายน้ำ รับแสงแดดยามเช้า การปั่นจักรยาน ซึ่งสามารถเช่าจักรยานได้ในบริเวณหมู่บ้าน ซึ่งสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด โดยถือว่าเป็นแหล่งโอโซนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เพราะว่าวิถีชีวิตของชาวบ้านสามารถใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน เมื่อมนุษย์ดูแลธรรมชาติ ธรรมชาติก็ดูแลมนุษย์ด้วยการคืนอากาศที่แสนบริสุทธิ์สดชื่นคืนกลับมาให้เราทุกคนด้วย เรียกได้ว่าถ้าหากได้เดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่หมู่บ้านคีรีวงแห่งนี้ก็จะทำให้คุณสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์สดชื่นได้อย่างเต็มปอด และทำให้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนกับครอบครัว หรือมากับเพื่อน ๆ เป็นอย่างมาก” นายอภินันท์ฯ กล่าว
นายอภินันท์ เผือกผ่อง กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้จัดงาน “กำโลน Festival@คีรีวง (วิถีแห่งสายน้ำ) ครั้งที่ 1″ เพื่อขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้กับพี่น้องประชาชนผ่านกลไกการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งถือเป็นนโยบายที่สำคัญที่กระทรวงมหาดไทยที่ได้ดำเนินการขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างโอกาส สร้างการมีส่วนร่วมให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนในชนบทท้องถิ่นห่างไกล ได้พัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวในชุมชน ให้นักท่องเที่ยวหรือผู้มาเยือนดื่มด่ำวิถีชีวิต สัมผัสภูมิปัญญาอันล้ำค่าของชุมชน นอกจากนี้ยังเป็นการต่อยอดการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวชุมชนให้เกิดความหลากหลาย และเป็นการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับกลิ่นอายของความเป็นชุมชนไทยดั้งเดิม อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหลของนักท่องเที่ยวชาติต่าง ๆ ในอนาคต
นายอภินันท์ เผือกผ่อง กล่าวในช่วงท้ายว่า การจัดงานในครั้งนี้ จะยังผลทำให้เกิดการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย อันจะส่งผลถึงเศรษฐกิจระดับชุมชนก่อให้เกิดรายได้กับประชาชนในพื้นที่ ทำให้เศรษฐกิจฐานรากเกิดความเข้มแข็งและเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในระดับจังหวัดและประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครังที่ 735/2566 วันที่ 30 ก.ค. 2566