นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การเดินหน้าปราบปรามการทุจริตในทุกระดับเป็นหนึ่งนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ขณะนี้ได้ปรากฎข้อร้องเรียนอยู่โดยต่อเนื่อง จะต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้นอีก โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดมีการติดตามตรวจสอบการอนุมัติ การดำเนินโครงการต่างๆ ของ อปท. ให้มีความโปร่งใส ลงโทษเด็ดขาดทันที หากพบการกระทำผิด สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนให้ได้
“รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากกับการปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชัน เรื่องเหล่านี้ถือเป็นตัวถ่วงการพัฒนาของประเทศ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็น ผมขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดช่วยกันตรวจสอบเพื่อให้ทุก อปท.โปร่งใส สามารถเป็นองค์กรที่ดูแลการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องในท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ปรากฏในรายงานข่าวเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่านายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว ได้เรียกรับสินบนจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมแข่งขันในโครงการรัฐ กระทรวงมหาดไทยฐานะหน่วยงานกำกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเรื่องนี้ขั้นตอนการตรวจสอบตามกฎหมายจะอยู่ในอำนาจของหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทราปราการ ที่จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการสอบสวน และสามารถสั่งพักปฏิบัติหน้าที่ระหว่างสอบสวนได้ เป็นไปตามมาตรา 73 แห่งพรบ. เทศบาล พ.ศ.2496 และแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งกำหนดว่าเมื่อความปรากฏโดยมีหลักฐานตามสมควรต่อผู้ว่าราชการจังหวัดว่านายเทศมนตรีละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือ ประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยพลัน และให้คณะกรรมการสอบสวนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งและเมื่อนายกเทศมนตรีถูกตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดจะสั่งให้ผู้นั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรอฟังผลการสอบสวนก็ได้
นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จแล้ว หากมีมูลความผิด จะต้องเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อสั่งให้พ้นตำแหน่งตามมาตรา 73/1 แห่ง พรบ.เทศบาล พ.ศ.2496 เพื่อสั่งพ้นตำแหน่งภายใน 30 วันต่อไป
“ทุกขั้นตอนต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด รวดเร็ว เป็นไปตามฎหมาย โดยไม่มีการละเว้น ซึ่งหากผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ดำเนินการก็จะเป็นการละเว้นไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ จะผิดเอง ทุกคนต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย อยู่ใต้กฎหมาย อย่างเท่าเทียมกัน เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่จะดำเนินการให้เด็ดขาดกับการทุจริตและผู้มีอิทธิพล” นายอนุทิน กล่าว
กองสารนิเทศ สป.
ครั้งที่ 882/2566 วันที่ 22 ก.ย. 2566