น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้(24 พ.ย. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้เป็นประธานมอบรางวัลสำเภาทองในการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 42 ของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ณ NICE HALL สวนนงนุช จ.ชลบุรี
ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้มอบรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัดสำเภาทอง ปี 2567 แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด รวม 22 คน ซึ่งผู้ได้รับรางวัลทั้งหมดนั้นเป็นผู้ที่มีผลงานการขับเคลื่อนด้านการปรับปรุงกระบวนการทำงานภาครัฐในพื้นที่ที่สามารถอำนวยความสะดวกแก่เอกชน ดูแลด้านเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างโดดเด่น จากนั้นได้กล่าวปาฐกถาในฐานะผู้แทนของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล พร้อมรับสมุดปกขาวหอการค้าไทย ปี 2567 ซึ่งเป็นข้อเสนอจากภาคเอกชนที่ได้จากข้อสรุปการสัมมนา 3 วันระหว่างวันที่ 22-24 พ.ย. 67 ในประเด็นต่างๆ ที่เอกชนเสนอให้รัฐบาลขับเคลื่อนเพื่อนำไปสู่การพัฒนาและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการขับเคลื่อนพัฒนาระบบบริการสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่สะดวก สบาย การพัฒนาในมิติต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนให้เอกชนผู้ผลิตสามารถส่งออกสินค้าไปจำหน่ายได้ทั่วโลกภายใต้กฎกติกาใหม่ ๆ
ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ตระหนักถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการสนับสนุนเอกชนให้ได้รับความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ส่งเสริมให้ให้มีการเติบโตด้านเศรษฐกิจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ละจังหวัดมีคลัสเตอร์ที่จะต้องผลักดันขับเคลื่อน รวมถึงการมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะจากปัจจุบันที่ผู้ว่าฯ ต้องดูแลในภาพรวมเองทั้งหมด ดังนั้นรองผู้ว่าฯ ด้านเศรษฐกิจที่จะมาดูแลการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่จึงมีความสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศกำลังต้องการฟื้นฟู อย่างที่หอการค้าระบุว่าต้องโตอย่างน้อย 3% การสนับสนุนจากภาครัฐก็เป็นส่วนสำคัญ
“แม้กระทรวงมหาดไทยไม่ได้เป็นหน่วยงานที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ รับผิดชอบตัวเลขโดยตรง แต่เราเป็นเกตเวย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบทุก ๆ ด้านอุตสาหกรรม การผลิต แรงงาน นโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล การเงินการคลัง ขอยืนยันว่าเราพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เมื่อได้รับสมุดปกขาวหอการค้าไทยแล้ว จะได้นำไปเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไป” นายอนุทิน กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สมุดปกขาว หอการค้าไทยปี 2567 ได้ตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจปี 2568 จะโตไม่ต่ำกว่า 3% และมีข้อเสนอ 3 ข้อเสนอหลักเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน คือ 1. การสร้างความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศ 2. การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs และ 3. การวางยุทธศาสตร์ประเทศเพื่อการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน
สำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัด “สำเภาทอง” ประจำปี 2567 ได้แก่ 1. นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.กระบี่ 2. นายชาธิป รุจนเสรี ผวจ.กำแพงเพชร 3. นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผวจ.จันทบุรี 4. นายชลธี ยังตรง ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.ฉะเชิงเทรา 5. นายธวัชชัย ศรีทอง ผวจ.ชลบุรี 6. นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม 7. นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผวจ.ฉะเชิงเทรา ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.นครศรีธรรมราช 8. นายทวี เสริมภักดีกุล ผวจ.พิษณุโลก ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.นครสวรรค์ 9. นายสุธี ทองแย้ม ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.นนทบุรี 10. นายนฤชา โฆษาศรีวิไลซ์ อธิบดี สถ. ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.บุรีรัมย์ 11. นายรณรงค์ นครจินดา ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.ปราจีนบุรี 12. นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ ผวจ.สมุทรสงคราม ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.พัทลุง 13. นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผวจ.มหาสารคาม 14. นายวรญาณ บุญณราช ผวจ.มุกดาหาร 15. นายชรินทร์ ทองสุข ผวจ.เชียงราย ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.ยโสธร 16. นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง 17. นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.นนทบุรี ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.ราชบุรี 18. นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.บุรีรัมย์ ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.ศรีสะเกษ 19. นายสมนึก พรมเขียว ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.สงขลา 20. นายพิจิตร บุญทัน ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.สุรินทร์ 21. นายวันชัย คงเกษม ขณะดำรงตำแหน่ง ผวจ.อุดรธานี และ 22. นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผวจ.อุตรดิตถ์
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 2038/2567 วันที่ 24 พ.ย. 2567