วันนี้ (20 พ.ย. 65) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ภัยของยาเสพติดนอกจากจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมแล้ว ยังทำให้ผู้เสพเกิดอาการทางระบบประสาท หรือเป็นโรคจิตวิปลาศมากยิ่งขึ้น จนเป็นเหตุให้เกิดการคลุ่มคลั่งทำร้ายคนในครอบครัว หรือเพื่อนบ้านโดยไม่มีสติยั้งคิด สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชุมชน เป็นปัญหาสังคมที่ทุกคนต้องมาช่วยกันระดมทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือเเละเเก้ปัญหา ที่สำคัญคือ หากปล่อยไว้นานวันจะทวีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ จากระดับผู้ป่วยสีเขียว กลายเป็นสีเหลือง และสีแดง ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันเรื่องดังกล่าว หน้าที่สำคัญของพวกเรา คือ ต้องช่วยกันตัดวงจรเหล่านี้ให้ได้ ซึ่งจะเป็นผลดีทั้งกับตัวผู้ป่วยจิตเวชที่ได้รับการบำบัด รักษา และฟื้นฟูให้กลับมามีโอกาสใช้ชีวิตตามปกติ และสังคมโดยรวมทั้ง คนรอบข้าง คนในครอบครัว รวมถึงคนในชุมชน ก็จะลดความเดือดร้อนรำคาญ หรือ หวาดระแวงจากภยันตรายต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงมีนโยบายให้กระทรวงมหาดไทยเร่งเเก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ เร่งนำตัวผู้ป่วยยาเสพติด ทั้งจากชุดข้อมูลที่มีอยู่แล้ว จากการ Re X-Ray ใหม่ หรือจากการแจ้งเบาะแสต่าง ๆ ในทุกช่องทาง จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตระหนักความสำคัญของเรื่องนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติด สำหรับวันนี้ มีการดำเนินการเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในหลายประเด็น ซึ่งจะขอหยิบยกมาเป็นตัวอย่าง ดังนี้
1.จังหวัดเชียงราย นายดิเรก คชารักษ์ ผอ.สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 ได้แถลงผลการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 384,000 เม็ด ที่ด่านศุลกากรแม่สาย จากการสืบทราบว่ามี มีคนนำสุราเถื่อนไปส่งยังบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จึงได้นำกำลังชุดปราบปรามศุลกากรแม่สาย ออกตรวจค้นตามโกดังต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอแม่สาย กระทั้งไปพบกล่องจำนวน 8 กล่อง วางปะปนกับสินค้าอื่น มีลักษณะไม่เหมือนพัสดุโดยทั่วไป จึงทำการตรวจสอบกล่องพัสดุ มีชื่อผู้ส่ง น.ส.กุล (นามสมมุติ) ต.ป่าแดด อ.ป่าแดด ผู้รับ นายริน (นามสมมุติ) ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในกล่อง พบเป็นสุราต่างประเทศเถื่อน คาดว่าจะมีการลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ จากประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้อายัดไว้เป็นของกลาง และได้พยามติดต่อไปยังผู้ส่ง และผู้รับ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ หลังจากยึดไว้ตามระยะเวลากฎหมายที่กำหนด ทางศุลกากรจึงได้เชิญทางพนักงานขนส่ง มาเปิดกล่องสุราต่างประเทศพร้อมกัน ที่ด่านศุลกากรแม่สาย พบว่ากล่องสุราต่างประเทศมีน้ำหนักผิดปกติ 1 ลัง มี 12 ขวด จึงทำการแกะออกดู พบซุกซ่อนยาบ้าในกล่องสุราจำนวน 6 กล่อง อีก 6 กล่อง มีสุราเถื่อนต่างประเทศจริง คาดว่าดัดแปลง เพื่อให้ได้น้ำหนักที่เท่ากัน เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้หลังจากการพิสูจน์ เสร็จสิ้นของทางเจ้าหน้าที่ศุลกากร จะนำส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย ดำเนินการขยายผลตามผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป
2.จังหวัดนครศรีธรรมราช นายไพรัตน์ ทับชุม นายอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้นายวีระชัย บุญนิสัย ปลัดอำเภอฝ่ายมั่นคง หัวหน้าชุดปฎิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอสิชล พร้อมด้วยนายณัฐวัฒน์ พรหมนวล ผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินเเดนจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ 1 หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบบ้านต้องสงสัยในพื้นที่ ม.1 ต.สิชล อ.สิชล พบไอซ์จำนวน 2 ถุง และอาวุธปืน .38 พร้อมกระสุน 20 นัด วางอยู่หน้าห้อง ในขณะที่เจ้าของบ้านกำลังนำยาบ้า และยาไอซ์เทลงในตู้เลี้ยงปลา เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมทราบชื่อนายกิตติศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช แต่มาเช่าบ้านขายยาเสพติด เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 387 เม็ดและยาไอซ์ อีก 3 ถุงใหญ่ แอบซ่อนไว้ในตู้ลำโพง น้ำหนักรวม 398.31 กรัม พกเงินสด 23,660 บาทสร้อยคอ 2 บาทและแหวน 1 วง โทรศัพท์มือถืออีก 3 เครื่อง ส่วนยาบ้าและยาไอซ์ที่เทลงอ่างปลายาบ้า 50 เม็ด ไอซ์ประมาณ 1 ขีด ละลายในน้ำจนปลาตายหมดทั้งตู้ เจ้าหน้าที่ช่วยกันเทน้ำในอ่างปลา ลงในถังน้ำดื่มเพื่อเป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีต่อไป
3.จังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองไหม อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำโดย พ.ต.ต.ชัยพิชิต ปฏิสังข์ สารวัตรปราบปราม สภ.เมืองไหมและเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พร้อมด้วยนายสำรอง มนตรี กำนันตำบลหนองตูมและชาวบ้านกำลังช่วยกันจับกุมนายนายอนิวัฒน์ หรือ แด๊ก (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี อยู่บ้านพื้นที่ ม.2 ต.หนองตูม อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ว่านายอนิวัฒน์ฯ กำลังเมายาอาละวาดและมีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบนายอนิวัฒน์ฯ กำลังอาละวาดขว้างปาสิ่งของภายในบ้านพูดจาลักษณะว่าจะมีคนมาทำร้ายตนเองและเตรียมตัวที่จะต่อสู้กับคนอื่นที่บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกให้ออกมาพูดคุย แต่นายอภิวัฒน์ฯ กลับคว้าขวานวิ่งตรงจะมาฟันเจ้าหน้าที่ เมื่อเห็นการเจรจาไม่เป็นผลจึงเรียกกำลังเสริมพร้อมนำอุปกรณ์ไม้ง่ามครบมือเข้าทำการจับกุม เมื่อนาย อภิวัฒน์ฯ เห็นเจ้าหน้าที่มากันหลายคนจึงยินยอมให้ควบคุมตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นภายในบ้านพร้อมตรวจปัสสาวะพบผลเป็นบวก ซึ่งนายอนิวัฒน์ฯ รับว่าก่อนหน้านี้ตนได้เสพยาบ้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจค้นเพิ่มเติมพบอาวุธปืนไทย ประดิษฐ์ขนาดลำกล้องยาว 9.5 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก อยู่ในตู้เสื้อผ้า เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่งยาบ้าโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จากนั้นจะนำเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟูต่อไป
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า จากกรณีที่กล่าวไปข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างที่หยิบยกมาเล่าเป็นอุทาหรณ์ ซึ่งเป็นตัวอย่างสำคัญที่ได้ขยายผลจากการแจ้งข้อมูล หรือเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะการพบเจอผู้ป่วยจิตเวชที่มีอาการคลุ้มคลั่ง สุ่มเสี่ยงที่จะก่ออันตราย ทำร้ายผู้คนอื่น ๆ ขอให้รีบแจ้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเครือข่ายของฝ่ายปกครองในพื้นที่ที่อยู่ใกล้โดยเร็ว เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้รีบเร่งระงับเหตุการณ์ป้องร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที นอกจากนี้ การจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากการแจ้งเบาะแสจากพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทุกคนร่วมเป็นพลังแผ่นดินในการขจัดภัยยาเสพติดให้สิ้นซากไปจากประเทศของเรา ด้วยการเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลให้ฝ่ายบ้านเมืองให้มากที่สุด นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ “กลับตัวกลับใจ” พวกเราก็จะต้องช่วยกันให้อภัยและให้โอกาส ผู้ที่เคยกระทำผิดมาก่อน ให้กลับตัวกลับใจเปลี่ยนจากคนเคยผิดให้มาเป็นพลังของสังคมและพลังของชุมชน นำประสบการณ์มาถ่ายทอดให้เด็กและเยาวชนมิให้หลงผิด ไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง และที่สำคัญครอบครัวจะต้องเป็นป้อมปราการที่สำคัญในการปกป้องคนในบ้านให้ห่างไกลจากยาเสพติด ให้ความรัก ความอบอุ่นซึ่งกันและกัน สร้างกิจกรรมร่วมกันในเวลาว่าง เช่น การปลูกผักสวนครัวตามโครงการบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง การจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อช่วยกันคัดแยกขยะ การเล่นกีฬา หรือ E-sport กิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ ซึ่งหากพวกเราทุกคนทำได้ตามที่กล่าวมาทั้งหมด จะเป็นภูมิคุ้มกันที่เข้มเเข็งต่อการป้องกันภัยจากยาเสพติดที่อาจเกิดกับครอบครัว ไปจนถึงชุมชน ซึ่งจะเป็นการเเก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 549/2565 วันที่ 20 พ.ย. 2565
