วันนี้ (20 ก.ย. 66) เวลา 13.30 น. ที่ลาน Q Stadium ชั้น M ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน OTOP Midyear 2023 “ที่สุดแห่งภูมิปัญญา รังสรรค์จากการพัฒนา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย” โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายชูชีพ พงษ์ไชย นายวิฑูรย์ นวลนุกูล นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ดร.ศรินดา จามรมาน ที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก นายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยและที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก หน่วยงานภาคีเครือข่าย นักท่องเที่ยว และสื่อมวลชน ร่วมในงาน
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมโดยการส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพ มีงานทำ และสร้างรายได้ โดยการสนับสนุนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ สนับสนุนให้ชุมชนได้มีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้สมัยใหม่ แหล่งเงินทุน รวมทั้งพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการและการตลาดเพื่อเชื่อมโยงสินค้าจากชุมชนสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมุ่งหวังให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายสินค้า ประกอบกับกระทรวงมหาดไทยมีนโยบายในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาด และการจำหน่าย “มุ่งเน้นการลดรายจ่าย สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ” เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน ทั้งในระดับครัวเรือนและชุมชน
“ประเทศไทยเรามีของดีมีคุณภาพอยู่แล้ว แต่เราจะผลักดันผลิตภัณฑ์ชุมชนไปสู่สากล กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนที่ผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งการจัดงาน OTOP Midyear 2023 นี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งให้พี่น้องประชาชนคนไทยและชาวต่างชาติได้รู้จักสินค้าชุมชน และยังเป็นการประกาศให้คนทั้งโลกได้รับรู้ถึงคุณค่าของงานหัตถกรรมที่เป็นภูมิปัญญาของประเทศไทย ในการยกระดับผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยสู่สากลมากยิ่งขึ้น คนทุกเพศ ทุกวัยสามารถสวมใส่ได้ นับเป็นพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทำให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้รับโอกาสที่ดีของชีวิตในการที่จะต่อยอดผลิตภัณฑ์ของชุมชน รวมถึงการพัฒนากลวิธีในการขาย ทั้งออนไซด์ (On-site) และออนไลน์ (Online)” นายชาดาฯ กล่าว
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าเราทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการยกระดับผลิตภัณฑ์ ก็จะสร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าสามารถแข่งขันในต่างประเทศได้ นำไปสู่ตลาดสากล ซึ่งเม็ดเงินทั้งหมดจากการซื้อขายผลิตภัณฑ์ชุมชนจะหมุนกลับไปสู่พี่น้องประชาชนคนไทยในชุมชน เป็นการสร้างโอกาสให้กับคนต่างจังหวัด เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกท่าน และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ไปช่วยกันอุดหนุนสินค้าไทย ที่เราภาคภูมิใจ มีความชื่นชม ซึ่งนอกจากจะได้เลือกซื้อสินค้าแล้ว ยังเป็นการทำบุญเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกัน ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก นำไปสู่ประเทศไทยที่ยั่งยืน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดียิ่งที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พวกเราทุกคนได้เห็นผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดงาน OTOP Midyear 2023 นี้ จะได้เป็นโอกาสอันดีของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่ได้รับพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่พระองค์ท่านทรงทุ่มเทพระวรกายลงพื้นที่ไปโค้ชชิ่งกลุ่มทอผ้าในภูมิภาคต่าง ๆ รวมถึงการพระราชทานพระดำริให้คณะทำงาน “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ทำให้ผลิตภัณฑ์ชุมชน งานหัตถกรรมที่เป็นภูมิปัญญาไทย ได้มีรูปแบบที่ทันสมัยสวยงาม มีความเป็นเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
“ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงไปให้กำลังใจกลุ่มทอผ้าและได้พระราชทานพระดำริในการผ่าทางตันของวงการแฟชั่นผ้าไทย ด้วยการกระตุ้นภาคการผลิต (Supply Side) โดยทำให้ผลิตภัณฑ์ หัตถศิลป์ หัตถกรรม ได้รับการพัฒนายกระดับสู่สากล ไปทำให้เกิดความต้องการ (Demand Side) ของผู้บริโภค ในการเลือกซื้อเลือกหาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น และขณะเดียวกัน พระองค์ยังทรงเน้นย้ำเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนาแฟชั่น โดยพระราชทานพระดำริ “แฟชั่นยั่งยืน : Sustainable Fashion” ด้วยการผลักดันให้กลุ่มทอผ้าย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ Zero Waste ที่ไม่ทำให้เกิดของเสียหลงเหลือ” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงาน OTOP Midyear 2023 ครั้งนี้ จะเป็นโอกาสที่สำคัญของคนไทยและประเทศชาติ 3 ประการด้วยกัน คือ 1) ผลความสำเร็จของพี่น้องประชาชนที่ได้รับพระกรุณาโค้ชชิ่งจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ริเริ่มตั้งแต่บ้านดอยกอย ที่สามารถยกระดับรายได้ของพี่น้องประชาชนชาวนา จนมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 700 บาทเป็น 20,000 บาทต่อเดือน ในปัจจุบัน อีกทั้งยังส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มกัน ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม มุ่งเน้นการพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นแนวทางนำไปสู่ความยั่งยืน 2) งานนี้จะเป็นการแสดงสินค้าที่ผ่านความมุ่งมั่นตั้งใจของพี่น้องประชาชนกลุ่มทอผ้าที่มีใจมุ่งมั่นในการผ่าทางตัน ยอมปรับเปลี่ยนการออกแบบตัดเย็บ ทำให้ผ้าไทยมีความทันสมัย มีความสวยงาม เหมาะสมกับทุกเพศ ทุกวัย 3) งานนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าตลอดเวลาตั้งแต่การเกิดโรคระบาดโควิด-19 ถึงปัจจุบัน พี่น้องประชาชนมีคุณภาพที่ดีขึ้น มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ ซึ่งการที่คนหลากหลายมาร่วมในงานนั้น นอกจากจะได้มารับชม มาเลือกซื้อสินค้าชุมชน งานหัตถกรรมไทยแล้ว ยังจะได้มาเยี่ยมชมให้กำลังใจ กลุ่มฝึกฝนวิชาชีพที่มาจากพื้นที่ห่างไกล ซึ่งแต่ละกลุ่มนั้นมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน จึงจะเป็นโอกาสที่ดีในการศึกษาเรียนรู้ ถ่ายทอดซึ่งกันและกัน จึงเป็นประโยชน์ในการรวมกลุ่ม ตลอดจนถึงการแสดงสินค้าและบริการจากภูมิปัญญาไทย เพื่อการดึงดูดคู่ค้าจากต่างประเทศ ในการนำผลิตภัณฑ์ไทยไปขายยังต่างประเทศในอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อภาคเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก ที่จะเป็นคุณประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติโดยรวม
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การจัดงาน “OTOP Midyear 2023” ในครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 17 แล้ว ภายใต้ธีมงาน “ที่สุดแห่งภูมิปัญญา รังสรรค์จากการพัฒนา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย” เป็นจุดเริ่มต้นของนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีความล้ำค่าจากฝีมือคนไทยที่สะท้อนภูมิปัญญาและความสามารถของคนไทยอย่างชัดเจน รวมถึงมีการสร้างบรรยากาศภายในงานจากเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาที่แสดงความเป็นท้องถิ่นไทยในแต่ละภูมิภาค ผสมผสานกับสีสันส่งท้ายปีที่สร้างความคึกคัก เต็มไปด้วยความสนุกสนานของกิจกรรม และของรางวัลมากมาย โดยภายในงานมีกิจกรรมที่มีความหลากหลาย ประกอบด้วย 1) โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2) โซน OTOP Trader จังหวัดและประเทศไทย จัดสรรพื้นที่ในรูปแบบ Open Area เพื่อจัดแสดงผลงานและจัดหาช่องทางทางการตลาดให้แก่สินค้า OTOP ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ 3) โซนแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP 3 – 5 ดาว ที่ผ่านการคัดสรรรสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ประจำปี พ.ศ. 2565 กว่า 1,200 บูธ 4) โซนโอทอปชวนซิม มากกว่า 160 ร้านค้าทั่วประเทศ
“ไฮไลต์สำคัญของงานนี้ ยังมีโซนศิลปิน OTOP จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากศิลปิน OTOP กว่า 40 ราย ที่อนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น โซนชุมซนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี โซนผ้าไทยใส่ให้สนุกและ First Lady โซนพิเศษภายในงานอีกมากมาย อาทิ โซน Health & SPA ที่ได้สร้างสรรค์พื้นที่ภายในงานให้ทุกท่าน ได้พักผ่อนหย่อนใจไปกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายสไตล์สปาไทย พร้อมกับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรคุณภาพดีให้ทุกท่านได้เลือกช้อป นอกจากนี้ ยังมีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องชื่อดังมาร่วมสร้างความบันเทิงอย่างคับคั่ง ได้แก่ แช่ม แช่มรัมย์ นนทิยา จิวบางป่า รัชนก ศรีไลพันธ์ ลำยอง หนองหินห่าว ไรอัล ไมค์หมดหนี้ ตรี ชัยณรงค์ เต๋ ภูศิล หญิง ธิติกานต์ และป็อป ปองกูล รวมถึงการจับสลากรางวัลชิงโชค ไม่น้อยกว่า 20 รางวัล และในวันสุดท้ายของการจัดงานร่วมลุ้นรับรางวัลใหญ่ทองคำ มูลค่ากว่า 200,000 บาท จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านร่วมสนับสนุนสินค้าจากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ในงาน OTOP Midyear 2023 พร้อมพบกับความหลากหลายของสินค้าที่คัดสรรจากทั่วทุกภูมิภาคของไทยมาให้ ชม ชิม ช้อป กันอย่างจุใจ โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 1 ตุลาคม 2566 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 – 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสนับสนุนในการสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ให้พี่น้องผู้ผลิต ผู้ประกอบการ” นายอรรษิษฐ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 877/2566 วันที่ 20 ก.ย. 2566