วันนี้ (26 ก.ย. 65) เวลา 10.00 น. นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยถึงกรณี พิธีเปิดศูนย์ทอผ้าบ้านคลองบอน ตำบลหนองตาคง อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ซึ่งได้จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (25 ก.ย. 65) โดยมีนางสุนิฌาน์ ทองแย้ม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดจันทบุรี สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดจันทบุรี สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดจันทบุรี นายอดิศร สุทธิเลิศ พัฒนาการจังหวัดจันทบุรี หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดจันทบุรี นายอำเภอโป่งน้ำร้อน นายอำเภอสอยดาว หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประธานศูนย์ทอผ้าบ้านคลองบอนและบ้านซับตารี และสมาชิกทั้งสองแห่ง ผู้นำกลุ่มองค์กรเครือข่ายงานพัฒนาชุมชน และประชาชนในพื้นที่ ให้การต้อนรับ ซึ่งวัตถุประสงค์ในการเปิดศูนย์ทอผ้าบ้านคลองบอน คือ การมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการสืบสานอัตลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับชุมชน และอนุรักษ์การทอผ้าลายประจำจังหวัดจันทบุรี
นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565 เวลา 09.00 น. ณ บ้านคลองบอน ตำบลหนองตาคง อำเภอโป่งน้ำร้อน ได้รับเกียรติเป็นประธานในพิธีศูนย์ทอผ้าบ้านคลองบอน โดยมีพระปลัดสหโชติ มานิโต เจ้าอาวาสวัดคลองบอน ประกอบพิธีเจิมป้ายศูนย์ดังกล่าว โดยแต่เดิมจังหวัดจันทบุรีไม่มีศูนย์ทอผ้าเป็นการทอไว้ใช้ในระดับครัวเรือน จึงได้มีการส่งเสริมและยกระดับงานหัตถศิลป์ไปควบคู่กับศูนย์การทอผ้า การเปิดศูนย์ทอผ้าฯ ในวันนี้ เป็นการร่วมสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงขับเคลื่อนผ่านโครงการ “ผ้าไทย ใส่ให้สนุก” เพื่อที่จะให้พระราชปณิธานที่มีจุดมุ่งหมายสำคัญยิ่ง คือ การที่จะทำให้พี่น้องคนไทยกลุ่มอาชีพช่างศิลป์ และช่างฝีมือ สามารถสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ จากงานหัตถศิลป์ หัตถกรรม และผลิตภัณฑ์จากผ้าไทย นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิต ครอบครัว ชุมชน เพื่อร่วมสร้างสังคมที่มีความยั่งยืนในทุกมิติ ตั้งแต่ต้นน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนงานตามกลไก 3 5 7 (3 ระดับ 5 กลไก 7 ภาคีเครือข่าย) และ หลัก บ ว ร (บ้าน วัด ราชการ) อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนเผยแพร่ ผ้าลายประจำจังหวัดจันทบุรี และตอบสนองนโยบายของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย
นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวต่อว่า จากเอกสารจดหมายเหตุได้มีการบันทึกเกี่ยวกับลวดลายผ้าทอและการค้าขายผ้าเมืองจันทบุรี รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) จากที่พระองค์ได้เสด็จประพาสเมืองจันทบุรี พ.ศ. 2419 มีความตามบันทึกเกี่ยวกับผ้า ที่มีการซื้อขายและใช้อยู่ในเมืองจันทบุรี คือ “ผ้าจันทบูรลายราชวัตร” ซึ่งเป็นงานผ้าทอเมืองจันทบุรีที่เคยเลื่องลือถึงขั้นเป็นผ้าทอราชสำนักฯ ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงโปรดปรานเป็นอันมาก ตามที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ มีลายพระหัตถ์ถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ว่า “สมเด็จโปรดทรงพระภูษาไหมทอที่เมืองจันทบุรีมาเป็นนิจไม่ทรงผ้าไหมที่ทอมาจากเมืองจีนเลย” แต่ในปัจจุบันผ้าจันทบูรลายราชวัตร” ได้เลือนหายไปตามกาลเวลาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งจังหวัดจันทบุรีร่วมกับชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดจันทบุรี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี ได้ริเริ่มให้มีการประกวดออกแบบลวดลายผ้าเพื่อฟื้นฟูและต่อยอดให้ผ้าไทยประจำพื้นถิ่นจันทบุรี กลับคืนมาเป็นมรดกให้ลูกหลานอย่างยั่งยืน
“ลายผ้าประจำจังหวัดจันทบุรีที่ชนะเลิศ คือ ลายปัญจจันทบูร โดยนายสุกฤษฎิ์ วิจิตรสมบัติ เป็นผู้ออกแบบดังกล่าว และต้องขอขอบคุณชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดจันทบุรี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดจันทบุรี อำเภอโป่งน้ำร้อน สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอสอยดาว สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอสอยดาว หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนที่ได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ทอผ้าบ้านคลองบอนและบ้านซับตารี และขอขอบคุณผู้ใหญ่บ้านคลองบอน ผู้ใหญ่บ้านซับตารี ประธานกลุ่มและสมาชิกกลุ่มทอผ้าบ้านคลองบอนอำเภอโป่งน้ำร้อน และสมาชิกกลุ่มทอผ้าบ้านซับตารีอำเภอสอยดาวทุกคนที่สืบสาน รักษา และต่อยอด อุทิศเวลาแรงกายแรงใจในการขับเคลื่อนกลุ่มทอผ้าตั้งแต่วันที่ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดจันทบุรี และสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอโป่งน้ำร้อนและอำเภอสอยดาวเข้ามาส่งเสริมสนับสนุนค้นหากลุ่มทอผ้า และพาไปศึกษาดูงานและอบรมฝึกทักษะการทอผ้าลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัดจันทบุรี ที่วิชชาลัยสอนทอผ้าเทวาผ้าไทย จังหวัดหนองบัวลำภู (เทวาผ้าไทย) ระหว่าง วันที่ 30 มิถุนายน 2565 – ถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ซึ่งจากวันแรกจนถึงวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ศูนย์ทอผ้าบ้านคลองบอน อำเภอโป่งน้ำร้อนและศูนย์ทอผ้าบ้านซับตารี อำเภอสอยดาว จะเป็นศูนย์กลางการสืบสานอัตลักษณ์ภูมิปัญญาสร้างงานสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับชุมชนและอนุรักษ์การทอผ้าลายประจำจังหวัดจันทบุรีสืบต่อไป นอกจากนี้ จังหวัดจันทบุรีมีแผนจะขยายผลการสืบสานปณิธานการส่งเสริมให้ใช้ผ้าไทย ผ่านการเปิดศูนย์ผ้าทอเพื่อให้เพียงพอต่อการผลิต และความต้องการในการอุปโภคสำหรับคนจันทบุรี นำไปสู่การส่งออกต่างประเทศ” นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวทิ้งท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 375/2565 วันที่ 26 ก.ย. 65
