วันนี้ (26 ต.ค. 66) เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมมุกดาราบีช วิลล่า แอนด์ สปา รีสอร์ท ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคใต้ โดยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายจักรพงษ์ คำจันทร์ รองผู้ว่าการรักษาการผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ร่วมในพิธี โดยมี นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ประธานสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคใต้ พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ประธานสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคกลาง ตัวแทนสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคต่าง ๆ นายธราธิป ทองเจิม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด และบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ กว่า 1,000 คน ร่วมรับฟัง
โอกาสนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมรับชมการแสดงชุด “วิถีพังงาเมืองแห่งความสุข” โดยชมรมแม่บ้านองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา และรับฟังการกล่าวรายงาน จากนั้นเป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาและแลกเปลี่ยนแนวทางการขับเคลื่อนงานบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ท่านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด ทุกคนล้วนมีความสำคัญในการทำให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งนอกจากการต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแล้ว ยังต้องทำให้พี่น้องประชาชนมีความอุดมสมบูรณ์พูนสุขกันถ้วนหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเราทุกคนได้มาพบกันในวันนี้ เพราะเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของพวกเราทุกคนมีอยู่แค่เพียงคำคำเดียว คือ คำว่า “ประชาชน” ที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกันดูแล
“การพัฒนาทรัพยากรบุคคลเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ต้องทำงานเก่ง มีเพื่อนมาก มีสายสัมพันธ์ให้มาก มีความปรารถนาดีซึ่งกันและกัน และกำหนดเป้าหมายที่ดีร่วมกัน คือ ทำให้บ้านเมืองเจริญ ทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข มีความสบาย มีความสะดวก มีโอกาส มีเงิน มีกิน มีใช้ ซึ่งเป็นภารกิจที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดทุกจังหวัดต้องร่วมกัน เพราะท่านคือหน่วยงานหลักที่มีความสำคัญต่อท้องถิ่น เป็นหน่วยบริการสาธารณะที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนมากที่สุด เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนได้รับบริการที่เกิดประโยชน์สุขมากที่สุด จึงขอให้ได้ใช้โอกาสที่มาพบกันวันนี้ พูดคุย แสวงหาความรู้ซึ่งกันและกัน แชร์ประสบการณ์ แชร์ความสำเร็จ แชร์อุปสรรคที่เคยพบ เพื่อที่จะทำให้เกิดแนวทางที่หลากหลาย เป็นแนวทางที่ทุกคนสามารถขับเคลื่อนไปด้วยกัน ความเจริญก็จะเจริญก้าวหน้าไปพร้อมกัน เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดให้ประชาชนได้รับคุณประโยชน์ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีเพิ่มมากขึ้น” นายอนุทินฯ กล่าวในช่วงต้น
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า พวกเรามีความสุขเมื่อเห็นพี่น้องประชาชนมีความสุข ตนจึงให้แนวทางการทำงานกับกระทรวงมหาดไทยว่า “ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” ต้องทำให้การทำงานต่าง ๆ ทั้งงานตามนโยบายและการทำงานตามฟังก์ชั่น ตามพื้นที่ ตอบสนองพี่น้องประชาชนได้ทันท่วงที การทำงานปัจจุบันเราจะล้าหลังไม่ได้ เราต้องมีความทันโลก ทันสมัย ทันท่วงทีตลอดเวลา “อยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด” เพื่อสามารถให้บริการและอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งวันนี้บริบทการทำงานของข้าราชการกระทรวงมหาดไทยอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง คนที่ข้าราชการต้องให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ “พี่น้องประชาชน” ต้องตอบสนองสิ่งที่พี่น้องประชาชนคาดหวัง ต้องตอบสนองเสียงเรียกร้องของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด มากกว่าที่ผ่านมา จึงขอให้พี่น้ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมั่นใจว่าเรามีเป้าหมายเดียวกัน มีทิศทางเดียวกัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกระทรวงมหาดไทย เราคือเพื่อนร่วมงานกัน
“ในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านมาตรการความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ตนได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดท่องเที่ยว ต้องมีการประชุมในเรื่องการให้ความปลอดภัยในระดับที่มีมาตรฐาน และต้องสร้างการรับรู้ ต้องทำความเข้าใจ และให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวว่า “ประเทศไทยมีความปลอดภัย” และเราต้องทำให้เขารู้ว่า ถ้าเกิดอันตรายจะต้องทำอย่างไร โดยส่งเสริมการบูรณาการกลไกอาสาสมัคร ทั้งสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ที่เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการดูแลความปลอดภัย นอกจากนี้ ในเรื่องสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ หน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ กรมการปกครอง อยู่ระหว่างการยกร่างกฎกระทรวงขยายเวลาการให้บริการในพื้นที่ท่องเที่ยว โดยขั้นตอนหลังจากนี้ ในแต่ละพื้นที่ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ (Public Hearing) แล้วรายงานมายังกรมการปกครองเพื่อรวบรวมประมวล นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบกฎกระทรวงต่อไป ซึ่งจะเป็นโอกาส เป็นสิ่งที่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น กระทรวงมหาดไทยจะทำทุกอย่าง เพื่อให้เกิดโอกาสและสร้างรายได้ของประชาชนให้เพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้ พวกเราในฐานะผู้รักษากฎหมายต้องทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมาย ควบคุมให้มีการปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ทั้งเรื่องการห้ามพกพาอาวุธ ห้ามให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้า ห้ามมีการลักลอบจำหน่ายหรือเสพยาเสพติด เน้นย้ำว่า “ยาเสพติด อาวุธ ค้าประเวณี ใช้แรงงานเด็ก เรื่องที่ไม่สามารถรับได้ในศีลธรรมทั่วไป ห้ามให้เกิดขึ้น” รวมถึงการส่งเสริมธรรมาภิบาลในจังหวัด ต้องอย่าให้ผู้มีอิทธิพลหรือผู้มีกำลังมากกว่าไปข่มเหงผู้ที่อ่อนแอกว่า ในพื้นที่คนจะมีอิทธิพลหรือบารมีกว่าไม่ว่า แต่อย่านำไปข่มเหงพี่น้องประชาชนที่อ่อนแอ เราในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมายจะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้น” นายอนุทินฯ กล่าวเน้นย้ำ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในด้านมาตรการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ได้กำชับให้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพิ่มประสิทธิภาพและหาแนวทางการป้องกันก่อนเกิดสาธารณภัย ซึ่งเป็นมิติที่กรมจะต้องคิดวิธีการ โดยใช้นวัตกรรม ใช้องค์ความรู้ และประสบการณ์ บทเรียนที่ผ่านมา บูรณาการคน บูรณาการงาน บูรณาการพื้นที่ ทำให้การบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศไทย มีแนวทางการป้องกันภัยที่ชัดเจน ประชาชนสามารถป้องกันตนเองก่อนเกิดภัย และมีวิธีการดูแลตนเองในขณะเกิดภัย ไม่ใช่ทำแต่เพียงแค่การเยียวยาหลังเกิดภัย และอีกสิ่งหนึ่งที่กระทรวงมหาดไทยได้กำชับไปยังการประปาส่วนภูมิภาค คือ การบริหารจัดการและหาวิธีการเพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ได้มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคที่เพียงพอ โดยอาจใช้นวัตกรรมหรือวิธีการขยายท่อเชื่อมต่อมาจากเขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ของภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยสิ่งที่สำคัญมากกว่าการคุ้มทุนหรือการจัดเก็บรายได้ คือ ต้องใช้ทรัพยากรน้ำที่ได้รับจากทางธรรมชาติ เพราะภาคใต้มีน้ำฝนที่ตกชุก เราจะปล่อยให้รั่วไหลออกไปไม่ได้ เราจะต้องทำงานร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค ทำให้พี่น้องประชาชนได้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ
นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ประธานสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า โครงการอบรมสัมมนาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 27 ต.ค. 2566 มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ นำข้อสรุปที่ได้ไปพัฒนาและปรับปรุงการปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ ของท้องถิ่น รวมทั้งเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ และเกิดภาคีเครือข่ายในการปฏิบัติงาน พัฒนาท้องถิ่นร่วมกัน
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1007/2566 วันที่ 26 ต.ค. 2566