วันนี้ (3 พ.ค. 67) นายกรชวาลวิชญ์ ชัยพีรวัส นายอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ตามที่นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้ดำเนินตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยมาตรการเชิงรุก ทั้งการป้องกันและปราบปราม ตลอดจนมาตรการเข้มข้นและจริงจังในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยให้ทุกอำเภอ จัดตั้งศูนย์พักคอยผู้ป่วยยาเสพติด Community Isolation : CI ใช้สถานที่ชุมชนเป็นฐานปฏิบัติการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติดที่สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาและให้นายอำเภอทุกอำเภอใช้กองร้อย อส. และพื้นที่ภายในอำเภอ เป็นศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพที่ผ่านการบำบัดจากโรงพยาบาลจิตเวช มาอยู่ที่กองร้อย อส. เพื่อฟื้นฟู ฝึกอาชีพ เรียนรู้ตามศาสตร์พระราชา โดยไม่ใช้งบประมาณจากทางราชการ โดยอำเภอน้ำพองได้จัดตั้ง ศูนย์พักคอยผู้ป่วยยาเสพติด CI ภายใต้ชื่อ “บ้านพักนายอำเภอห่วงใย อำเภอน้ำพอง” ซึ่งใช้อาคารบริเวณด้านข้าง บ้านพักนายอำเภอ เป็นสถานที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง”
“กว่า 6 ปีที่แม่ไม่ได้เข้ามานอนบ้าน วันนี้คืนบ้านให้แม่ ส่งลูกสู่ระบบบำบัดรักษา” คำกล่าวของมารดาผู้ป่วยยาเสพติดที่ได้พูดขึ้นอย่างมีความหวัง หลังจากลูกชายของตนได้เข้าสู่ระบบ CI ฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติดของอำเภอ สืบเนื่องจาก นางทองอินทร์ฯ ราษฎรบ้านนาคำน้อย ม.1 ต.บัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้เข้ามาร้องเรียนต่อนายอำเภอว่าลูกตกเป็นทาสยาบ้ามานานหลายปี จนตนเองต้องย้ายออกจากบ้านมาเช่าบ้านอยู่กว่า 6 ปีเพราะเกรงว่าลูกจะทำร้ายร่างกาย จึงร้องทุกข์มายังนายอำเภอน้ำพองให้นำลูกเข้าสู่กระบวนการบำบัด เพราะอยากเข้าอยู่บ้านที่สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง นตนจึงสั่งการให้ ปลัดอำเภอและสมาชิก อส.อ.น้ำพอง ที่ 9 นำตัว นายศุภรักษ์ (สงวนนามสกุล) เข้าสู่กระบวนการบำบัดทางการแพทย์ ณ โรงพยาบาลน้ำพอง ก่อนจะนำเข้าสู่ CI บ้านนายอำเภอห่วงใย อำเภอน้ำพอง เพื่อดูแลช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องให้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ตนได้ประสานกับทาง องค์การบริหารส่วนตำบลบัวใหญ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านนาคำน้อย เพื่อระดมสรรพกำลังทำความสะอาดบ้านในวันเสาร์ ที่ 4 พ.ค. 2567 เพื่อให้นางทองอินทร์ฯ (แม่) กลับเข้าอยู่บ้านของตนได้อย่างสะอาด ปลอดภัยด้วย” นายกรชวาลวิชญ์ กล่าว
“ขอให้พ่อแม่ และครอบครัวของผู้ป่วยยาเสพติดที่เข้ารับการบำบัดฟื้นฟูที่อำเภอ ไม่ต้องกังวลใจถึงขั้นตอนของการดูแลรักษา เพราะเราได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และพี่น้องชาวอำเภอน้ำพอง เข้ามาผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่สร้างกิจกรรมที่มีประโยชน์ ฝึกระเบียบวินัย ฝึกอาชีพ และทักษะการกลับเข้าสู่สังคมแก่ผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง โดยมีสมาชิก อส. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ครูเวรคอยดูแลเรื่องวินัย ความปลอดภัยในพื้นที่ มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลน้ำพอง เข้ามาประเมินอาการ ให้คำแนะนำผู้ป่วยทุกวัน และพี่น้องประชาชนอำเภอน้ำพอง เป็นผู้ทำหน้าที่ส่งต่อกำลังใจ แวะเวียนมาสร้างพลังบวก และกำลังใจในการบำบัดฟื้นฟูให้แก่ผู้ป่วยได้สามารถฝ่าฟันอาการติดยาเสพติดให้ดีขึ้นอยู่เสมอ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้จะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 15 วัน สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ตำบลพังและตำบลบัวใหญ่ แล้วส่งต่อให้ชุมชนบำบัด CBTx ส่วนในพื้นที่ตำบลอื่น ๆ ระยะเวลาการบำบัดจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายว่ามีความพร้อมหรือไม่ในการกลับสู่ชุมชนโดยการประเมินของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดย “บ้านพักนายอำเภอห่วงใย อำเภอน้ำพอง” มีผลการดำเนินการในปัจจุบันมีผู้ป่วยผ่านการบำบัดแล้ว 46 คน คงเหลือ 24 คน ในการนี้มี 6 คน ที่สมัครใจอยู่ต่อและขอให้ทางศูนย์ฯ หางานให้ทำ โดยแบ่งเป็น รับจ้างก่อสร้าง 4 ราย ล้างจานร้านอาหาร 1 คน รับจ้างลานซื้อข้าว 1 คน โดยเดินทางไป-กลับที่ทำงานโดยครูฝึก สมาชิก อส. ไปส่งและรับในทุกวัน ” นายกรชวาลวิชญ์ กล่าวเพิ่มเติม
นายกรชวาลวิชญ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ศูนย์พักคอยผู้ป่วยยาเสพติด CI “บ้านนายอำเภอห่วงใย อำเภอน้ำพอง” ถือเป็น อีกหนึ่งสถานที่ที่มุ่งเป้าคืนลูกให้พ่อแม่ คืนคนดีสู่สังคม ให้โอกาส ให้ที่ยืน ให้อาชีพแก่ผู้ป่วยยาเสพติดที่กลับตัวกลับเข้าเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา ตนจึงอยากประชาสัมพันธ์ และขอความร่วมมือพ่อแม่พี่น้องชาวน้ำพองทุกท่าน ได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลบุคคลรอบข้างที่เป็นกลุ่มเสี่ยง หรือเป็นผู้ป่วยยาเสพติด หากมีเบาะแส และอยากให้เขาได้รับการบำบัดฟื้นฟู โปรดแจ้งทางนายอำเภอ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หรือร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมงได้รับทราบ เพื่อจะได้นำบุคคลดังกล่าวทำการรักษาได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งชุมชนจะต้องเข้ามาร่วมกันเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยยาเสพติดที่ได้รับการบำบัดจนหายดีแล้ว ให้โอกาส ให้อาชีพ และให้ที่ยืนในสังคม เพื่อป้องกันการกลับไปกระทำความผิดซ้ำหวนคืนสู่การเสพยาเสพติดอีกด้วย
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 776/2567 วันที่ 3 พ.ค. 2567