เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 67 นายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นในการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในด้านการสร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่การปลูกผักสวนครัว ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” เพื่อให้ประชาชนได้มีอาหารไว้รับประทานอย่างเพียงพอและมีสารอาหารครบถ้วน รวมถึงมีอาหารที่ปลอดภัยไว้รับประทาน พร้อมทั้งขยายผลไปสู่ทุกชุมชนหมู่บ้านและทุกครัวเรือน เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันจะนำไปสู่การที่ประชาชนมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
นายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอำเภอบ้านสร้าง กล่าวว่า อำเภอบ้านสร้างจึงได้บูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดโครงการ “บ้านสร้างเมืองเกษตร เพื่อคลังอาหารกลางวันในรั้วโรงเรียนตามแนวพระราชดำริ” เพื่อให้ความรู้แก่คณะครูและนักเรียน เสริมสร้างศักยภาพสถานศึกษาในการทำการเกษตรเพื่อคลังอาหารกลางวันอย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนทรัพยากรเพื่อเป็นต้นทุนในการต่อยอดการสร้างคลังอาหารกลางวัน ซึ่งประกอบด้วยพันธุ์ไก่ไข่ 120 ตัว พันธุ์เป็ดไข่ 130 ตัว พร้อมอาหาร เมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว และปุ๋ยอินทรีย์แก่โรงเรียนในพื้นที่อำเภอบ้านสร้างทุกแห่ง ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะครูและนักเรียนโรงเรียนวัดอินทารามที่เป็นต้นแบบของโครงการนี้เข้าร่วมกิจกรรม โดยมีการทำกิจกรรมเดินเยี่ยมชมและติดตามความก้าวหน้าในการเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น เป็ด ไก่ ปลาดุก และกบ รวมถึงการปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผลยืนต้น อาทิ มะนาว มะกรูด ผักบุ้ง ตลอดจนการนำผลผลิตมาทำเป็นอาหารกลางวัน การแปรรูปผลิตภัณฑ์ ในพื้นที่โดยรอบของโรงเรียนวัดอินทาราม
“การจัดกิจกรรมตามโครงการ “บ้านสร้างเมืองเกษตร เพื่อคลังอาหารกลางวันในรั้วโรงเรียนตามแนวพระราชดำริ” นอกจากจะช่วยทำให้เยาวชนในสถานศึกษามีคลังอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน ปลอดสารพิษ และเรียนรู้การน้อมนำแนวทางตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว ยังต่อยอดช่วยให้เด็กนักเรียนมีการเจริญเติบโตได้อย่างสมวัย และยังเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เกิดการเรียนรู้นอกห้องเรียน เพิ่มทักษะทางอาชีพ เกิดความร่วมมือกันระหว่างสถานศึกษา ขยายผลสู่ครัวเรือน และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ในการแบ่งปันผลผลิตสู่ชุมชน ตลอดจนการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อลดรายจ่าย สร้างรายได้ ให้กับโรงเรียนอีกด้วย ซึ่งเราได้รับการสนับสนุนจากผู้นำชุมชนร่วมกับภาคีเครือข่ายช่วยกันสร้างความมั่นคงทุกด้าน เพื่อให้พี่น้องประชาชนอำเภอบ้านสร้างได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นายเสฏฐวุฒิฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอำเภอบ้านสร้าง กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย ตลอดจนนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางยาง ฝ่ายปกครองท้องที่ เหล่าคณะคุณครูนักเรียนโรงเรียนวัดอินทาราม และพี่น้องประชาชนทุกคนที่เป็นส่วนสำคัญช่วยกันทำกิจกรรมในวันนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นในครัวเรือน ชุมชน สังคม และช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนและหมู่บ้านและนักเรียนในสถานศึกษาให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทำให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี “พอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น” พี่น้องประชาชนสามารถพึ่งพาตนเอง นำไปสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ส่งเสริมความรู้ทางวิชาการให้ประชาชน เพื่อนำทักษะความรู้มาพัฒนา ปรับใช้ในการดำรงชีวิต มีการดูแลซึ่งกันและกัน ด้วยกลไกของทีมอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี นำไปสู่การเป็น “หมู่บ้านยั่งยืน” (Sustainable Village) ที่ประชาชนทุกคนมีความมั่นคงและมีความสุขอย่างยั่งยืน
#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife
#SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 122/2567 วันที่ 24 ม.ค. 2567
