เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 67 นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้ นายสมมาฏฐ์ โพธิ ปลัดจังหวัดอุบลราชธานี สั่งการฝ่ายปกครองจังหวัดอุบลราชธานี นำโดยนายโรมรัก ภูหวล ป้องกันจังหวัดอุบลราชธานี บูรณาการกำลังกับ สมาชิก อส.สังกัด ร้อย.อส.จ.อุบลราชธานี สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลงพื้นที่เข้าตรวจสอบกรณีได้รับร้องเรียนจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมให้กับเด็กและเยาวชน โดยสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 3 ราย พร้อมของกลางน้ำกระท่อมราว 1,354 ลิตร ทั้งนี้ ได้นำตัวผู้กระทำผิดทั้งหมด พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานีได้ดำเนินการขับเคลื่อนตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากได้รับร้องเรียนจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่ตำบลห้วยคุ้ม อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดจริง สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 3 ราย พร้อมของกลาง ยาแก้ไอ (สำหรับผสมกับน้ำกระท่อม) จำนวน 834 ขวด และน้ำกระท่อมบรรจุขวดขนาด 1.5 ลิตร จำนวน 903 ขวด รวมประมาณ 1,354 ลิตร
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเข้าตรวจสอบและตรวจยึดของกลางเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิดคือ ผลิต นำเข้าหรือจำหน่ายน้ำกระท่อมอันฝ่าฝืนประกาศกระทรวงสาธารณสุข(ฉบับ430) พ.ศ.2564 ออกตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 เรื่องกำหนดอาหารห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายตามบัญชีแนบท้ายประกาศ ลำดับที่52 (กระท่อม) ตามมาตรา6 (8) อันเป็นความผิดตามมาตรา50 และฝ่าฝืนขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 12 ประกอบมาตรา 4 อันเป็นความผิดมีโทษตามมาตรา 101 แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง จัดทำบันทึกจับกุม และส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวในช่วงท้ายว่า ปัญหาการลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปนั้นเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นที่แน่ชัดว่า น้ำกระท่อมจะส่งผลเสียมากมายต่อผู้บริโภค เช่น การเบื่ออาหาร หรือท้องผูก ซึ่งถ้าหากบริโภคเป็นเวลานานๆอาจจะทำให้เกิดอาการเสพติดน้ำกระท่อม เมื่อไม่ได้บริโภคจะรู้สึกไม่มีแรง ซึมเศร้า และนอนไม่หลับ เป็นต้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจังหวัดอุบลราชธานีไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใด อีกทั้งยังให้ความสำคัญในการปราบปรามการลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมในทุกพื้นที่มาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งนี้ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนในความร่วมมือร่วมใจ และขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานด้วยความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม ในฐานะผู้ทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” และรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยเป็นหูเป็นตา ระแวดระวังบ้านเมืองของเรา หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูล และร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #MOI
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1761/2567 วันที่ 10 ก.ย. 67