เมื่อวานนี้ (30 ตุลาคม 2567) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี เสนอร่างพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยมีหลักการและเหตุผลดังนี้ หลักการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 เหตุผลโดยที่พระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดินพ.ศ. 2543 บังคับใช้มาเป็นเวลานาน สมควรปรับปรุงบทบัญญัติบางประการ ได้แก่ องค์ประกอบของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด การดําเนินการเกี่ยวกับการบํารุงรักษา สาธารณูปโภคของผู้จัดสรรที่ดิน การจัดเก็บค่าใช้จ่ายในการบํารุงรักษาและการจัดการสาธารณูปโภคของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร รวมทั้งอัตราโทษของผู้ฝ่าฝืนคําสั่งของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือผู้ซึ่งคณะกรรมการมอบหมายตามมาตรา 52 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับสาระสําคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขมาตรการในการคุ้มครองผู้ซื้อที่ดินจัดสรร ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่ากรณีผู้จัดสรรไม่ดูแลบํารุงรักษาสาธารณูปโภค ผู้ซื้อที่ดินจัดสรรสามารถรวมตัวกันจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร เพื่อรับสาธารณูปโภคมาดูแลแทนผู้จัดสรรได้ หรือเมื่อผู้ซื้อที่ดินจัดสรรจัดตั้งนิติบุคคลแล้ว มีสิทธิ์เรียกค่าจัดทําหรือค่าบํารุงรักษาสาธารณูปโภคจากผู้จัดสรรที่ดิน หรือจากธนาคาร หรือสถาบันการเงินซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันได้ และกรณีการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรไม่ได้ก็สามารถอุทิศสาธารณูปโภคให้กับท้องถิ่นเข้ามาดูแลได้ ซึ่งเป็นประเด็นหลัก
รมช.มหาดไทย กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นเพิ่มเติมในร่างที่ขอแก้ไขคือ 1.การเพิ่ม ผอ.สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดร่วมเป็นคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดด้วย 2.เพิ่มการเรียกเก็บค่าส่วนกลางให้สามารถจัดเก็บได้ทั้งรายเดือนหรือตามที่กําหนดในข้อบังคับ 3.เพิ่มบทลงโทษผู้จัดสรรที่ดินฝ่าฝืนคําสั่งของคณะกรรมการ ให้มีโทษปรับสูงขึ้นจากวันละ 1,000 บาทเป็นวันละ 2,000 บาท และเปลี่ยนวิธีการประกาศยกเลิกการจัดสรรที่ดินจากการประกาศในหนังสือพิมพ์ เป็นการประกาศทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของกรมที่ดิน นี่คือเหตุผลสําคัญที่วันนี้คณะรัฐมนตรีขอเสนอร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาต่อไป
ขณะที่ในช่วงท้าย รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ต้องขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่มีการอภิปรายและมีข้อเสนอแนะและข้อห่วงใย จากที่ฟังส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่มีข้อสังเกตเรื่องการตั้งนิติบุคคลซึ่งนําไปสู่การเป็นนิติบุคคลในการบริหารงานดูแลเรื่องความสุขของประชาชนในบ้านจัดสรร ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ก็เป็นกฏหมายซึ่งมีวัตถุประสงค์เรื่องการแก้ไขมาตรการการคุ้มครองผู้ซื้อที่ดินจัดสรรอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการตั้งนิติบุคคลซึ่งก่อนนี้จะตั้งต้องใช้คนที่อยู่ในหมู่บ้านครึ่งหนึ่งของโครงการ แต่ในร่างฉบับนี้เราใช้เพียงครึ่งหนึ่งของคนที่ซื้อที่ดินจัดสรรในโครงการ สมมุติว่าทั้งหมู่บ้านซื้อเพียง 3 ราย เพียง 2 รายก็สามารถตั้งนิติบุคคลได้ ต่อไปนี้ถ้าท่านให้ความกรุณากฎหมายผ่านไป จะทําให้การตั้งนิติบุคคลเพื่อบริหารจัดการบ้านจัดสรรและข้อบังคับต่างๆ ตามความต้องการของนิติบุคคลก็จะง่ายขึ้น นําไปสู่
การแก้ไขปัญหาของบ้านจัดสรรอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1984/2567 วันที่ 31 ต.ค. 2567